xs
xsm
sm
md
lg

ชาวนาแปดริ้วขู่รัฐบาลไม่เคลียร์หนี้ชาวนาไม่เลือก พท.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ฉะเชิงเทรา -ชาวนาแปดริ้วขู่พรรคเพื่อไทย จี้หากไม่แก้ไขปัญหาเรื่องเงินรับจำนำข้าว เลือกตั้งคราวนี้ไม่ให้คะแนนเสียงแน่ ระบุผลจากโครงการรับจำนำหลอกชาวนาเป็นหนี้เพิ่ม เหตุเพราะเชื่อมั่นว่าไปรอด ก่อนพลิกกลับคำไปมาหาความแน่นอนไม่ได้ จนเกิดการก่อหนี้ผูกพันอื้อหลังใช้เงินมือเติบ

นายจำลอง วรรณศิริ อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43/3 ม.2 ต.คลองเขื่อน อ.คลองเขื่อน จ.ฉะเชิงเทรา เกษตรกรชาวนาได้ออกมาเรียกร้องขอความเห็นใจจากรัฐบาลผ่านผู้สื่อข่าวว่า ขณะนี้กำลังได้รับความเดือดร้อนจากภาระหนี้สินนอกระบบท่วมท้นนับล้านบาท ซึ่งเป็นผลพวงมาจากโครงการรับจำนำข้าวทุกเมล็ดของรัฐบาล ที่เคยออกนโยบายมาให้แก่ชาวนา จนเกิดความเชื่อมั่นว่าเป็นนโยบายที่สามารถทำได้จริง
 
ในช่วงแรกที่เคยได้เงินจากโครงการรับจำนำข้าวอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ได้นำเงินไปใช้จ่ายต่างๆ มากมาย รวมถึงยังได้นำไปซื้อที่ดินเพื่อขยายพื้นที่การทำนาเพิ่มด้วย แต่ยังจ่ายเงินให้แก่เจ้าของที่ดินไม่หมด โดยได้ซื้อแบบขอแบ่งจ่ายเป็นงวดๆ โดยคาดหวังจากโครงการนี้ว่า หลังจากตวงข้าวเข้าโครงการตามวงรอบการทำนาในแต่ละครั้งไปแล้ว จะนำเงินส่วนที่เหลือไปทยอยจ่ายภาระหนี้สินดังกล่าวที่ก่อขึ้นระหว่างที่ได้เงินจากโครงการ
 
แต่พอมาถึงตอนนี้ ชาวนากลับมีหนี้สินที่เป็นภาระเพิ่มมากยิ่งขึ้นกว่าเก่า เพราะหลังจากได้นำข้าวไปเข้าสู่โครงการตั้งแต่เมื่อวันที่ 15 ก.ย.56 ในวงเงินตามใบประทวนของตน ซึ่งมีมูลค่ากว่า 302,000 บาท ซึ่งเป็นเงินที่คาดหวังว่าจะนำไปชำระหนี้ แต่ยังไม่ได้รับเงินค่าข้าวที่นำไปเข้าโครงการ ทั้งที่รัฐบาลได้เอาข้าวของเราไปตั้งนานแล้ว ชาวนาจึงไม่มีเงินที่จะไปจ่ายหนี้สินที่สร้างขึ้น และไม่มีเงินทุนหมุนเวียนในการลงทุนทำนารอบใหม่
 
รวมถึงไม่มีเงินใช้จ่ายกินใช้ในครอบครัว ที่ปัจจุบันค่าครองชีพถีบตัวสูงขึ้นกว่าเก่ามาก จึงได้ไปทำการกู้ยืมเงินทุนมาจากเงินกู้นอกระบบที่ต้องเสียดอกเบี้ยในอัตราสูงมาใช้จ่ายทดแทนไปก่อน และเกิดเป็นภาระหนี้สินที่พัวพันกันหลายด้าน จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่สามารถที่จะแก้ไขปัญหาให้ลงตัวได้ เพราะยังไม่ได้รับเงินจากโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลชุดนี้
 
