xs
xsm
sm
md
lg

เกษตรกรโคราชคุย “คอนแทร็กฟาร์มมิ่ง” สร้างความสำเร็จ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายประทีป  เผือกฟัก วัย 59 ปี ประธานเครือข่ายลูกค้า ธกส. อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา
ASTVผู้จัดการออนไลน์ - เกษตรกรเมืองย่าโม เผยระบบคอนแทร็กฟาร์มมิ่งสร้างความสำเร็จ ซีพีเอฟยันช่วยสร้างความมั่นคงยั่งยืนกว่า 99%

นายประทีป เผือกฟัก วัย 59 ปี ประธานเครือข่ายลูกค้าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา เจ้าของฟาร์มเลี้ยงสุกร “ป่ามะพร้าวฟาร์ม” เปิดเผยว่า การเข้าร่วมเป็นเกษตรกรในโครงการคอนแทร็กฟาร์มมิ่ง ของบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด(มหาชน) หรือซีพีเอฟ ตั้งแต่ปี 2536 หรือกว่า 20 ปีที่แล้ว ถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพราะสามารถช่วยสร้างอาชีพสร้างรายได้ที่ยั่งยืนแก่เกษตรกรได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยตนเริ่มต้นเลี้ยงสุกรแม่พันธุ์ 80 ตัว กระทั่งปัจจุบันสามารถขยายการผลิตเพิ่มเป็น 250 ตัว สร้างรายได้เฉลี่ยต่อเดือนประมาณ 8 หมื่นบาท

ทั้งนี้ นายประทีป เข้าร่วมโครงการส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงสุกรพันธุ์ แบบประกันรายได้ โดยได้ศึกษาแนวทางการทำงานร่วมกับบริษัทอย่างละเอียด และพบว่าโครงการนี้มีจุดเด่นที่เป็นระบบการแบ่งงานกันทำ ภายใต้การทำสัญญาข้อตกลงระหว่างบริษัทกับเกษตรกรอย่างเป็นธรรม มีการกำหนดรูปแบบการเลี้ยง การจัดการ การให้ผลตอบแทนการผลิตไว้อย่างดี ทำให้เกษตรกรรู้ถึงหน้าที่ของตนเอง มีแนวทางการประกอบอาชีพที่ชัดเจน ตลอดจนรู้ว่าจะพัฒนาตนเอง และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตให้ดี เพื่อให้มีรายได้ที่มั่นคงแน่นอนได้อย่างไร ขณะเดียวกัน ไม่มีความเสี่ยงว่าผลิตสุกรออกมาแล้วจะขายไม่ได้ราคา

“บางคนไม่กล้าขยายการเลี้ยง หรือลงทุนด้านเทคโนโลยีเพราะกลัวว่าจะมีหนี้สิน แต่ผมกลับไม่มองอย่างนั้น หากมุ่งมั่นตั้งใจที่จะทำอาชีพนี้ให้ยั่งยืน สิ่งหนึ่งที่ต้องทำคือ การพัฒนา จะให้ย่ำอยู่กับที่เลี้ยงหมูในเล้าเปิดเหมือนเดิมคงไม่ได้ เพราะโลกเปลี่ยน อากาศเปลี่ยน การจัดการเปลี่ยนหมด เกษตรกรควรจะก้าวทันโลกตามทันเทคโนโลยี และไม่หยุดหาความรู้ สิ่งเหล่านี้จะช่วยพัฒนาอาชีพได้” นายประทีป กล่าวและว่า

การลงทุนด้านเทคโนโลยีเกษตร เช่น การเลี้ยงสัตว์ในโรงเรือนระบบปิด หรืออีแวป เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ไม่ใช่การสร้างหนี้เพิ่ม เพราะโรงเรือนนี้ช่วยให้ประสิทธิภาพการผลิตดีขึ้น สุกรเจริญเติบโตได้ดี และไม่ต้องเสี่ยงกับภาวะอากาศที่ผันผวน เมื่อสุกรมีสุขภาพที่ดีก็ไม่จำเป็นต้องใช้ยา จึงเรียกว่าช่วยลดต้นทุนการผลิตสุกรด้วยซ้ำ

ด้าน นายณรงค์ เจียมใจบรรจง รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายธุรกิจครบวงจรภูมิภาค ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า บริษัทนำระบบบริหารจัดการเกษตร ที่เรียกว่าคอนแทร็กฟาร์มมิ่ง มาดำเนินการภายใต้โครงการส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงสัตว์แก่เกษตรกรรายย่อยมากว่า 38 ปี นับตั้งแต่ปี 2518 ปัจจุบันมีเกษตรกรที่ประสบความสำเร็จในอาชีพ และมีรายได้ที่มั่นคงยั่งยืนราว 5,000 รายทั่วประเทศ ครอบคลุมการเลี้ยงสัตว์ทั้งไก่กระทง ไก่ไข่ สุกรพันธุ์ และสุกรขุน หรือคิดเป็น 99% ของเกษตรกรทั้งหมด

นายณรงค์ กล่าวอีกว่า บริษัทมีแนวคิดในการส่งเสริมให้เกษตรกรสามารถสร้างอาชีพเลี้ยงสัตว์ที่เหมาะสมกับตนเอง พร้อมสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาอาชีพอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยี และนวัตกรรมมาใช้ในการเลี้ยงสัตว์ ที่ผ่านมา บริษัทมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีที่เหมาะสมแก่เกษตรกร และนวัตกรรมใหม่ๆ บางอย่างก็เกิดจากแนวคิดของเกษตรกรเอง โดยมีการขยายผลนำไปเผยแพร่สู่เกษตรกรรายอื่นๆ ทั่วประเทศ เกษตรกรจึงถือเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่การผลิตคุณภาพ เป็นส่วนสำคัญของซัปพลายเชนในการผลิตอาหารปลอดภัยเพื่อผู้บริโภค

“หัวใจของระบบคอนแทร็กฟาร์มมิ่งคือ การทำธุรกิจที่เกษตรกรมีตลาดรองรับผลผลิตที่แน่นอน ภายใต้การผลิตที่ได้มาซึ่งมาตรฐานอาหารปลอดภัย อันเป็นระบบมาตรฐานที่บริษัทจำเป็นต้องกำหนดให้เกษตรกรร่วมปฏิบัติ เพื่อลดความเสี่ยงด้านการผลิต และความปลอดภัยในอาหาร เพื่อประโยชน์โดยตรงของผู้บริโภค ซึ่งจะส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้ที่แน่นอน และอาชีพที่มั่นคง รวมทั้งคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน” นายณรงค์ กล่าวและว่า

เกษตรกรในโครงการของซีพีเอฟในปัจจุบัน มีหลายรายที่เป็นเกษตรกรรุ่นบุกเบิก และยังคงดำเนินธุรกิจนี้ร่วมกับบริษัท และมีเกือบ 50% ที่ร่วมงานมานาน 10-25 ปี แต่ละรายประกอบกิจการไปได้ด้วยดี อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่ามีบางรายที่ไม่ประสบความสำเร็จด้วยปัจจัยแวดล้อมต่างๆ แต่ก็เพียงไม่ถึงครึ่งเปอร์เซ็นต์ของเกษตรกรที่ซีพีเอฟดูแล
กำลังโหลดความคิดเห็น