กรมทางหลวง-กรมทางหลวงชนบทเตรียมสรุปความเสียหายของถนนที่ถูกน้ำท่วม คาดเสนอขอใช้งบฟื้นฟูรวมกันกว่า 8 พันล้าน (ยังไม่รวมภาคใต้) แบ่งเป็นถนน ทล.6 พันล้าน ถนนของ ทช.กว่า 2 พันล้าน ดัานอธิบดี ทล.เผย ถนนที่เสียหายเมื่อปี 55 ยังไม่ได้รับงบฟื้นฟูอีก 8 พันล้าน
นายชัชวาลย์ บุญเจริญกิจ อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า สถานการณ์อุทกภัยตลอดปี 2556 ที่ผ่านมาทำให้ถนนในความรับผิดชอบของ ทล.ถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหายจำนวนมาก ซึ่งเบื้องต้น ทล.ได้ใช้งบเร่งด่วนประจำปีซ่อมแซมเพื่อให้ถนนสามารถเปิดให้การสัญจรผ่านได้ไปก่อนแล้ว ส่วนการฟื้นฟูและซ่อมแซมแบบถาวรนั้นจะต้องเสนอของบประมาณจากรัฐบาลเพิ่มเติม โดยประมาณการเบื้องต้นต้องใช้งบฟื้นฟูไม่ต่ำกว่า 6,000 ล้านบาท (ยังไม่รวมความเสียหายถนนในพื้นที่ภาคใต้) ซึ่งยังถูกน้ำท่วมในบางสายทางไม่สามารถสรุปความเสียหายได้ชัดเจน
ทั้งนี้ ยังมีถนนของ ทล.ที่ถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหายในปี 2555 ที่ผ่านมา และยังไม่ได้รับงบประมาณฟื้นฟูซ่อมแซมแบบถาวร คิดเป็นวงเงินฟื้นฟูอีกประมาณ 8,000 ล้านบาท ดังนั้นหากรวม 2 ส่วนจะต้องได้รับงบฟื้นฟูไม่ต่ำกว่า 14,000 ล้านบาท สำหรับความเสียหายของถนนในพื้นที่ภาคใต้นั้น เบื้องต้นคาดว่าจะไม่มากเหมือนถนนในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางเนื่องจากน้ำมาเร็วไปเร็ว ลักษณะน้ำหลาก ส่วนภาคอื่นๆ จะเป็นน้ำท่วมขังเป็นเวลานาน
“ความเสียหายที่เกิดขึ้น ทล.ได้เข้าซ่อมแซมแบบเร่งด่วนเพื่อให้รถสามารถสัญจรผ่านได้เร็วที่สุด ซึ่งนอกจากถนนเสียหายแล้วยังมีสะพานขาด และชำรุด ซึ่งได้ใช้สะพานแบรี่เพื่อเชื่อมการเดินทางไปก่อน ส่วนสะพานใหม่นั้นจะต้องก่อสร้างเป็นคอนกรีตซึ่งต้องงองบฟื้นฟูก่อน” นายชัชวาลย์กล่าว
ด้านนายชาติชาย ทิพย์สุนาวี อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) กล่าวว่า ถนนของ ทช.ที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมตั้งแต่เดือนกรกฎาคม-พฤศจิกายน 2556 รวม 40 จังหวัด 228 สายทาง มูลค่าความเสียหาย 2,266 ล้านบาท (ไม่รวมถนนในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งยังไม่สามารถสรุปความเสียหายได้ในขณะนี้) โดยจะเสนอรัฐบาลขอรับการจัดสรรงบฟื้นฟู ซึ่งจะมาจากหลายส่วน เช่น งบกลาง งบประมาณประจำปี ฯลฯ
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมถนนในภาคใต้ล่าสุดถึงวันที่ 28 พฤศจิกายน 2556 มีรวม 11 จังหวัด เช่น ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ราชบุรี ชุมพร ตรัง นครศรีธรรมราช ปัตตานี พัทลุง สงขลา จำนวน 102 สายทาง โดยมี 10 สายทางที่ยังสัญจรผ่านไม่ได้
