ผู้สมัครนายกสมาคมฟุตบอลฯ เดินสายให้ความรู้สมาชิก เพื่อพัฒนากีฬาฟุตบอลไทยสู่ระดับโลก

ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผู้สมัครนายกสมาคมฟุตบอลฯ เดินสายให้ความรู้สมาชิก และกลุ่มผู้รักในกีฬาฟุตบอล เพื่อพัฒนากีฬาฟุตบอลไทยให้เติบโตและมีชื่อเสียงสู่ระดับโลก หลังตกต่ำสุดขีดในขณะนี้

วันนี้ (25 ก.ย.) ที่โรงแรมเดอะไทด์ รีสอร์ต บางแสน จ.ชลบุรี นายวิรัช ชาญพาณิชย์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย และอดีตผู้จัดการฟุตบอลทีมชาติไทย พร้อมด้วยนายอดิศักดิ์ เบญจศิริวรรณ ผู้สมัครรับเลือกตั้งอุปนายกสมาคมฟุตบอลฯ อดีตผู้จัดการฟุตซอล ทีมชาติไทย ลงพื้นที่ภาคตะวันออกที่จังหวัดชลบุรี เพื่อร่วมเสวนาจุดเปลี่ยนฟุตบอลไทย โดยมีสโมสรสมาชิกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยร่วมเสวนา และพูดคุยในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก

ในการเสวนาครั้งนี้ โดยส่วนใหญ่จะกล่าวถึงการบริหารงานของนายนายวรวีร์ มะกูดี อดีตนายกสมาคมฟุตบอลฯ ซึ่งไม่มีแผนงานในการบริหาร หรือการแบ่งหน้าที่ในการทำงานแต่อย่างใด เช่น ด้านการประชาสัมพันธ์ ด้านบัญชีรายรับ-รายจ่าย ฯลฯ จึงทำให้สมาคมฟุตบอลฯ ตกต่ำอย่างมาก จึงต้องการเข้ามาชี้แจงเพื่อดำเนินการปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น

สำหรับการเดินสายจัดเสวนาดังกล่าว เพื่อเป็นการพบปะให้ข้อมูลกลุ่มสโมสรสมาชิกสมาคมฯ ทุกๆ คนทั่วประเทศ หวังให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการพัฒนาฟุตบอลไทย โดยนำข้อมูลของตัวแทนสโมสรฯ นี้เสนอแนะนำไปเป็นข้อมูลในการพัฒนาสมาคมฯ และนักกีฬาฟุตบอลต่อไปในอนาคตหากได้รับการเลือกตั้งในครั้งนี้

นาวิรัช กล่าวต่อไปว่า ในวันนี้ได้ให้ความรู้ในพื้นที่ภาคตะวันออกที่จังหวัดชลบุรี จากนั้นจะไปที่ จ.กระบี่ เชียงใหม่ ขอนแก่น และ กทม. เพื่อนำข้อมูลจากทุกๆ พื้นที่มาเป็นแผนงานนำไปพัฒนาให้สมบูรณ์แบบในการบริหารงานต่อไป เพราะปัจจุบัน ปัญหาทีมฟุตบอลทีมชาติไทยถือว่าตกต่ำสุดขีดในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เพราะไม่สามารถสู้คู่แข่งขันได้

ดังนั้น จึงต้องมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงทีมฟุตบอลทีมชาติ หรือกีฬาฟุตบอลให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น

การลงสมัครรับเลือกตั้งนายกสมาคมฯ ในครั้งนี้ กลุ่มสโมสรสมาชิกสมาคมฯ วิตกกังวลในการลงคะแนนเลือกตั้ง โดยทุกคนไม่ต้องวิตกกังวล เนื่องจากเป็นการเลือกตั้งแบบโหวตลับ ซึ่งไม่ทราบได้ว่าลงคะแนนให้ใคร และที่สำคัญเป็นการเลือกตั้งระหว่างตนกับนายวรวีร์ มะกูดี เท่านั้น โดยอย่าให้ใครมากดดัน หรือบีบบังคับในการแข่งขันในครั้งนี้เลย ซึ่งขณะนี้ก็ได้รับแรงสนับสนุนจากกลุ่มเพื่อนสมาชิกสโมสรสมาคมฯ เป็นอย่างดี

นายด้านธนศักดิ์ สุรประเสริฐ ผู้บริหารในวงการฟุตบอลเยาวชน กล่าวถึงฟุตบอลเยาวชนไทยนั้น ที่ผ่านมา ฟุตบอลเยาวชนไทยอายุ 16 ปี และ 19 ปี ตกรอบมาโดยตลอด เนื่องจากทางสมาคมฯไม่ให้ความสนใจ หรือให้การสนับสนุน เนื่องจากไม่มีการเก็บตัวนักกีฬา หรือมีระยะเวลาในการฝึกซ้อมน้อย จึงไม่สามารถสู้คู่แข่งขันได้เลย นอกจากนั้น ยังไม่มีการวางแผนในการพัฒนานักฟุตบอลเยาวชนให้ขึ้นสู่ระดับสูงต่อไป ทำให้การพัฒนาฝีเท้านักฟุตบอลทีมชาติไทยไม่มีมาตรฐานเลยในอดีตที่ผ่านมา

นอกจากนั้น ยังมีปัญหาในเรื่องกรรมการตัดสินฟุตบอล ซึ่งอยู่ในความดูแลของสมาคมฯ แต่กรรมการไม่เป็นกลางในการตัดสินฟุตบอล โดยต้องเป่าตามคำสั่งของผู้บริหารของสมาคมฯ และที่สำคัญ กรรมการตัดสินฟุตบอลไม่มีการฝึกอบรมให้มีฝีมือที่ดีขึ้น ทำให้ถูกร้องเรียนเป็นอย่างมากในขณะนี้

นายอดิศักดิ์ เบญจศิริวรรณ อดีตผู้จัดการฟุตซอลทีมชาติไทย กล่าวว่าที่ผ่านมา ตนอยู่ในวงการกีฬามานานแล้ว โดยเป็นผู้จัดการทีมฟุตซอลทีมชาติไทยมานานกว่า 10 ปี ซึ่งที่ผ่านมา ทางสมาคมฯ ไม่เคยให้การสนับสนุนเรื่องงบประมาณแต่อย่างใด โดยตนจะต้องสำรองเงินนำนักกีฬาไปแข่งขัน ซึ่งขณะนี้เงินที่ตนสำรองออกไปก่อนก็ยังไม่ได้รับคืนจากสมาคมฯ ในขณะนี้ เนื่องจากไม่มีระบบในการบริหารงาน เช่น บอร์ดในการวางนโยบายไม่มีการวางแผนงานอะไรเลย