กรมทางหลวงชนบท ยันถนนแนวคันกั้นน้ำ27 โครงการป้องกันน้ำได้ตามแผน เผยฝนถล่มถนนใน 21 จังหวัดจมน้ำแล้ว 238 เส้นทาง โดยมี 32 เส้นทางระดับน้ำสูงต้องปิดการสัญจรชั่วคราว ประเมินค่าเสียหายเบื้องต้น 1,600 ล้าน เผยมีถนนคันกั้นน้ำ17 จุดทรุดตัวตามธรรมชาติจากการขุดลอกและระดับน้ำจากคลองชลประทานลดลงอย่างรวดเร็ว เร่งชงกบอ.ชองงบซ่อมเพิ่มเติม 140 ล.
นายพ้อง ชีวานันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมกล่าวภายหลังเป็นประธานในงานคล้ายวันก่อตั้งกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ครบรอบ 11 ปี เมื่อวันที่ 9 ต.ค. ว่า ขณะนี้การก่อสร้างเพื่อยกระดับถนนตามแผนป้องกันอุทกภัยระยะเร่งด่วนในพื้นที่ฝั่งตะวันออกและตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา 27 โครงการ ระยะทาง 360 กม.แล้วเสร็จกว่า 80% แล้ว โดยจะสมบูรณ์ทั้งหมดในเดือนมกราคม 2557 ซึ่งเบื้องต้นสามารถใช้เป็นคันกั้นน้ำได้ทั้งหมด โดยเฝ้าระวังจุดที่ยังไม่สมบูรณ์ซึ่งสถานการณ์น้ำในขณะนี้ยังไม่น่าเป็นห่วง
นายชาติชาย ทิพย์สุนาวี อธิบดี ทช.กล่าวว่า ขณะนี้การก่อสร้างเพื่อยกระดับถนนตามแผนป้องกันอุทกภัยระยะเร่งด่วนในพื้นที่ฝั่งตะวันออกและตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา 27 โครงการมีความคืบหน้าแล้ว 68% โดยในส่วนของชั้นโครงสร้างเสร็จแล้วเหลือชั้นผิวทางทำให้สามารถป้องกันน้ำได้ตามแผน ส่วนกรณีที่ถนนในช่วงจังหวัดปทุมธานี ประมาณ 17 จุด ที่ก่อสร้างเสร็จแล้วเกิดทรุดตัว ซึ่งเป็นการทรุดตัวทางธรรมชาติเนื่องจากจากระดับน้ำในคลองชลประทานลดอย่างรวดเร็วนั้นจากการขุดลอกและการดูดน้ำไปใช้ในการเกษตร โดยอยู่ระหว่างเสนอคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) เพื่องบประมาณเพิ่มเติม ในการซ่อมแซมจำนวน 140 ล้านบาท
ทั้งนี้ การก่อสร้างถนนแนวป้องกันน้ำท่วมดังกล่าวแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ ประกอบด้วย รูปแบบที่ 1 ยกระดับคันทาง 19 โครงการ คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จสมบูรณ์ในเดือนมกราคม 2557 ,รูปแบบที่ 2 กำแพงกันน้ำ 6โครงการ คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จสมบูรณ์ในเดือนมีนาคม 2557 และรูปแบบที่ 3 กำแพงคอนกรีต Barrier 2 โครงการ ก่อสร้างแล้วเสร็จทั้งหมด ระยะทาง 10 กิโลเมตร โครงการดังกล่าวจะเป็นแนวป้องกันน้ำท่วมในเขตพื้นที่ชุมชนและพื้นที่เศรษฐกิจตามแนวป้องกันชั้นนอก บังคับให้น้ำไหลไปยังพื้นที่รับน้ำและระบายลงสู่ทะเล ทั้งนี้ หากเกิดสถานการณ์น้ำท่วมในระหว่างการก่อสร้าง ทช.ได้มีมาตรการในการก่อสร้างคันป้องกันน้ำชั่วคราว เพื่อไม่ให้การก่อสร้างต้องหยุดชะงัก และป้องกันไม่ให้น้ำเข้าท่วมในพื้นที่เขตชุมชน
สำหรับสถานการณ์อุทกภัยในขณะนี้ ถนนของ ทช.ที่ถูกน้ำท่วมในพื้นที่ 21 จังหวัด ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง (พิจิตร, เพชรบูรณ์, ชัยภูมิ, นครราชสีมา, บุรีรัมย์, ยโสธร, ศรีสะเกษ, สุรินทร์, อุบลราชธานี, อำนาจเจริญ, ฉะเชิงเทรา, ชัยนาท, ชลบุรี, นครนายก, ปราจีนบุรี, พระนครศรีอยุธยา, ระยอง, ลพบุรี, สระแก้ว, สุพรรณบุรี, อุทัยธานี) จำนวน 238 เส้นทาง สัญจรผ่านได้ 206 เส้นทาง ผ่านไม่ได้อยู่ระหว่างดำเนินการ 32 เส้นทาง ซึ่งขณะนี้ทั้ง 32 เส้นทางนั้นมีความจำเป็นต้องปิดการสัญจรชั่วคราว โดยประเมินค่าเสียหายเบื้องต้นในการซ่อมแซมแบบถาวรประมาณ 1,600 ล้านบาท ซึ่งหลังน้ำลดจะเข้าประเมินความเสียหายที่ชัดเจนอีกครั้ง ส่วนที่สามารถดำเนินการซ่อมแซมเร่งด่วนเพื่อให้สัญจรผ่านได้นั้นขณะนี้ใช้งบฉุกเฉินไปแล้วกว่า 10 ล้านบาท
ด้านนายชัชวาลย์ บุญเจริญกิจ อธิบดีกรมทางหลวง(ทล.) กล่าวว่า ปัจจุบันถนนของกรมทางหลวงถูกน้ำท่วมรวม 10 จังหวัด จำนวน 31 สายทาง จำนวนรวม 43 แห่ง รถสัญจรผ่านได้ 30 แห่ง รถผ่านไม่ได้ 13 แห่ง ขอให้ผู้ใช้รถใช้ถนนหลีกเลี่ยงซึ่งอยู่ในพื้นที่ 5 จังหวัด คือ จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดลพบุรี จังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดสระแก้ว ซึ่งเส้นทางที่อำเภอเมืองสระแก้ว ช่วงกม.ที่ 141 - 151 และ ทางหลวงหมายเลข 3366 ท่าข้าม - โนนสาวเอ้ ท้องที่อำเภออรัญประเทศ ช่วงกม.ที่ 0 - 5 ระดับน้ำสูง 40 - 80 เซนติเมตร
