xs
xsm
sm
md
lg

รักษาการ รมว.ทรัพย์ฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบการตายของกระทิง 18 ตัว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ประจวบคีรีขันธ์ - รักษาการ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมรองอธิบดีกรมอุทยาน สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ลงพื้นที่ตรวจสอบสาเหตุการตายของกระทิงทั้ง 18 ตัว พร้อมเร่งรัดการตรวจวิเคราะห์ข้อมูลด้านโรค และสารพิษ รวมทั้งตรวจสอบการบริหารจัดการพื้นที่ว่ามีส่วนร่วมเกี่ยวข้องกับการตายของกระทิงหรือไม่

วันนี้ (30 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีการตายของกระทิง 17 ตัว ตั้งแต่วันที่ 2-27 ธ.ค.56 ที่ผ่านมา ภายในพื้นที่โครงการฟื้นฟูสภาพป่าสงวนแห่งชาติป่ากุยบุรี อันเนื่องมาจากพระราชดำริ และต่อมา พบอีก 1 ตัว รวมเป็น 18 ตัว เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.56 ที่ผ่านมา หลังจากนายอำเภอกุยบุรี เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี กำนันตำบลหาดขาม ผู้ใหญ่บ้านรวมไทย และชาวบ้านกุยบุรี ทหารชุดประสานงานโครงการพระราชดำริ ทหารหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ยางชุม พบร่องรอยของการฝังซากสัตว์จึงนำรถแบ็กโฮมาขุดลึกลงไป 3 เมตร พบซากกระทิงเพศผู้ขนาดใหญ่ถูกฝังซึ่งไม่พบมีร่องรอย และบาดแผลจากการถูกยิง และไม่พบว่าถูกสัตว์ผู้ว่ากัดกินเนื้อแต่อย่างใด และได้เข้าลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.บ้านยางชุม

ต่อมา เวลา 13.40 น. นายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วย นายธีรภัทร ประยูสิทธิ รองอธิบดีกรมอุทยานสัตว์ป่า และพันธุ์พืช นายเชิดชัย จริยะปัญญา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) นายวัฒนา พรประเสริฐ ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี เดินทางไปยังบริเวณจุดตรวจห้วยลึก โดยมีนายปรีชา วิทยพันธุ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ให้การต้อนรับ

รวมทั้งยังมี นายพงษ์พันธุ์ วิเชียรสมุทร นายอำเภอกุยบุรี พ.ต.อ.อำพันธุ์ ชมกรด ผกก.สภ.บ้านยางชุม นายศรีสวัสดิ์ บุญมา กำนันตำบลหาดขาม นายนิติพัฒน์ แน่นแคว้น ผู้ใหญ่บ้านรวมไทย ตลอดจนผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ และชาวบ้านอำเภอกุยบุรี ทหารชุดประสานงานโครงการพระราชดำริ บ้านรวมไทย ทหารหน่วยเฉพะกิจจงอางศึก พร้อมกับมีการชี้แจงถึงการพบซากกระทิงตายในพื้นที่โครงการฟื้นฟูสภาพป่าสงวนแห่งชาติป่ากุยบุรี อันเนื่องมากจาพระราชดำริ (โครงการกุญชร) ตั้งแต่ตัวที่ 1 ซึ่งพบเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.56 จนมาถึงตัวที่ 17 ธ.ค.56 ซึ่งพบซากตายอยู่ในบ่อน้ำป่าสน

นอกจากนั้น ยังมีทีมสัตวแพทย์จากสถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ สัตวแพทย์จากกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช สัตวแพทย์จากมหาวิทยาลัยมหิดล ฯลฯ มาทำการผ่าซากเก็บชื้นเนื้อต่างๆ ไปตรวจสอบที่สถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ รวมไปถึงสำนักสัตว์ป่า และกรมควบคุมลพิษ ได้มาเก็บตัวอย่างน้ำ ดิน พืช ไปตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุการตายหมู่ของกระทิงทั้งหมด ซึ่งคาดว่าจะสามารถรู้ผลในช่วงกลางเดือนมกราคม 2556

อย่างไรก็ตาม พบว่าการตายของกระทิงทั้งหมดน่าจะตายในช่วงเดียวกันในช่วงปลายเดือน พ.ย. แต่มาเจอซากกระทิงแต่ละตัวกระจายอยู่ในพื้นที่โครงการฟื้นฟูสภาพป่าสงวนแห่งชาติป่ากุยบุรี อันเนื่องมากจากพระราชดำริ (โครงการกุญชร) โดยเบื้องต้นได้สรุปสาเหตุการตายเหลือเพียง 2 ประเด็นหลักทั้งเรื่องของสารพิษ และโรคติดต่อ

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 29 ธ.ค.56 ที่ผ่านมา ทั้งนายอำเภอกุยบุรี เจ้าหน้าที่อุทยานฯ กุยบุรี ฯลฯ ไปพบมีการนำซากระทิงไปฝังในพื้นที่โครงการฟื้นฟูสภาพป่าฯ ซึ่งไม่พบว่ามีการแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้รับทราบ ทั้งนี้ ทางสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี ได้เข้าลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.บ้านยางชุม ไว้ทั้งหมดแล้ว

หลังรับฟังการพบซากกระทิงทั้ง 18 ตัว ในพื้นที่โครงการฟื้นฟูสภาพป่าสงวนแห่งชาติป่ากุยบุรี อันเนื่องมากจากพระราชดำริแล้ว นายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า 1.ให้เร่งรัดการตรวจวิเคราะห์ข้อมูลด้านโรคและสารพิษ 2.ให้เร่งรัดการตรวจสอบของเท็จจริงด้านการบริหารจัดการพื้นที่ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของกระทิงหรือไม่

3.ให้เฝ้าระวังสังเกตกระทิง และสัตว์ป่าในพื้นที่ หากมีสิ่งผิดปกติให้รีบดำเนินการแจ้งสัตวแพทย์กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และกรมปศุสัตว์ มาร่วมดำเนินการรักษาโดยด่วน 4.ให้ดำเนินการกลบฝัง และทำลายซากกระทิงที่ตายตามหลักวิชาการต่อไป 5.ให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาการตายของกระทิง เช่น กรมปศุสัตว์ กรมควบคุมโรค ฝ้ายปกครอง ทหาร และตำรวจเป็นต้น

ในส่วนเรื่องของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านในพื้นกุยบุรีที่ไม่ต้องการหัวหน้าอุทยานแห่งชาติคนใหม่นั้น เรื่องนี้ตนคงต้องกลับไปพิจารณาอีกครั้งเพราะได้รับข้อมูลทั้งจากนายอำเภอกุยบุรี กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และการได้ลงมาในพื้นที่ครั้งนี้ด้วยเข้าใจว่าพื้นที่ดังกล่าวมีความสำคัญและละเอียดอ่อน มีสัตว์ป่าจำนวนมาก ส่วนกรณีชาวบ้านพบซากกระทิงตัวที่ 18 แอบฝังไว้นั้นคงต้องให้คณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป




กำลังโหลดความคิดเห็น