xs
xsm
sm
md
lg

สภาทนายความแพ่งรับฟังปัญหาชาวเสม็ดพร้อมว่าความให้ฟรี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา-ประธานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมสภาทนายความแห่งประเทศไทย และคณะ รับฟังปัญหาชาวบ้านเกาะเสม็ด และกลุ่มประมงพื้นบ้านเรือเล็ก พร้อมยินดีว่าความให้ฟรี

วันนี่ (12 ส.ค.) ที่บริเวณที่ทำการกลุ่มประมงปากคลองแกลง ต.แกลง อ.เมืองระยอง นายสุวิทย์ เชยอุบล อุปนายกฝ่ายปฏิบัติการและประธานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม สภาทนายความแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม สภาทนายความ และนายชลิต ขวัญแก้ว กรรมการบริหารสภาทนายความภาค 2 เดินทางไปรับฟังปัญหาชาวบ้านเกาะเสม็ด ต.เพ อ.เมืองระยอง กว่า 100 คน และไปดูคราบน้ำมันหาดอ่าวพร้าว พบว่า ยังมีคราบน้ำมันขณะมีคลื่นซัดเข้าชายหาด และพูดคุยกับชาวบ้านว่าต้องการความรู้ หรือต้องการคำแนะนำจากสภาทนายความซึ่งก็ยินดี หากชาวบ้านได้รับผลกระทบได้รับความเสียหายจากคราบน้ำมัน

ทั้งนี้ จะให้สภาทนายความฟ้องเรียกค่าเสียหายให้ สภาทนายความก็พร้อมยินดีที่จะช่วยฟ้องดำเนินคดีให้ ส่วนเรื่องความเสียหายเบื้องต้นอาจจะประมาณได้ แต่ในระยะยาวยังประเมินค่าไม่ได้ รวมทั้งทรัพยากรในทะเล เช่น ปะการัง ระบบนิเวศต่างๆ เสียหายอย่างไร ยังไม่มีใครสามารถที่จะตอบได้ แต่ประเมินแล้วว่าเสียหาย แต่ขณะนี้ยังไม่ปรากฏชัด ทางสภาทนายความจะติดตามลงมาตรวจสอบพื้นที่อีกหลายครั้งเพื่อตรวจสอบความเสียหาย เรื่องชาวบ้านให้สภาทนายความฟ้องเรียกค่าเสียหาย

ซึ่งในวันนี้ได้ให้ความรู้ และคำแนะนำในเบื้องต้น เมื่อชาวบ้านพร้อมเมื่อไหร่ก็จะลงมาพร้อมที่จะต้องลงลึกในรายละเอียด ในวันนี้เป็นการเก็บข้อมูลในเบื้องต้นเท่านั้น และยังเห็นมีคราบน้ำมันอยู่ว่ายังไม่หมด ตอบไม่ได้ว่าคราบน้ำมันจะหมดเมื่อไหร่คลื่นลูกหนึ่งซัดเข้ามาก็มีคราบน้ำมันขึ้นมาตลอดซึ่งได้เก็บภาพไว้แล้ว ระบบนิเวศทางทะเล ณ เวลานี้ยังไม่มีใครตอบได้ว่าเสียหายหรือไม่เสียหาย ทางสภาทนายความจะต้องประสานนักวิชาการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาตรวจสอบ

วันเดียวกัน นายสุวิทย์ เชยอุบล ประธานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม สภาทนายความแห่งประเทศไทย และคณะกล่าวว่า ได้พบปะพูดคุยกลุ่มประมงปากคลองแกลงนำโดย นายจตุรัส เอี่ยมวรนิรันดร์ นายกสมาคมประมงพื้นบ้านเรือเล็ก จ.ระยอง ซึ่งทางกลุ่มประมงได้บอกว่ายังหาข้อยุติไม่ได้ว่าความเสียหายที่มันเกิดขึ้นมันจะยุติเมื่อไหร่ ส่วนกรณีเรื่องการชดเชยเบื้องต้น มันไม่มีความเป็นธรรม เนื่องจากจำนวนเงินที่จะจ่ายให้วันละ 1,000 บาท เป็นเวลา 30 วัน รวมเป็นเงิน 30,000 บาทนั้นมันน้อยเกินไป ดูแล้วว่าเรื่องนี้ต้องมีการประเมิน ชาวประมงเรือเล็กต้องประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นว่าจำนวนเท่าไหร่ และทาง ปตท.ก็ต้องประเมินให้กลุ่มประมงว่าเขาเสียหายเท่าไหร่

ส่วนกรณีที่กลุ่มประมงข้องใจ และไม่ยอมรับในแบบฟอร์มของอำเภอเมืองระยอง ข้อที่ว่าถ้าให้ข้อมูลไม่ตรงความจริงหากตรวจพบภายหลังจะถูกดำเนินคดีทั้งทางแพ่ง และอาญานั้น ถ้า ปตท.มีความจริงใจที่ชดเชยเยียวยาให้แก่ผู้ที่ได้รับกระทบคราบน้ำมัน ก็ไม่น่าที่จะมีข้อความข้อนี้แสดงความไม่จริงใจ ตรงกันข้ามกับที่ออกมาให้ข่าวว่า ปตท.ยินดีชดเชยเยียวยาให้ทุกอย่าง แบบฟอร์มอย่างนี้ต้องเปลี่ยนแปลงใหม่


กำลังโหลดความคิดเห็น