เอเจนซี- ฝันร้ายของคนรักฟาสท์ฟูดยังไม่จบง่ายๆ หลังซัพพลายเออร์ยักษ์ใหญ่ของเซี่ยงไฮ้ถูกกล่าวหาว่าส่งเนื้อเน่าหมดอายุให้ลูกค้าใช้ ล่าสุด สตาร์บัคส์ เบเกอร์คิง อิเกีย ฯลฯ สั่งถอดหลายเมนู กระทบตั้งแต่แผ่นดินใหญ่ ฮ่องกงยันญี่ปุ่น
หลังดรากอนทีวี ของเซี่ยงไฮ้ เผย เทปบันทึกภาพการผลิตอาหารในโรงงานของบริษัทหูสี่ ฟูด คอมพานี (Husi Food Company) กระแสการตื่นตัวเรื่องความปลอดภัยในอาหารก็เกิดขึ้นอีกครั้ง ล่าสุด สตาร์บัค ประกาศถอนเมนูแซนวิชไก่และแอ็ปเปิ้ลปานินิ ออกจากรายการอาหาร เพราะสั่งเนื้อมาจากหูสี่ฯ เช่นกัน
โดยสตาร์บัคออกมายอมรับว่า “เราพบว่าสินค้าของเราเมนูหนึ่งคือ แซนวิชไก่ซอสแอ็ปเปิ้ล ใช้วัตถุดิบจากซัพพลายเออร์ที่ใช้ไก่ของบริษัทหูสี่ฯ” ซึ่งเมนูดังกล่าวขายอยู่ใน13 มณฑล และตามหัวเมืองใหญ่ของจีน
ในขณะที่ เต๋อเค่อฉื่อ (Decos) บริษัทเชนอาหารชื่อดังสัญชาติจีน ก็ออกมาประกาศถอดเมนูแซนวิชอาหารเช้าทิ้งเพราะใช้แฮมจากโรงงานแปรรูปอาหารเจ้าปัญหา
ส่วนบริษัทชื่อดังอีกราย ที่ประสบปัญหาก็คือ อิเกีย ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์สัญชาติสวีดิช และทำร้านอาหารควบคู่ไปด้วย โดยอิเกีย ซึ่งมีสาขาในจีนถึง 11 สาขาออกมายอมรับว่า สาขาในจีนของพวกเขา สั่งซื้อเนื้อไก่จากหูสี่ฯ ตั้งแต่เดือนก.ย. 2555 ถึงเดือนส.ค. ปีที่ผ่านมา (2556) อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทตระหนักถึงคุณภาพของวัตถุดิบเป็นอย่างมาก อิเกียแถลง
ด้านแมคโดนัลด์ซึ่งมีมากกว่า 2000 สาขาในจีน ก็ออกมาแถลงขอโทษแล้ววานนี้ (21 ก.ค.) และวันนี้โฆษกแมคโดนัลด์ในญี่ปุ่นก็แถลงยอมรับว่า นักเกตส์ไก่แช่แข็งหนึ่งในห้าที่แมคโดนัลด์ในญี่ปุ่นใช้ มาจากซัพพลายเออร์หูสี่ฯ
ทั้งนี้ ซินหวา สื่อทางการของจีน ระบุ เจ้าหน้าที่จากองค์การอาหารและยาเซี่ยงไฮ้เข้าตรวจสอบโรงงานดังกล่าวเมื่อเย็นวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (20 ก.ค.) ทว่าถูกยามของบริษัทฯ กันไว้จนตำรวจต้องเข้ามายืนยันการตรวจสอบ
เจ้าหน้าที่ ระบุว่า ทางการสั่งปิดโรงงานของหูสี่ฯ แล้ว และยึดวัตถุดิบที่ต้องสงสัยไว้แล้ว นอกจากนี้ยังสั่งการให้ลูกค้าเก็บผลิตภัณฑ์ทั้งหมดจากโรงงานหูสี่ฯ ออกจากท้องตลาด รวมทั้งสั่งปิดโรงงานดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว องค์การอาหารและยาเซี่ยงไฮ้ประกาศในไมโครบล็อกขององค์กร “ความผิดครั้งนี้จะต้องโทษอย่างรุนแรง” องค์การฯ ระบุ
