ประจวบคีรีขันธ์ - ทีมสัตวแพทย์เร่งผ่าซากกระทิงแล้ว ขณะชาวบ้านชุมนุมเรียกร้องให้กรมอุทยานฯ ทบทวนคำสั่งย้ายหัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ล่าสุด พบกระทิงตายในสระน้ำเป็นตัวที่ 17 ในโครงการฟื้นฟูสภาพป่าอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
วันนี้ (26 ธ.ค.) ที่จุดตรวจห้วยลึก อุทยานแห่งชาติกุยบุรี อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายสัตวแพทย์ ดร.วงศ์อนันต์ ณรงค์วานิชการ หัวหน้ากลุ่มชีวเคมีและพิษวิทยา สถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ นายวัฒนา พรประเสริฐ ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี นำทีมสัตวแพทย์ สัตวบาล และนักวิทยาศาสตร์จากสถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ กรมปศุสัตว์ สัตวแพทย์จากมหาวิทยามหิดล สัตวแพทย์จากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช รวม 15 นาย สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี แบ่งเป็น 4 ทีม เข้าพื้นที่โครงการฟื้นฟูป่าสงวนแห่งชาติป่ากุยบุรี อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จุดที่พบซากกระทิง เพื่อพิสูจน์ซากหาสาเหตุการตายของกระทิงทั้ง 16 ตัว โดยเก็บชิ้นเนื้อจากอวัยวะบางส่วนของซาก เก็บเลือดที่หลงเหลืออยู่ภายในกระดูกสันหลัง และเศษอาหารที่ตกค้างในกระเพาะ รวมถึงวัตถุพยานแวดล้อมอื่นๆ หากพบว่ามีสิ่งใดผิดปกติก็จะเก็บตัวอย่างมาประกอบ ที่สำคัญคือ การจดข้อมูล และบันทึกภาพถ่ายอย่างละเอียด
ทั้งนี้ ชิ้นเนื้อ หรือตัวอย่างทั้งหมดที่เก็บได้จะถูกส่งไปตรวจวิเคราะห์ยังห้องแล็บเพื่อเพาะเชื้อ และวิเคราะห์หาสารเคมี หรือเชื้อโรคเพื่อหาสาเหตุการตาย โดยแต่ละซากต้องใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง เพื่อหาส่วนที่ดีที่สุด เนื่องจากซากกระทิงเน่าเปื่อยมาเกือบ 1 เดือนแล้ว ส่วนทีมจากสำนักวิจัยสัตว์ป่า จะเข้าพื้นที่ร่วมเก็บตัวอย่างน้ำและดินภายในพื้นที่เกิดเหตุ 6 ตารางกิโลเมตร หรือพื้นที 3,750 ไร่
ทั้งนี้ รถยนต์ทุกคันที่เดินทางเข้าออกพื้นที่จะต้องฉีดล้างด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคชนิดเข้มข้น ที่สามารถฆ่าเชื้อไวรัส และแบคทีเรียได้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโรค และอุทยานแห่งชาติกุยบุรี จะปิดให้บริการนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้าชมช้างป่า และกระทิงอย่างไม่มีกำหนด จนกว่าจะทราบผลการตาย เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว หากมีโรคระบาดที่อาจติดจากสัตว์สู่คนได้
นอกจากนี้ บริเวณด้านหน้าจุดตรวจห้วยลึก พกลุ่มชาวบ้านกุยบุรี กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต.หาดขาม องค์กรครือข่ายอนุรักษ์สัตว์ป่ากุยบุรี หลายร้อยคน พร้อมป้ายข้อความระบุถึงปัญหาการตายของกระทิง และไม่เห็นด้วยต่อการที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มีคำสั่งย้ายนายปรีชา วิทยาพันธุ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี พร้อมยืนยันด้วยว่า ที่ผ่านมาชาวบ้านไม่เคยมีปัญหากับหัวหน้าอุทยาน และเจ้าหน้าที่อุทยานเลย
โดยเรียกร้องให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ทบทวนคำสั่งย้ายหัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี พร้อมย้ำด้วยว่า คนกุยบุรีไม่ต้องการหัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรีจากสายป่าแก่งกระจาน ที่ศาลจังหวัดเพชรบุรี มีคำสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ปรับ 20,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา ความผิดฐานมีไว้ครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าคุ้มครอง และฐานช่วยซ่อนเร้น เผาทำลายซากช้างและงา และต้องการให้ผนวกโครงการฟื้นฟูป่าสงวนแห่งชาติป่ากุยบุรี เข้ากับอุทยานแห่งชาติกุยบุรี เพื่อให้มีหัวหน้าอุทายานแห่งชาติเพียงแค่ 1 คน จะได้ง่ายต่อการดูแลสัตว์ป่า และการบริหารจัดการพื้นที่
ข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ที่ออกลาดตระเวนพบพบซากกระทิงเพศผู้อีก 1 ตัว เป็นตัวที่ 17 โดยซากใหม่คาดว่าตายมาแล้วประมาณ 4-5 วัน พบบริเวณบ่อน้ำขนาดเล็กภายในโครงการฟื้นฟูสภาพป่าสงวนแห่งชาติป่ากุยบุรี อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ลักษณะซากหันหัวออกจากบ่อน้ำเหมือนเพิ่งขึ้นจากบ่อ เบื้องต้นคาดว่าน่าจะตายได้เพียงไม่กี่วันเท่านั้น เพราะซากยังใหม่อยู่มาก โดยทีมสัตวแพทย์เตรียมเข้าตรวจสอบแล้ว