xs
xsm
sm
md
lg

จีนขึ้นแท่นประเทศที่มี ‘ความเสี่ยงในการทำธุรกิจ’ มากที่สุดในโลก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพเหมา เจ๋อตง อดีตผู้นำสูงสุดของจีน บนธนบัตร ราคา 100 หยวน (แฟ้มภาพ - รอยเตอร์ส)
เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ - จีนขึ้นแท่นประเทศที่มี “ความเสี่ยงในการทำธุรกิจ” ด้วยมากที่สุดในโลก โดยปัจจัยหลักมาจากปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น

รายงานข่าว (12 ก.พ.) อ้างผลสำรวจของ AlixPartners ที่ปรึกษาทางธุรกิจระหว่างประเทศ ระบุ “จีน” กลายเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงในการร่วมทำธุรกิจด้วยมากที่สุดในโลก ซึ่งบรรดาผู้ประกอบการต่างพยายามหลีกเลี่ยงการลงทุนสำคัญในจีน เนื่องจากปัญหา “ทุจริตคอร์รัปชั่น” ที่มีทีท่าทวีความรุนแรงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

การสำรวจดังกล่าวซึ่งรวมจีนเข้าในรายการเป็นครั้งแรก ได้สัมภาษณ์นักกฎหมายและผู้บริหารหลายหลายชาติ พบว่าร้อยละ 25 ไม่ต้องการทำธุรกิจในจีนและกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ขณะที่ร้อยละ 39 เลี่ยงกลุ่มประเทศทวีปแอฟริกา โดยให้เหตุผลว่าเกรงกลัวปัญหาที่เกิดจากการคอร์รัปชั่น

“ความเสี่ยงในจีนเพิ่มสูงขึ้นเพราะปัจจัยต่างๆ อาทิ การเพ่งเล็งจากกลุ่มนักกฎหมายสหรัฐฯ และอังกฤษ ผสมกับภาวะเศรษฐกิจจีนชะลอตัว รวมถึงรัฐบาลจีนมุ่งสนใจการทำธุรกิจภายในประเทศของต่างชาติ โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยในอาหาร ยาและเวชภัณฑ์ ตลอดจนผลิตภัณฑ์อื่นๆ” ไมค์ เมอร์ฟี (Mike Murphy) หัวหน้าฝ่ายการจัดการของ AlixPartners กล่าว

อย่างไรก็ดี ผู้ตอบแบบสำรวจร้อยละ 41 ชี้ว่า กิจกรรมการทุจริตคดโกงในจีนเป็น “สิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้” โดยภาพรวมร้อยละ 15 ไม่สนใจความหวาดกลัวจากการกระทำผิดฐานคอร์รัปชั่น ขณะที่ร้อยละ 30 เลือกหยุดทำธุรกิจร่วมกับหุ้นส่วนทันที หากพบแนวโน้มหรือความเป็นไปได้ของการทุจริต

ด้านกลุ่มผู้บริหารบริษัทในอาเซียนร้อยละ 80 กล่าวว่า บริษัทของพวกเขาล้วนพบเจอการทุจริตคอร์รัปชั่น โดยร้อยละ 54 ของกลุ่มผู้บริหารนี้เผยอีกว่า การคอร์รัปชั่นเป็นเรื่องที่พบเห็นได้ทั่วไปในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะประเทศอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม

“ผลสำรวจแสดงให้เห็นว่าวิธีการติดสินบนและคอร์รัปชั่นอื่นๆ กลายเป็นองค์ประกอบสำคัญของการทำธุรกิจในอาเซียนไปแล้ว” เมอร์ฟีกล่าวสรุป

ทั้งนี้จากภาพรวม ผู้ตอบแบบสำรวจร้อยละ 30 เผยว่าบริษัทของพวกเขามีความเสี่ยงในการทุจริตคอร์รัปชั่นสูงขึ้น ขณะที่ร้อยละ 52 กล่าวว่ามีความเสี่ยงในด้านอื่นๆ มากกว่า โดยกลุ่มธุรกิจที่มีความเสี่ยงการคอร์รัปชั่นมากที่สุด ได้แก่ อุตสาหกรรมอวกาศ การป้องกันประเทศ และการประกันภัย

นอกจากนั้น ผลสำรวจอีกชิ้นของ Kroll ที่ปรึกษาความเสี่ยงในการทำธุรกิจซึ่งมีฐานอยู่ในสหรัฐฯ ได้สอบถามผู้บริหารนานาชาติกว่า 901 คน พบว่าร้อยละ 80 ทำการทุจริตในจีนระหว่างปี 2555-2556 เพิ่มจาก 69 เปอร์เซ็นต์ของปี 2554-2555 โดยบริษัทเหล่านี้จะสูญเสียเงินกำไรราว 1.2 เปอร์เซ็นต์ไปกับการทุจริตในจีนระหว่างปี 2555-2556 เพิ่มจากปี 2554-2555 ซึ่งอยู่ที่ 0.8 เปอร์เซ็นต์

“ระดับการทุจริตคอร์รัปชั่นในจีนกำลังเจริญเติบโตขึ้นอย่างน่ากลัว” Kroll ระบุทิ้งท้าย

กำลังโหลดความคิดเห็น