อนึ่ง มหากาพย์เนื้อเน่าเรื่องนี้ เกิดขึ้นเมื่อดรากอนทีวี ของเซี่ยงไฮ้ เผยแพร่เทปแอบถ่ายโรงงานอาหารแปรรูปของบริษัทหูสี่ฟูด คอมพานี (Husi Food Company) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของโอเอสไอ กรุ๊ป (OSI Group) บริษัทผลิตอาหารแปรรูปขนาดใหญ่ จากอิลลินอย์ ในสหรัฐอเมริกา
ภาพอัปยศในวงการอาหาร มีทั้งกระบวนการผลิตเนื้อ คนงานหยิบเนื้อที่หล่นกองกับพื้นใส่กลับลงไปในเครื่องจักร กระบวนการทำนักเก็ทส์ไก่ชื่อดังของแมคโคนัลด์ที่เสียแล้วให้ผ่านการตรวจสอบ นอกจากนี้ ดรากอนทีวียังเผยหนังสือจากฝ่ายการจัดการของบริษัทฯ ที่ระบุให้คนงานขยายวันหมดอายุของเนื้อแช่แข็ง 10 ตัน เพิ่มอีก 10 วัน ทั้งๆที่ มีรายงานว่าเนื้อล็อตนั้นมีสีเขียวและส่งกลิ่นแล้ว จากนั้นก็มีการเปลี่ยนแพ็คเกจ และนำเนื้อล็อตนั้นกลับไปแช่ใหม่
ทั้งนี้ ภาพดังกล่าวถือว่ามีผลกระทบอย่างมากต่อธุรกิจอาหารฟาสต์ฟูดในจีน เนื่องจากหูสี่ฯ เป็นบริษัทผลิตอาหารแปรรูปขนาดใหญ่ของเซี่ยงไฮ้ มีกำลังผลิตถึง 25,000 ตันต่อปี และเมื่อต้นปีที่ผ่านก็เพิ่งได้รับรางวัลความปลอดภัยด้านอาหารจากเขตเจียติง ของเซี่ยงไฮ้ ซึ่งนอกจากแมคโดนัลด์ เคเอฟซี และพิซซ่าฮัท แล้ว หูสี่ฯ ยังเป็นซัพพลายเออร์ให้กับเบเกอร์ คิง ซับเวย์ ปาปา จอห์นส์พิซซ่า และสตาร์บัค ในเซี่ยงไฮ้อีกด้วย
ด้านโอเอสไอ กรุ๊ป บริษัทแม่ของหูสี่ฯ ก็ออกมาขอโทษ และระบุว่า ทางบริษัทได้จัดทีมสืบสวนเรื่องดังกล่าวแล้ว และจะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในตรวจสอบอย่างเต็มที่ ทั้งนี้โอเอสไอเป็นบริษัทพาร์ทเนอร์จัดหาวัตถุดิบให้แมคโดนัลด์ในประเทศจีนตั้งแต่ปี 2535
“เราแยกปัญหาเรื่องนี้ออกจากการจัดการ แต่เราจะรับผิดชอบสถานการณ์ทั้งหมด และจะดำเนินการอย่างรวดเร็วและครอบคลุม” โอเอสไอ แถลง
ด้านบริษัทที่ปรึกษาชื่อดังในเซี่ยงไฮ้ สมิธสตรีทโซลูชั่นส์ (SmithStreetSolutions) ระบุ กรณีข่าวลือหูสี่ฯ ครั้งนี้จะทำให้บริษัทต่างชาติอย่างแมคโดนัลด์และเคเอฟซี มีปัญหาหนักขึ้นในการแข่งขันในตลาดจีน
“เมื่อก่อน ตอนที่พวกเขาเข้ามาทำตลาดครั้งแรก พวกเขาทำให้คนจีนมีประสบการณ์แปลกใหม่ ในแง่การเป็นอาหารของคนมีระดับ มีสิ่งแวดล้อมสะอาด มีคุณภาพสูงและปลอดภัยกว่าเมื่อเทียบกับตัวเลือกอื่น” เจมส์ บัททัน จากสมิธสตรีทโซลูชั่นส์ กล่าว
