เดลล์ชี้กฎอัยการศึกเป็นบวกทำให้ลูกค้าสบายใจขึ้น เผยไตรมาสแรกยังมียอดขายดีในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก พร้อมจัดงาน เดลล์ โซลูชั่นส์ ทัวร์ 2014 นำเสนอ 4 ธีมหลักสำคัญ Transform, Connect, Inform, Protect มุ่งนำเสนอโซลูชันที่หลากหลายเจาะกลุ่มลูกค้าทุกขนาด เน้นกลุ่มธนาคาร ภาครัฐ การศึกษา และโรงพยาบาล พร้อมนำเสนอระบบไอทีสำหรับอนาคต นำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ 2 รุ่นในกลุ่มสตอเรจ และเน็ตเวิร์กกิ้ง
นายอโณทัย เวทยากร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดลล์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) และผู้จัดการทั่วไปภาคพื้นอินโดจีน กล่าวว่า เดลล์ยังมองไม่เห็นผลกระทบในระยะสั้นจากการประกาศกฎอัยการศึก ซึ่งการสอบถามลูกค้าแล้วทำให้ได้ผลเป็นบวก เพราะทำให้ลูกค้ารู้สึกสบายใจขึ้น เช่นเดียวกับการลงทุนระยะสั้นที่ประเมินว่ายังไม่ได้รับผลกระทบมากนักแต่อาจจะเป็นการทยอยลงทุน ซึ่งไตรมาส 1 ที่ผ่านมาเดลล์สามารถเติบโตได้อย่างดีทั้งในพีซีองค์กร พีซีสำหรับลูกค้าทั่วไป และกลุ่มเซิร์ฟเวอร์
ทั้งนี้ เดลล์ได้จัดงาน เดลล์ โซลูชั่นส์ ทัวร์ 2014 เพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 30 ปี และเพื่อเป็นการโชว์โซลูชันที่ครอบคลุมและกระตุ้นให้เกิดการใช้งานโซลูชันมากกว่า ฮาร์ดแวร์ ซึ่งคลาวด์คอมพิวติ้งเป็นทิศทางของไอทีอยู่แล้ว การเมืองอาจจะเป็นตัวเร่งนิดหน่อยเท่านั้น แต่ท้ายที่สุดแล้วเทคโนโลยีจะเป็นตัวกระตุ้นให้ธุรกิจต้องปรับตัวตาม โดยในปีนี้คาดว่าเอนเตอร์ไพรส์โซลูชันจะเป็นตัวผลักดันให้เดลล์เติบโตขึ้น ส่วนทางด้านการปรับโครงสร้างของเดลล์นั้นขณะนี้อยู่ในโครงสร้างใหม่เรียบร้อยแล้ว เน้นแบ่งการดูแลผลิตภัณฑ์ชัดเจนว่าพาร์ตเนอร์รายไหนดูแลสินค้าอะไร
เดลล์ โซลูชั่นส์ ทัวร์ 2014 ที่จัดขึ้นนี้เป็นเสมือนการย่อส่วนงาน “เดลล์ เวิลด์” ที่จะนำเสนอความพร้อมในการให้บริการด้านไอทีแบบครบวงจรด้วยโซลูชันและเทคโนโลยีทั้งหมดที่เดลล์มี โดยเน้นความเหมาะสมกับองค์กรในประเทศไทยในทุกขนาดของธุรกิจ โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจทางด้านการเงิน ธนาคาร องค์กรภาครัฐ ภาคการศึกษา และโรงพยาบาล นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการจัดแสดง Dell Office Connect ออฟฟิศยุคใหม่ที่ได้จำลองนำเอาเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาประยุกต์ใช้กับองค์กร ทั้งในส่วนของฮาร์ดแวร์ และซอร์ฟแวร์
“ปัจจุบันคลาวด์ คอมพิวติ้ง โมบิลิตี บิ๊กดาต้า อินเทอร์เน็ต และไอทีที่กำกับโดยซอฟต์แวร์ (software-defined IT) กำลังจะเข้ามามีบทบาทในไอทีมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะก่อให้เกิดคอนเวอร์เจนซ์ที่จะเชื่อมโยงไปถึงไอทีรูปแบบใหม่จะมุ่งเน้นไปที่การมีส่วนเกี่ยวข้องกับโซเชียลมากขึ้น ดังนั้นระบบพื้นฐานทางด้านไอทีจึงต้องได้รับการออกแบบเพื่อรองรับกระบวนการทำงานและธุรกิจรูปแบบใหม่เหล่านั้นด้วย ดังนั้นทุกธุรกิจจึงต้องเข้าหาไอทีที่พร้อมสำหรับอนาคต”
นายอโณทัยกล่าวว่า การนำเสนอโซลูชันของเดลล์จะนำเสนอธีมหลัก 4 ส่วน คือ 1. Transform การเพิ่มขีดความสามารถขององค์กรให้เพิ่มสูงขึ้นในขณะที่ใช้งบประมาณน้อยลง ด้วยเทคโนโลยีอย่าง คลาวด์ คอมพิวติ้ง ซึ่งกำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญ 2. Connect จะเสนอโซลูชันที่มุ่งไปที่การเพิ่มผลิตผลในการทำงานที่จะช่วยให้กลุ่มคนทำงานยุคใหม่สามารถทำงานได้อย่างปลอดภัยได้จากทุกที่ทุกเวลาตามเทรนด์ BYOD หรือการนำอุปกรณ์ส่วนตัวเข้ามาใช้ในที่ทำงาน
