xs
xsm
sm
md
lg

Surface Mini หายไปไหน?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พาโนส โพเนย์ (Panos Panay) ประธานฝ่ายธุรกิจ Surface ของไมโครซอฟท์
ทันทีที่จบงานเปิดตัวแท็บเล็ตรุ่นใหม่ของไมโครซอฟท์เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคมที่ผ่านมา หลายคนตั้งคำถามว่าทำไมไมโครซอฟท์จึงเปิดตัวแต่รุ่นใหญ่ของตระกูล “เซอร์เฟซ โปร 3 (Surface Pro 3)” เพราะก่อนหน้านี้ข่าวลือมากมายตอกย้ำว่าไมโครซอฟท์กำลังพัฒนา Surface รุ่นเล็กที่ใช้ชิปประหยัดพลังงาน ARM บนหน้าจอขนาดกะทัดรัด

ทั้งหมดนี้ทำให้โลกอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับ “เซอร์เฟซ มินิ (Surface Mini)” และไมโครซอฟท์ตัดสินใจจัดการกับอนาคตของ Surface รุ่นเล็กที่ถูกดองเค็มตั้งแต่ยังไม่ทันได้ลืมตาดูโลกอย่างไร

***เกิดอะไรขึ้น ??

ไมโครซอฟท์นั้นร่อนบัตรเชิญสื่อมวลชนให้ร่วมงานของกลุ่มงาน Surface เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2014 งานนี้ทำให้นักวิเคราะห์เชื่อว่าไมโครซอฟท์จะเปิดตัวแท็บเล็ตรุ่นใหม่พร้อม Surface รุ่นจิ๋วที่ถูกร่ำลือมานานกว่า 1 ปีแล้ว ว่าไมโครซอฟท์กำลังพัฒนา Surface ที่มีหน้าจอเล็ก โดยความเป็นไปได้ส่วนหนึ่งคือคำประกอบบัตรเชิญว่า “Small” ที่สะท้อนถึงจุดเด่นเรื่องขนาดกะทัดรัด

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ไมโครซอฟท์เปิดตัวแท็บเล็ตเพียงรุ่นเดียวในงานดังกล่าว นั่นคือ Surface Pro 3 ซึ่งไมโครซอฟท์การันตีว่าจัดเต็มความสามารถลูกผสมระหว่างคอมพิวเตอร์พีซีกับแท็บเล็ตลงใน Surface Pro 3 เครื่องเดียว

เมื่อไร้เงา Surface Mini สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) จึงไถ่ถามจากแหล่งข่าววงใน จนพบว่าแม้ไมโครซอฟท์จะพัฒนา Surface Mini จริง แต่ซีอีโอ “สัตยา นาเดลลา (Satya Nadella)” และรองประธานอย่าง “สตีเฟน อีลอป (Stephen Elop)” คือผู้ตัดสินใจชะลอการเปิดตัวครั้งนี้ และขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่า Surface Mini จะมีโอกาสแจ้งเกิดสู่สาธารณชนในอนาคตหรือไม่และเมื่อไร

ที่ผ่านมา รายงานข่าวลือมากมายระบุว่า Surface Mini จะมาพร้อมชิป ARM ซึ่งเน้นคุณสมบัติประหยัดพลังงานและใช้กันมากในสินค้ากลุ่มสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตรุ่นเล็ก โดยข้อมูลเบื้องต้นระบุว่า Surface Mini จะใช้ระบบปฏิบัติการ Windows RT ซึ่งเป็นวินโดวส์เวอร์ชันเล็กที่รองรับเฉพาะแอปพลิเคชันไม่ใช่โปรแกรมซอฟต์แวร์เต็มรูปแบบอย่างที่ Windows ปกติทำได้ จุดประสงค์ของ Surface Mini คือเพื่อแข่งขันกับ “ไอแพด มินิ (iPad Mini)” ของแอปเปิล

ปรากฏว่าทั้งซีอีโอและรองประธานไมโครซอฟท์ตัดสินใจไม่โชว์ตัว Surface Mini เนื่องจากมองว่า Surface Mini ยังไม่มีจุดขายที่แตกต่างจากคู่แข่ง ซึ่งถือว่ายังไม่ “แจ่ม” พอจะทำให้เกิดเป็นกระแสฮิตได้ ดังนั้นไมโครซอฟท์จึงเปลี่ยนใจไม่วางเดิมพันที่ Surface Mini แล้วหันมาเน้นเฉพาะแท็บเล็ตหน้าจอใหญ่กว่าอย่าง Surface Pro 3 แทน

เรื่องนี้พาโนส พาเนย์ (Panos Panay) ประธานฝ่ายธุรกิจ Surface ของไมโครซอฟท์ ให้สัมภาษณ์หลังงานเปิดตัว Surface Pro 3 ที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกาว่า ไมโครซอฟท์ลงมือพัฒนาสินค้ารุ่นจิ๋วจริง แต่ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลมากกว่านี้ โดยระบุเพียงว่าการพัฒนาจะยังดำเนินต่อไป

ปัจจุบันไมโครซอฟท์มีส่วนแบ่งตลาดแท็บเล็ตเพียง 1.3% เท่านั้น ข้อมูลนี้สะท้อนว่าไมโครซอฟท์จะต้องมุ่งพัฒนา Surface รุ่นใหม่เพื่อขยายส่วนแบ่งการตลาดให้สำเร็จ จุดนี้นักวิเคราะห์เชื่อว่าไมโครซอฟท์รู้ดีถึงจุดยืนของตัวเอง ทำให้ไมโครซอฟท์เชื่อมั่นใน Surface รุ่นใหญ่ว่าจะสามารถทำการตลาดได้ดีกว่า