“แต่ข่าวลือรอบนี้ทำให้ลูกค้ารู้ว่า...เรื่องคุณภาพอาหารไม่มีใครเหนือกว่าใครในประเทศจีน”
หลังดรากอนทีวี ของเซี่ยงไฮ้ เผย เทปบันทึกภาพการผลิตอาหารในโรงงานของบริษัทหูสี่ ฟูด คอมพานี (Husi Food Company) กระแสการตื่นตัวเรื่องความปลอดภัยในอาหารก็เกิดขึ้นอีกครั้ง ล่าสุด สตาร์บัค ประกาศถอนเมนูแซนวิชไก่และแอ็ปเปิ้ลปานินิ ออกจากรายการอาหาร เพราะสั่งเนื้อมาจากหูสี่ฯ เช่นกัน
โดยสตาร์บัคออกมายอมรับว่า “เราพบว่าสินค้าของเราเมนูหนึ่งคือ แซนวิชไก่ซอสแอ็ปเปิ้ล ใช้วัตถุดิบจากซัพพลายเออร์ที่ใช้ไก่ของบริษัทหูสี่ฯ” ซึ่งเมนูดังกล่าวขายอยู่ใน13 มณฑล และตามหัวเมืองใหญ่ของจีน
ในขณะที่ เต๋อเค่อฉื่อ (Decos) บริษัทเชนอาหารชื่อดังสัญชาติจีน ก็ออกมาประกาศถอดเมนูแซนวิชอาหารเช้าทิ้งเพราะใช้แฮมจากโรงงานแปรรูปอาหารเจ้าปัญหา
ส่วนบริษัทชื่อดังอีกราย ที่ประสบปัญหาก็คือ อิเกีย ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์สัญชาติสวีดิช และทำร้านอาหารควบคู่ไปด้วย โดยอิเกีย ซึ่งมีสาขาในจีนถึง 11 สาขาออกมายอมรับว่า สาขาในจีนของพวกเขา สั่งซื้อเนื้อไก่จากหูสี่ฯ ตั้งแต่เดือนก.ย. 2555 ถึงเดือนส.ค. ปีที่ผ่านมา (2556) อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทตระหนักถึงคุณภาพของวัตถุดิบเป็นอย่างมาก อิเกียแถลง
ด้านแมคโดนัลด์ซึ่งมีมากกว่า 2000 สาขาในจีน ก็ออกมาแถลงขอโทษแล้ววานนี้ (21 ก.ค.) และวันนี้โฆษกแมคโดนัลด์ในญี่ปุ่นก็แถลงยอมรับว่า นักเกตส์ไก่แช่แข็งหนึ่งในห้าที่แมคโดนัลด์ในญี่ปุ่นใช้ มาจากซัพพลายเออร์หูสี่ฯ
ทั้งนี้ ซินหวา สื่อทางการของจีน ระบุ เจ้าหน้าที่จากองค์การอาหารและยาเซี่ยงไฮ้เข้าตรวจสอบโรงงานดังกล่าวเมื่อเย็นวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (20 ก.ค.) ทว่าถูกยามของบริษัทฯ กันไว้จนตำรวจต้องเข้ามายืนยันการตรวจสอบ
เจ้าหน้าที่ ระบุว่า ทางการสั่งปิดโรงงานของหูสี่ฯ แล้ว และยึดวัตถุดิบที่ต้องสงสัยไว้แล้ว นอกจากนี้ยังสั่งการให้ลูกค้าเก็บผลิตภัณฑ์ทั้งหมดจากโรงงานหูสี่ฯ ออกจากท้องตลาด รวมทั้งสั่งปิดโรงงานดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว องค์การอาหารและยาเซี่ยงไฮ้ประกาศในไมโครบล็อกขององค์กร “ความผิดครั้งนี้จะต้องโทษอย่างรุนแรง” องค์การฯ ระบุ
