พังงา - เจ้าหน้าที่ภาครัฐ นำกำลังเข้าตรวจสอบพื้นที่บุกรุกในหมู่บ้านท่าซอ อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา หลังได้รับเรื่องร้องเรียนถูกนายทุนบุกรุกพื้นที่หลายครั้ง
วันนี้ (17 ก.ค.) ร.อ.สมภพ คำคณา รอง ผบ.ร้อยรักษาความสงบ ทัพเรือภาคที่ 3 พ.ต.อ.ธรัฐชา ถมปัดม์ รอง ผบก.ภ.จว.พังงา พ.ต.อ.สมยศ สีหาบัว ผกก.สภ.ท้ายเหมือง นายสุรชัย ทองศรีรักษ์ ปลัดอำเภอท้ายเหมือง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหารจากกองร้อยรักษาความสงบทัพเรือภาค 3 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจท้ายเหมือง ฝ่ายปกครองอำเภอท้ายเหมือง กำลังหน่วยพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 19 ลำแก่น-พังงา เข้าตรวจสอบพื้นที่กว่า 1,533ไร่ เศษ แบ่งเป็นที่ราชพัสดุ หรือพื้นที่สาธารณประโยชน์ และกรมธนารักษ์ โดยสามารถออกหนังสือสำคัญ 864 ไร่ ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างพิสูจน์สิทธิจากชาวบ้าน โดยพื้นที่ 864 ไร่นี้ ทางกรมธนารักษ์ ได้ทำสัญญาให้เอกชนเช่าทั้งหมดเมื่อปี 2532 แบ่งผู้เช่าเป็น 4 ราย แต่ได้บอกเลิกสัญญาไปเมื่อปี 2547 เพราะผิดสัญญาที่ระบุให้พื้นที่ดังกล่าวต้องมีการปลูกพืชเกษตรในปีแรก แต่ก็ยังไม่มีการกระทำดังกล่าว แต่ปัจจุบันมีเอกชนเข้าทำประโยชน์ด้วยการปลูกต้นปาล์มจับจองพื้นที่ ซึ่งมีอยู่เพียง 1 รายที่เช่าอย่างถูกต้อง
ทางกรมธนารักษ์ เตรียมนำพื้นที่นี้ไปใช้ประโยชน์ในราชการ โดยทางมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จะเช่าเพื่อสร้างวิทยาเขตเพิ่ม และพื้นที่นี้ยังครอบคลุมไปถึงที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประกาศให้เป็นพื้นที่ป่าชายเลน และอยู่ติดกับอุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง ทำให้การสร้าง หรือปล่อยเช่าต้องถามความเห็นของกรมอุทยานและเจ้าพนักงายป่าชายเลนในพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่เคยเข้าแจ้งความไว้ แต่ถูกโทรศัพท์มาข่มขู่จากผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ หรือแม้แต่ชาวบ้านที่อยู่อาศัยที่สาธารณประโยชน์ในพื้นที่ใกล้เคียง ที่มักนำผลไม้มาปลูกในพื้นที่นี้ ก็ถูกนายทุนข่มขู่ และนำรถมาไถที่ และปลูกต้นปาล์มขึ้นแทน ซึ่งพื้นที่นี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเอกชนรายใดเข้ามาบุกรุก นอกจากนั้น ใน อ.ท้ายเหมือง ยังมีปัญหาการบุกรุกที่ดินสาธารณประโยชน์อีกหลายแห่ง ซึ่งป่าบริเวณแถบนี้เป็นพื้นที่ซับน้ำเค็มเพื่อป้องกันปัญหาการปนเปื้อนในแหล่งน้ำจืด