ประจวบคีรีขันธ์ - ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมปศุสัตว์จังหวัด สัตวแพทย์ และหน่วยงานเกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบซากกระทิงที่เสียชีวิต 8 ตัว ในพื้นที่โครงการฟื้นฟูสภาพป่าสงวนแห่งชาติป่ากุยบุรี อันเนื่องมาจากพระราดำริ เบื้องต้น ตั้งประเด็นทั้งเรื่องสารพิษจากแหล่งน้ำ และต้นไมยราบไร้หนามที่พบในพื้นที่ซึ่งมีข้อมูลทางวิชาการว่าสัตว์กินแล้วเสียชีวิตอย่างฉับพลัน พร้อมสั่งเจ้าหน้าที่พรุ่งนี้ออกสำรวจพื้นที่ พบให้ถอนทิ้งในเบื้องต้นก่อนทันที
วันนี้ (21 ธ.ค.) นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อม นายพงษ์พันธุ์ วิเชียรสมุทร นายอำเภอกุยบุรี นายเศรษฐเกียรติ กระจ่างวงษ์ ปศุสัตว์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และนายสัตวแพทย์สาโรจน์ จันทร์ลาด สำนักงานปศุสัตว์ประจวบคีรีขันธ์ และนายปรีชา วิทยพันธุ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ป้องกันจังหวัด ทหารชุดประสานงานโครงการพระราชดำริ บ้านรวมไทย ลงพื้นที่ตรวจสอบซากกระทิง จำนวน 8 ตัว ที่เสียชีวิตภายในพื้นที่โครงการฟื้นฟูสภาพป่าสงวนแห่งชาติป่ากุยบุรี อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตามจุดต่างๆ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้นำปูนขาวโรยซากกระทิงเอาไว้เพื่อป้องกันเชื้อโรค และให้ดำเนินการฝังซากเพื่อป้องกันสัตว์อื่นๆ มากินซาก
นายวีระ กล่าวว่า จากการตรวจสอบของทางสัตวแพทย์สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ที่ได้รวบรวมข้อมูลจุดที่กระทิงทั้ง 8 ตัวเสียชีวิต นำมาวิเคราะห์ในเบื้องต้น รวมทั้งการเก็บตัวอย่างน้ำ จำนวน 12 จุด จากแหล่งน้ำในพื้นที่โครงการ ส่งไปตรวจสอบที่สถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ ตั้งแต่เย็นวานนี้ ซึ่งผลจะออกมาภายใน 1 สัปดาห์ ซึ่งจากข้อมูลทั้งหมดที่นำมาประกอบ จึงได้ตัดประเด็นเรื่องของการล่ากระทิงออกไปแล้ว เพราะไม่มีร่องรอยถูกอาวุธแต่อย่างใด และในส่วนของการติดโรคจากวัวชาวบ้านที่ป่วยนั้น ก็ไม่ใช่สาเหตุ
โดยทางปศุสัตว์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พบว่า ประเด็นสาเหตุที่อาจทำให้กระทิงเสียชีวิตหลายตัวในครั้งนี้อาจมาจากสาเหตุที่กระทิงไปกินไมยราบไร้หนามในพื้นที่ทำให้เกิดการเสียชีวิตอย่างฉับพลันได้เช่นกัน เนื่องจากทางกรมปศุสัตว์ แจ้งให้ทราบว่า ก่อนหน้านี้ประมาณ 4 เดือน มีวัวชาวบ้านในจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ตายกะทันหัน 3 ตัว ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ากินต้นไมยราบไร้หนาม ซึ่งมีสารไนเตรต
อย่างไรก็ตาม ทางจากการตรวจสอบพื้นที่ของเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ในวันนี้พบว่า ในพื้นที่ที่กระทิงเสียชีวิตพบต้นไมยราบไร้หนามเช่นกัน ทำให้ทางนายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้สั่งการให้ทางเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ออกลาดตระเวนตรวจสอบในพื้นที่ว่ายังมีซากกระทิงเสียชีวิตเพิ่มเติมอีกหรือไม่ รวมทั้งตรวจสอบต้นไมยราบไร้หนามในวันพรุ่งนี้อีกครั้ง และหากพบก็ให้รีบดำเนินการถอนทิ้งทันที
นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวอีกว่า ประเด็นในการตั้งข้อสังเกตการเสียชีวิตของกระทิงในครั้งนี้ เกิดในเวลาไล่เลี่ยกันตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมา และเป็นไปได้ว่าต้องมีสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่กระทิงกินไปแล้วเสียชีวิต ซึ่งตอนนี้ได้บีบประเด็นให้แคบลงเหลือในเรื่องของสารพิษในน้ำ และสารเคมีที่มีการใช้ในพื้นที่ทางการเกษตร และพืชที่เป็นพิษคือ ไมยราบไร้หนาม โดยทั้ง 2 ข้ออยู่ในระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่อยู่ในขณะนี้
“เหตุการณ์เสียชีวิตของกระทิงทั้ง 8 ตัว ชาวบ้านในพื้นที่บอกว่าเป็นสิ่งที่ไม่น่าเกิดขึ้น และยืนยันว่า ชาวบ้านไม่มีส่วนรู้เห็น และอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการหาสาเหตุที่แท้จริงของการเสียชีวิตของกระทิงในพื้นที่โครงการฟื้นฟูสภาพป่าสงวนแห่งชาติป่ากุยบุรี อันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยเร็ว”