จึงอยากจะขอความชัดเจนจากรัฐบาลว่า จะให้ชาวนาทำอย่างไร และโครงการรับจำนำยังจะมีอยู่ต่อไปอีกหรือไม่ โดยขอให้มีความชัดเจน และมีความรับผิดชอบต่อนโยบายที่ได้เคยออกมาหาเสียงเมื่อครั้งที่อยากจะได้เป็นรัฐบาลด้วย โดยขอให้รับผิดชอบต่อคำพูด ไม่ใช่พลิกแพลงกลับคำไปมาเหมือนเช่นในปัจจุบัน เพราะที่ผ่านมา เคยบอกกับชาวนาว่าจะรับจำนำข้าวทุกเมล็ด แต่ต่อมาก็มาเปลี่ยนเป็นการรับจำนำแบบจำกัดวงเงิน ที่ไม่เกินสามแสนห้าหมื่นบาท ส่วนเกษตรกรรายย่อยที่ทำนาไม่ถึง 50 ไร่ ก็ยังถูกบีบจ่ายแค่เพียงครึ่งเดียวของจำนวนไร่ที่มีอยู่
 
นอกจากนี้ รัฐบาลยังบีบลดจำนวนปริมาณการรับจำนำข้าว ต่อปริมาณผลผลิตจำนวนถังต่อไร่อีกด้วย เช่น ชาวนาในเขตชลประทานให้นำข้าวเข้าโครงการรับจำนำได้แค่ 61.8 ถังต่อไร่ ทั้งที่ขีดความสามารถของชาวนาฉะเชิงเทรานั้น สามารถผลิตข้าวได้มากกว่า 100 ถังต่อไร่ และชาวนาที่อยู่นอกเขตชลประทานจะให้เข้าโครงการได้แค่เพียงไร่ละ 53 ถังเท่านั้น ทั้งที่ชาวนานอกเขตชลประทาน ต้องประสบกับปัญหารอบด้าน ทั้งภัยธรรมชาติ เช่น น้ำเค็มหนุน ภัยแล้ง และภัยน้ำท่วมจากฝีมือของรัฐบาลที่สูบผันน้ำเข้ามาจากภาคกลางลงมาใส่

ทั้งนี้ หากทำแบบนี้ต่อไปรัฐบาลชุดนี้ก็คงจะไม่ได้รับคะแนนเสียงเลือกตั้งจากชาวนาอีกต่อไป เพราะถือว่านโยบายที่ผ่านมานั้นเป็นการหลอกลวงประชาชน เช่น นโยบายขึ้นค่าแรง 300 บาทของรัฐบาลชุดนี้ ก็ได้ทำให้เกิดผลกระทบต่อค่าครองชีพ และความเป็นอยู่ของชาวนาด้วย เช่น ไข่ไก่ใบละ 4-5 บาท หมูจากราคา กก.ละ 100 บาท ขึ้นเป็น 140 บาท ก๋วยเตี๋ยวจากชามละ 20 บาท ขึ้นเป็น 35-40 บาท ล้วนเป็นนโยบายที่หลอกลวงประชาชนทั้งสิ้น

“ขอย้ำว่านี่เป็นเสียงเรียกร้องจากคนที่เคยเลือกท่านให้มาเป็นรัฐบาลเมื่อการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา และหากท่านยังแก้ไขปัญหานี้ไม่ได้ หรือยังไม่มีความชัดเจนก่อนการเลือกตั้งครั้งใหม่นี้ ท่านก็จะไม่ได้รับคะแนนเสียงจากชาวนาอีกต่อไป โดยอย่างน้อยชาวนาจากในหมู่บ้านของตนนั้นก็มีคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 700 เสียง และยังจะมีชาวนาที่เชื่อมโยงกันเป็นเครือข่ายไปในระดับอำเภอ และจังหวัด ไปจนทั่วทั้งประเทศ ก็จะไม่เลือกท่านอีก และหากปัญหายังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วนอีก พวกตนก็จะเดินทางไปร่วมชุมนุมกับกลุ่ม กปปส.ในกรุงเทพฯ อีกด้วย”
กำลังโหลดความคิดเห็น