ประจวบคีรีขันธ์ - รองอธิบดีกรมอุทยานฯ ทีมสัตวแพทย์ผ่าซากกระทิงตัวที่ 17 ถือว่าสมบูรณ์ที่สุด หวังพบประเด็นการเสียชีวิต นำตัวอย่างตรวจวิเคราะห์ที่สถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ
วันนี้ (27 ธ.ค.) นายธีรพัฒน์ ประยูรสิทธิ์ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พร้อมเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่พบซากกระทิงอีก 1 ตัว บริเวณบ่อน้ำภายในป่าสน โครงการฟื้นฟูป่าสงวนแห่งชาติป่ากุยบุรี อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยมีนายสัตวแพทย์ ดร.วงศ์อนันต์ ณรงค์วานิชการ หัวหน้ากลุ่มชีวเคมีและพิษวิทยา สถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ กรมปศุสัตว์ พร้อมทีมสัตวแพทย์เข้าเข้าผ่าพิสูจน์ซากกระทิง
โดยจุดที่พบซากเป็นบ่อน้ำขนาดกลางภายในป่าสน เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ต้องนำซากขึ้นมาจากบ่อน้ำเพื่อให้สะดวกต่อการผ่าพิสูจน์ ทั้งนี้ พบว่าซากกระทิงตัวที่ 17 เป็นกระทิงเพศผู้ อ้วนท้วนสมบูรณ์ คาดว่าเสียชีวิตประมาณ 7-10 วัน อายุประมาณ 11-12 ปี ประกอบกับซากแช่อยู่ในน้ำ และสภาพอากาศที่หนาวเย็นช่วงกลางคืน จึงทำให้ซากมีสภาพสมบูรณ์ที่สุด แม้จะเริ่มเน่าเปื่อยบ้างแล้ว แต่สามารถเก็บชิ้นเนื้อ เส้นเลือดแดง กล้ามเนื้อ ระบบทางเดินอาหาร ตลอดจนส่วนสำคัญต่างๆ ได้มากที่สุด ทำให้มีความหวังว่าจะไขปริศนาสิ่งที่ทำให้กระทิงเสียชีวิตในเวลาไล่เลี่ยกันถึง 17 ตัวได้
นายธีรพัฒน์ กล่าวว่า การทำงานแบ่งเป็น 2 ทีมหลัก คือ การตรวจสอบเรื่องของโรค และสารพิษหรือสารเคมี เพื่อให้ผลการวิเคราะห์หาสาเหตุมีความถูกต้องมากที่สุด โดยชิ้นเนื้อทั้งหมดจะถูกส่งไปยังสถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ และกรมควบคุมมลพิษ เพื่อตรวจวิเคราะห์โดยเร็วที่สุด คาดว่าจะทราบผลราวกลางเดือนมกราคม 2557
ทั้งนี้ ทางกรมได้เพิ่มมาตรการควบคุมพื้นที่ด้วยการปิดพื้นที่ ซึ่งคาดว่าจะเป็นปัญหา โดยยังไม่อนุญาตให้มีการท่องเที่ยว พร้อมจัดชุดเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น และเฝ้าดูอาการของกระทิงที่เหลือ ว่ามีกระทิงตัวใดที่เจ็บป่วยบ้าง เพื่อหาทางแก้ไข นอกจากนี้ จะใช้มาตรการผลักดันกระทิงอีก ประมาณ 5-6 ตัว ให้ขยับออกมาอยู่ในแนวกันชน แต่ยังไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับกระทิงฝูงใหญ่อีกราว 150 ตัว โดยหวังว่ากระทิงที่เหลือน่าจะมีชีวิตรอด