กรมทางหลวงจ่อทุ่มงบอีกกว่า 100 ล้านก่อสร้างด่านชั่งน้ำหนักถาวรเพิ่มอีก 11 แห่งเพื่อให้ครบทั้ง 81 แห่งทั่วประเทศตามเป้าหมายในปี 58 และรองรับกับประกาศน้ำหนักบรรทุกที่จะสรุปผลศึกษาภายในสิ้นปีนี้ หลังจากคมนาคมได้ผ่อนผันน้ำหนักไม่เกิน 58 ตันแค่ 31 ธ.ค. 56
นายชัชวาลย์ บุญเจริญกิจ อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า กรมทางหลวงอยู่ระหว่างจัดทำแผนเพื่อเสนอของบประมาณประจำปี 2558 เพื่อดำเนินการก่อสร้างด่านชั่งน้ำหนักถาวร หรือสถานีตรวจสอบน้ำหนักเพื่อป้องกันความเสียหายของทางหลวงเพิ่มจำนวน 11 แห่ง วงเงินแห่งละประมาณ 15 ล้านบาท รวมกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้มีด่านชั่งน้ำหนักทั่วประเทศครบ 81 แห่งตามแผน โดยนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้สั่งการให้กรมฯ เร่งรัดดำเนินการเพื่อรองรับการประกาศน้ำหนักบรรทุกใหม่
โดยปัจจุบันกระทรวงคมนาคมได้มีการผ่อนผันน้ำหนักบรรทุก รถพ่วง 7 เพลา 24 ล้อที่ไม่เกิน 58 ตันออกไปอีก 1 ปี สิ้นสุด 31 ธันวาคม 2556 โดยมีการตั้งคณะกรรมการศึกษาความเหมาะสมของน้ำหนักบรรทุก ซึ่งมีผู้แทนจากกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กรมทางหลวง (ทล.) กรมทางหลวงชนบท (ทช.) สภาอุตสาหกรรม สภาหอการค้า และสมาคมขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เป็นกรรมการ และจ้างที่ปรึกษาที่มีความเป็นกลางเข้ามาศึกษาพิกัดน้ำหนักที่เหมาะสม ซึ่งจะต้องได้ข้อสรุปภายในเดือนธันวาคมนี้ เพื่อประกาศน้ำหนักบังคับใชัในวันที่ 1 มกราคม 2557
“กระทรวงคมนาคมมอบหมายให้กรมการขนส่งฯ จะเป็นหน่วยงานหลักในการศึกษาน้ำหนักที่เหมาะสม ซึ่งในส่วนของกรมทางหลวงจะทำหนังสือถึงนายสมชัย ศิริวัฒนโชคปลัดกระทรวงคมนาคม เพื่อให้เรียกประชุมเพื่อสรุปก่อนสิ้นปีนี้ตามข้อตกลง เพื่อให้ประกาศและบังคับใช้น้ำหนักได้ในต้นปี 57 เพราะก่อนหน้านี้ได้มีการทำบันทึกช่วยจำระหว่างกระทรวงคมนาคมกับตัวแทนผู้ประกอบการขนส่งเป็นหลักฐานว่าทั้งสองฝ่ายจะยอมรับและปฏิบัติตามผลศึกษาที่ออกมาไว้แล้ว”
อย่างไรก็ตาม กรมทางหลวงเป็นหน่วยงานหลักซึ่งมีหน้าที่ก่อสร้างและบำรุงรักษาทางหลวง ดังนั้น การก่อสร้างด่านชั่งน้ำหนักถาวรจะเป็นเครื่องมือในการช่วยตรวจสอบรถบรรทุกน้ำหนักเกินเพื่อป้องกันความเสียหายของทางหลวง ซึ่งแต่ละปีต้องสูญเสียงบประมาณในการซ่อมบำรุงหลายหมื่นล้านบาท และยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุและความรุนแรงเนื่องจากรถบรรทุกน้ำหนักเกินได้อีกด้วย