*** ใหญ่กว่า ดีกว่า??

เหตุที่ทำให้ไมโครซอฟท์ตัดสินใจว่าตัวเองจะสามารถทำตลาดแท็บเล็ตที่ใหญ่กว่า ได้ดีกว่า (อย่างน้อยก็ในขณะนี้) คือแท็บเล็ตหน้าจอจิ๋วในขณะนี้ล้วนวางจำหน่ายในราคาสบายกระเป๋า ซึ่งการแข่งขันราคาไม่ใช่วิถีทางที่ไมโครซอฟท์จะเดินไปแน่นอน

วันนี้ Apple iPad mini หรือ Amazon Kindle Fire HDX ล้วนจำหน่ายในราคาเอื้อมถึง คุณสมบัติและความพร้อมด้านคอนเทนต์ ทำให้ไมโครซอฟท์รู้ดีว่า Surface mini ที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows RT ดั้งเดิมนั้นยังไม่มีจุดขายที่แข็งพอจะทำให้ผู้บริโภคนึกอยากซื้อ Surface ก่อนแบรนด์อื่น

อย่างไรก็ตาม คำให้สัมภาษณ์ของผู้บริหารไมโครซอฟท์ชี้ว่าเจ้าพ่อซอฟต์แวร์ยังไม่ยอมแพ้กับการสร้างสรรค์แท็บเล็ตหน้าจอจิ๋ว เพราะขณะนี้ไมโครซอฟท์ยังมองโอกาสเติบโตรอบด้านและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายเหมือนที่เคยประกาศจุดยืนของตัวเองมาตลอด

สิ่งที่ไมโครซอฟท์เลือกทำในขณะนี้จึงเป็นการทิ้งสิ่งที่ยังไม่มั่นใจ และหันมาวางเป้าหมายให้ Surface เป็นแท็บเล็ตที่ผู้ใช้คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กมองหา โดยงานนี้ไมโครซอฟท์การันตีว่าออกแบบ Surface Pro 3 ให้เป็นสุดยอดตัวเลือกใหม่ของผู้คิดจะซื้อคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กทั่วโลก

Surface Pro 3 ถูกยกให้เป็นอุปกรณ์ที่ผู้ใช้สามารถผลิตและรับชมสื่อดิจิตอลได้เต็มรูปแบบในเครื่องเดียว ทำให้ Surface รุ่นนี้คือคอมพิวเตอร์พีซีเต็มพลังที่มีรูปร่าง ขนาด และน้ำหนักเบาหวิวของแท็บเล็ต โดยผู้บริหารไมโครซอฟท์ย้ำว่า Surface Pro 3 คือแท็บเล็ตที่สามารถทำงานแทนคอมพิวเตอร์วางตักหรือแล็ปท็อปได้สมบูรณ์แบบ

Surface Pro 3 จึงถูกเปิดตัวพร้อมหน้าจอขนาด 12 นิ้ว ซึ่งใหญ่เต็มตากว่ารุ่นก่อนหน้าอย่าง Surface Pro 2 ตัวเครื่อง Surface Pro 3 บาง 9.1 มม. ถือว่าบางลงกว่า Surface Pro 2 ราว 14% แถมยังเป็นสินค้าที่มีขนาดบางที่สุดเมื่อเทียบกับบรรดาเครื่องที่ใช้ชิปตระกูลคอร์ (Core) จากอินเทล (Intel)

อย่างไรก็ตาม ขนาดของ Surface Pro 3 ถือว่าใกล้เคียงกับ iPad 2 แท็บเล็ตรุ่นเก่าของแอปเปิล และมีขนาดหนากว่า iPad Air รุ่นล่าสุด 18% โดยในมุมน้ำหนัก ไมโครซอฟท์การันตีว่า Surface Pro 3 มีน้ำหนัก 800 กรัม คำนวณแล้วถือว่าเบากว่าแมคบุ๊กแอร์ (Apple MacBook Air) รุ่นล่าสุดของแอปเปิล

และเพื่อให้สามารถแข่งขันได้ ไมโครซอฟท์ตัดสินใจเฉือนราคาจำหน่าย Surface รุ่นล่าสุดลง โดย Surface Pro 3 ถูกตั้งราคาไว้ที่ 799 เหรียญสหรัฐ (ราว 25,600 บาท) ต่ำกว่า 999 เหรียญสหรัฐ (ราว 32,000 บาท) ที่เคยกำหนดไว้ให้ Surface Pro 2



นอกจากเครื่อง ไมโครซอฟท์ลงมือโชว์ตัวโปรแกรมพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อ Surface Pro 3 รุ่นใหม่โดยเฉพาะ เช่นโปรแกรมแต่งภาพ Adobe (ADBE) Photoshop และซอฟต์แวร์เขียนหน้าจอ Final Draft ซึ่งคาดว่าจะเป็นจุดขายที่สำคัญที่ทำให้ Surface Pro 3 โดดเด่นกว่าแท็บเล็ตรุ่นอื่นในตลาด

ในขณะที่ไมโครซอฟท์ทำตลาด Surface Pro 3 นักวิเคราะห์เชื่อว่าไมโครซอฟท์จะเร่งมือพัฒนา Surface Mini อย่างหนักในมุมซอฟต์แวร์ โดยเฉพาะความสามารถของระบบปฏิบัติการวินโดวส์และแอปพลิเคชันสำหรับใช้งานกับ ระบบบนชิป ARM

งานนี้เรียกว่า ไมโครซอฟท์คงถือคติ 'ช้าๆได้พร้าเล่มงาม' อย่างชัดเจน

Company Related Link :
Microsoft

CyberBiz Social



Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket




กำลังโหลดความคิดเห็น