อนึ่ง มหากาพย์เนื้อเน่าเรื่องนี้ เกิดขึ้นเมื่อดรากอนทีวี ของเซี่ยงไฮ้ เผยแพร่เทปแอบถ่ายโรงงานอาหารแปรรูปของบริษัทหูสี่ฟูด คอมพานี (Husi Food Company) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของโอเอสไอ กรุ๊ป (OSI Group) บริษัทผลิตอาหารแปรรูปขนาดใหญ่ จากอิลลินอย์ ในสหรัฐอเมริกา
ภาพอัปยศในวงการอาหาร มีทั้งกระบวนการผลิตเนื้อ คนงานหยิบเนื้อที่หล่นกองกับพื้นใส่กลับลงไปในเครื่องจักร กระบวนการทำนักเก็ทส์ไก่ชื่อดังของแมคโคนัลด์ที่เสียแล้วให้ผ่านการตรวจสอบ นอกจากนี้ ดรากอนทีวียังเผยหนังสือจากฝ่ายการจัดการของบริษัทฯ ที่ระบุให้คนงานขยายวันหมดอายุของเนื้อแช่แข็ง 10 ตัน เพิ่มอีก 10 วัน ทั้งๆที่ มีรายงานว่าเนื้อล็อตนั้นมีสีเขียวและส่งกลิ่นแล้ว จากนั้นก็มีการเปลี่ยนแพ็คเกจ และนำเนื้อล็อตนั้นกลับไปแช่ใหม่
ทั้งนี้ ภาพดังกล่าวถือว่ามีผลกระทบอย่างมากต่อธุรกิจอาหารฟาสต์ฟูดในจีน เนื่องจากหูสี่ฯ เป็นบริษัทผลิตอาหารแปรรูปขนาดใหญ่ของเซี่ยงไฮ้ มีกำลังผลิตถึง 25,000 ตันต่อปี และเมื่อต้นปีที่ผ่านก็เพิ่งได้รับรางวัลความปลอดภัยด้านอาหารจากเขตเจียติง ของเซี่ยงไฮ้ ซึ่งนอกจากแมคโดนัลด์ เคเอฟซี และพิซซ่าฮัท แล้ว หูสี่ฯ ยังเป็นซัพพลายเออร์ให้กับเบเกอร์ คิง ซับเวย์ ปาปา จอห์นส์พิซซ่า และสตาร์บัค ในเซี่ยงไฮ้อีกด้วย
ด้านโอเอสไอ กรุ๊ป บริษัทแม่ของหูสี่ฯ ก็ออกมาขอโทษ และระบุว่า ทางบริษัทได้จัดทีมสืบสวนเรื่องดังกล่าวแล้ว และจะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในตรวจสอบอย่างเต็มที่ ทั้งนี้โอเอสไอเป็นบริษัทพาร์ทเนอร์จัดหาวัตถุดิบให้แมคโดนัลด์ในประเทศจีนตั้งแต่ปี 2535
“เราแยกปัญหาเรื่องนี้ออกจากการจัดการ แต่เราจะรับผิดชอบสถานการณ์ทั้งหมด และจะดำเนินการอย่างรวดเร็วและครอบคลุม” โอเอสไอ แถลง
ด้านบริษัทที่ปรึกษาชื่อดังในเซี่ยงไฮ้ สมิธสตรีทโซลูชั่นส์ (SmithStreetSolutions) ระบุ กรณีข่าวลือหูสี่ฯ ครั้งนี้จะทำให้บริษัทต่างชาติอย่างแมคโดนัลด์และเคเอฟซี มีปัญหาหนักขึ้นในการแข่งขันในตลาดจีน
“เมื่อก่อน ตอนที่พวกเขาเข้ามาทำตลาดครั้งแรก พวกเขาทำให้คนจีนมีประสบการณ์แปลกใหม่ ในแง่การเป็นอาหารของคนมีระดับ มีสิ่งแวดล้อมสะอาด มีคุณภาพสูงและปลอดภัยกว่าเมื่อเทียบกับตัวเลือกอื่น” เจมส์ บัททัน จากสมิธสตรีทโซลูชั่นส์ กล่าว
“แต่ข่าวลือรอบนี้ทำให้ลูกค้ารู้ว่า...เรื่องคุณภาพอาหารไม่มีใครเหนือกว่าใครในประเทศจีน”