3. Inform การนำเสนอการจัดการหรือควบคุมข้อมูลที่มีปริมาณมหาศาล เพื่อสร้างความได้เปรียบในเชิงการแข่งขันทางธุรกิจ โดยใช้ Big Data & Analytics ที่กำลังมีความสำคัญต่อการบริหารจัดการเชิงธุรกิจมากขึ้น ซึ่งรวมไปถึงเทคโนโลยีการจัดการดาต้าเซ็นเตอร์ให้เกิดความคล่องตัว และ 4. Protect การดูแลรักษาความปลอดภัยขององค์กร ที่ครอบคลุมการโจมตีที่จะมาจากภายนอก
นายอโณทัยกล่าวว่า เดลล์ครบรอบ 30 ปีแล้ว ปัจจุบันมีพนักงานมากกว่า 100,000 คน และมีโซลูชันที่ครบถ้วนเริ่มตั้งแต่ดีไวซ์ ไปจนถึงดาต้า เซ็นเตอร์ จนกระทั่งระบบคลาวด์ จากจุดเริ่มต้นในปี 1984 ปัจจุบันเป็นบริษัทจำกัด (private company) ที่ใหญ่เป็นอันดับสามในสหรัฐอเมริกาในปีนี้ นอกจากนี้เดลล์ยังเป็นผู้ให้บริการอันดับหนึ่งในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น IT Healthcare ตลาดของ flat panel monitor โซลูชัน iSCSI สตอเรจ และเป็นอันดับ 2 ของ x86 เซิร์ฟเวอร์โพรวายเดอร์ทั่วโลก และอันดับ 2 ในบริการด้าน IT education ทั่วโลก
ด้านนายธเนศ อังคศิริสรรพ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เดลล์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันข้อมูลกลายเป็นทรัพย์สินที่มีค่าที่สุดขององค์กร ซึ่งจะเห็นได้จากการทุ่มงบประมาณที่ค่อนข้างสูงเพื่อใช้ในการจัดเก็บและดูแลรักษา ซึ่งการจัดการดังกล่าวยังต้องทำให้สามารถเข้าถึงข้อมูลได้มากขึ้นจากดีไวซ์ที่หลากหลายอีกด้วย
ดังนั้น เทรนด์สตอเรจระดับองค์กรในปี 2557 ที่จะรวมถึงแฟลช สตอเรจ จึงต้องมีความสามารถในการจัดการข้อมูลด้วยระดับความเร็วที่เพิ่มสูงขึ้นกว่าดิสก์รูปแบบเดิมๆ ในขณะที่มีราคาถูกลง นอกจากนี้ยังรวมไปถึงแฟลชในเซิร์ฟเวอร์ที่ได้มีการบูรณาการของเซิร์ฟเวอร์เข้ากับเทคโนโลยีแซน แฟลช เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตอบสนองได้ดีขึ้น
นายธเนศกล่าวว่า เดลล์ ในฐานะผู้ให้บริการไอทีโซลูชันแบบครบวงจรสามารถใช้ความเชี่ยวชาญด้านไอที ทั้งในส่วนของไอทีรูปแบบเดิม และไอทีรูปแบบใหม่ในการสร้างโซลูชันดาต้าเซ็นเตอร์สำหรับอนาคตที่ออกแบบมาเพื่อทำให้ไอทีแบบเดิมมีประสิทธิภาพมากขึ้น ขณะที่ทำให้ไอทีรูปแบบใหม่ทำงานได้อย่างเหมาะสมยิ่งขึ้น
โดยล่าสุดเดลล์ได้ทำการเปิดตัวสตอเรจ อะเรย์ มิด-เรนจ์ ตระกูล SC4000 ซีรีส์ ที่มาพร้อมกับออปชันของแฟลช อะเรย์ และไฮบริด อะเรย์ มีสมรรถนะการทำงานในระดับเอนเตอร์ไพรส์เพื่อการนำมาใช้งานในระดับมิด-เทียร์
โดยแฟลชโซลูชันทั้งหมดนี้ใช้ค่าใช้จ่ายที่น้อยกว่าคอมพีทติ้ง อะเรย์ 1 ถึง 76% และได้รับการออกแบบเพื่อสนับสนุนความต้องการใช้งานเวิร์กโหลดหลากรูปแบบ สามารถโฮสต์เมลบอกซ์ของผู้ใช้ไมโครซอฟท์ เอ็กซ์เชนจ์ได้ถึง 10,000 เมลบอกซ์ภายใน 2U SAN เพียงหนึ่งเดียว
นอกจากนี้ยังเปิดตัว Dell Networking Z9500 Fabric Switch โซลูชันระบบเชื่อมต่อเครือข่ายใหม่ล่าสุด ช่วยให้ลูกค้าปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานที่ทันสมัยให้ผลลัพธ์รวดเร็ว มีประสิทธิภาพสูง เพื่อการทำงานบนสภาวะแวดล้อมคลาวด์ที่มีการขยายระบบแบบ Scale-out โดยผลิตภัณฑ์ใหม่ประกอบไปด้วย Dell Networking Z9500 อุปกรณ์เชื่อมต่อเครือข่ายที่ให้ความจุต่อแร็กสูงที่สุด ให้ประสิทธิภาพด้านประหยัดพลังงานสูง และเป็นสวิตช์หลักสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ 10/40 GbE
Company Related Link :
DELL
CyberBiz Social