xs
xsm
sm
md
lg

บังพม่าขายโรตีร้องสื่อลูกสาวถูกรุ่นพี่กระทำอนาจาร ร.ร.ปัดรับผิดชอบกลัวเสียชื่อ(ชมคลิป)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ตรัง - บังขายโรตีชาวพม่าเข้าร้องสื่อมวลชน หลังลูกสาววัย 13 ปี ชั้น ม.1 ถูกเพื่อนชายรุ่นพี่กระทำอนาจาร หลังเกิดเรื่องครูสั่งห้ามบอกผู้ปกครอง รุ่นพี่หญิงข่มขู่ห้ามบอกตำรวจ และทางโรงเรียนไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เพื่อช่วยดำเนินคดี ผู้เป็นพ่อขอเอาเรื่องถึงที่สุดเพื่อไม่ได้เกิดกับลูกสาวใครอีก

เมื่อเวลา 16.00 น.วันนี้ (10 มี.ค.) ที่ห้องสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง นายมูฮำหมาด อูเส็น อายุ 41 ปี ชาวสัญชาติพม่า ซึ่งมีอาชีพขายโรตี และเข้ามาอาศัยอยู่ในจังหวัดตรังกว่า 20 ปีแล้ว ได้นำ น้องเอ (นามสมมติ) บุตรสาววัย 13 ปี นักเรียนชั้น ม.1/1 สังกัดโรงเรียนแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลนครตรัง เข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชน หลังจากได้บุตรสาวถูกนักเรียนชายรุ่นพี่ชั้น ม.3 กับเพื่อนร่วมห้องของน้องบี (นามสมมติ) ซึ่งเป็นผู้ชายอีก 1 คน ช่วยกันลากตัว น้องเอ เข้าไปในห้องน้ำครูของโรงเรียน ซึ่งตั้งอยู่บริเวณชั้น 5 ของอาคารเรียน แล้วพยายามจะกระทำอนาจาร แม้น้องเอ จะส่งเสียงร้องขอให้เพื่อนนักเรียนที่เห็นเหตุการณ์ช่วยเหลือ แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไป แต่โชคดีที่มีครูคนหนึ่งเดินผ่านมาพอดี ทำให้นักเรียนชายรุ่นพี่คนดังกล่าวตกใจ แล้วเปิดประตูห้องน้ำหนีออกไป เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 10.30 น. ของวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2557 ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุครูคนดังกล่าวก็สั่งไม่ให้ น้องเอ นำเรื่องนี้ไปบอกแก่ผู้ปกครอง จนกระทั่งผู้เป็นพ่อสังเกตเห็นความผิดปกติของบุตรสาว และสอบถามได้ความจริง จึงนำตัวเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองตรัง เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ แต่เรื่องไม่มีความคืบหน้าใดๆ เลย เนื่องจากทางโรงเรียนไม่ยอมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ประกอบกับหลังเกิดเหตุดังกล่าวแล้ว น้องเอ ยังถูกนักเรียนหญิงรุ่นพี่ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับนักเรียนชายรุ่นพี่ที่ก่อเหตุพยายามกระทำอนาจาร เข้าทำร้ายร่างกาย พร้อมข่มขู่มิให้นำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปเปิดเผยต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย

ในขณะที่ผู้เป็นพ่อนั้น ก็ได้ถูกทางโรงเรียนตำหนิมาว่า เมื่อนำเรื่องนี้ไปแจ้งความแล้ว จะไม่ขอเข้าไปดูแล หรือดำเนินการอะไรให้อีก พร้อมทั้งสั่งห้ามนำเรื่องนี้ไปร้องเรียนต่อสื่อมวลชนด้วย เพราะเกรงจะทำให้ทางโรงเรียนเสื่อมเสียชื่อเสียง

นายมูฮำหมาด กล่าวว่า ขณะนี้ตนและบุตรสาวรู้สึกไม่ปลอดภัย และไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงจำต้องเดินทางเข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชนด้วยน้ำตานองหน้า และตัดพ้อต่อว่าที่ทางโรงเรียนไม่สนใจดำเนินการใดๆ เพื่อลงโทษคนกระทำผิด และให้ความร่วมมือด้านคดี ซึ่งคงเป็นเพราะตนเองเป็นชาวต่างด้าว และบุตรสาวก็ไม่มีญาติพี่น้องใดๆ เนื่องจากกำพร้าแม่ ซึ่งเป็นคนไทย นับตั้งแต่ยังเล็ก หรือยังจำความอะไรไม่ได้ พร้อมยืนยันจะขอเอาเรื่องด้านคดีให้ถึงที่สุด เพราะไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้กับบุตรสาวของใครอีกทั้งสิ้น

อย่างไรก็ตาม หากสุดท้ายไม่ได้รับความเป็นธรรม นายมูฮำหมาด ระบุว่า จะเข้าร้องถวายฎีกาถึง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ผ่านทางสำนักพระราชวัง ต่อไป
   


 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น