โวยรถบรรทุกดินวิ่งผ่านวัดหลวงปู่บุญ ทำพื้นปูนโบสถ์-เมรุ-มณฑป-อาคารเกิดรอยแตกร้าว

ระยอง - ไวยาวัจกรวัดบ้านนา หรือ “หลวงปู่บุญ วัดบ้านนา” เมืองระยอง ร้องสื่อรถบรรทุก 10 ล้อ และรถพ่วง 18 ล้อบรรทุกหิน ดิน ทราย วิ่งผ่านหน้าวัดบนถนนหลวงปู่บุญ-มงกุฎเมือง ส่งผลให้พื้นปูนโบสถ์ เมรุ มณฑป และอาคารเกิดรอยแตกร้าว

วันนี้ (7 เม.ย.57) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายพีระพงษ์ จริตงาม อายุ 44 ปี ไวยาวัจกรวัดบ้านนา อ.แกลง จ.ระยองว่า รถบรรทุก 10 ล้อ และรถพ่วง 18 ล้อบรรทุกหิน ดิน ทราย วิ่งผ่านหน้าวัดบ้านนาถนนหลวงปู่บุญ-มงกุฎเมือง หมู่ 1 ต.บ้านนา อ.แกลง จ.ระยอง ทำให้บริเวณพื้นศาลาการเปรียญ มณฑป โบสถ์ เมรุ ของวัดแตกและทรุดตัว เคยร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแต่ไม่ให้ความสนใจที่จะเข้ามาตรวจสอบดูแลแต่อย่างใด จึงร้องสื่อมวลชนและได้เดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมีพระครูปลัดสมเกียรติ สุทธาธิโก รองเจ้าอาวาสวัดบ้านนา และนายพีระพงษ์ จริตงามไวยาวัจกรพาดูพื้นโบสถ์ยุบตัวและแตกร้าว หลายแห่ง

นายพีระพงษ์ จริตงามไวยาวัจกร กล่าวว่า วัดบ้านนาในอดีตมีหลวงปู่บุญ เกจิดังเป็นเจ้าอาวาส ที่นักเล่นพระเรียกว่าหลวงปู่บุญ วัดบ้านนา โบสถ์นี้ได้สร้างมานานหลายปีมีการออกแบบแน่นหนา แต่ระยะหลังได้มีรถบรรทุก 10 ล้อ และรถพ่วง 18 ล้อ บรรทุกทรายวิ่งผ่านหน้าวัดซึ่งตัดผ่านในวัดทั้งวันทั้งคืน น่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้พื้นโบสถ์ มณฑปหลวงปู่บุญ มีรอยแตกร้าว

รวมทั้งเมรุที่อยู่ใกล้ถนน ก็เกิดรอยแตกร้าว เนื่องจากแรงสั่นสะเทือนจากการวิ่งของรถบรรทุกหนัก ทางวัดได้ทำป้ายเตือนไม่ให้รถบรรทุกสิบล้อวิ่งด้วยความเร็ว และห้ามบรรทุกหนักวิ่งผ่านเข้ามาในบริเวณวัด แต่ผู้ประกอบการรถบรรทุกสิบล้อก็ไม่สนใจ ยังคงวิ่งกันทั้งวันคืนทำให้เกิดปัญหาพื้นฐานโบสถ์ มณฑปของหลวงปู่บุญ เกิดรอยแตกร้าว ถ้ายังมีรถบรรทุกหนักวิ่งผ่านอย่างไม่สนใจว่าทางวัดจะเดือดร้อน หากปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปเกรงว่าบริเวณพื้นโบสถ์ มณฑป และพื้นคานศาลาเมรุจะพังและทรุดตัวในที่สุด

วอนผู้ประกอบการนั้นหลีกเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น หรืออย่าบรรทุกน้ำหนักเกิน พร้อมเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.แกลง เข้ามาดูแล หรือจับกุม หากปล่อยให้มีรถบรรทุกน้ำหนักเกินวิ่งผ่านต่อไป เกรงว่าโบสถ์และมณฑป ที่ก่อสร้างมาเป็นเงินหลายสิบล้านก็อาจทรุดตัวลงมาได้

อย่างไรก็ตาม ทางวัดได้ติดป้ายห้ามรถบรรทุกสิบล้อเข้ามากลับรถบริเวณลานปูน หน้าศาลาเมรุ แต่คนขับรถบรรทุกสิบล้อไม่สนและวิ่งเข้ามากลับรถและไปจอดอยู่หน้าวัดในในเวลากลางคืนทุกวัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา รองเจ้าอาวาส เคยมีปัญหากับนักการเมืองท้องถิ่นคนหนึ่ง ต่อมาถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนบุกเข้ายิงกุฏิห้องกระจก กระสุนเจาะกระจกทะลุโต๊ะ ขณะรองเจ้าอาวาสนั่งเขียนหนังสือรอดตายหวุดหวิด ตำรวจไม่สามารถติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีได้จนทุกวันนี้