xs
xsm
sm
md
lg

จำนำข้าว “แม้วคิด-ปู/เพื่อไทยทำ” ฉาวซ้ำซาก-โกงตรงๆ ไม่มีอ้อมค้อม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บางส่วนของข้าวที่โดนอายัด
“ค่าแรง 300 บาท/วัน จำนำข้าวตันละ 15,000 บาท เอามั้ยค้า…” เป็นคำปราศรัยหาเสียงจากปาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ยังคงติดหูติดตาคนไทย

แต่สุดท้ายก็เอาไม่อยู่ ต้องประกาศลดราคาจำนำลงเหลือตันละ 12,000 บาทตั้งแต่ 30 มิ.ย. 56 ที่จะถึงนี้ จนทำให้ชาวนาทั่วไทยที่เป็นฐานเสียงสำคัญของพรรคเพื่อไทย ร้องระงมกันทั่ว

เพราะราคาข้าวของเครื่องใช้ ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง น้ำมันเชื้อเพลิง ค่าแรงดำนา-เก็บเกี่ยว ฯลฯ ที่แพงขึ้นตามราคาจำนำข้าวตันละ 15,000 บาท ไม่ยอมลดลงตามราคารับจำนำใหม่

นายสุรเชษฐ์ วรพิทย์เบญจา รองประธานอาสาสมัครเกษตรกรหมู่บ้าน (อกม.) จ.เชียงราย กล่าวว่า ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยหาเสียงว่าจะรับจำนำข้าวราคาตันละ 15,000 บาทมาตลอด แต่กลับไขว้เขว และปรับราคารับจำนำอย่างกะทันหันอย่างนี้ ทำให้เกษตรกรตายอย่างเขียด

“การลดราคารับจำนำลงกะทันหันสวนทางกับที่หาเสียงไว้ ถือว่าเป็นกบฏต่อเกษตรกร ส่งผลให้คนรุ่นใหม่ที่เคยกลับไปทำนาหันหน้าสู่เมืองใหญ่จนเป็นปัญหาสังคมอีก” นายสุรเชษฐ์กล่าวระหว่างพยายามระดมชาวนาในเครือข่ายชุมนุมที่หน้าที่ว่าการอำเภอพาน จ.เชียงราย เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ รับจำนำข้าวในราคาตันละ 15,000 บาทเหมือนเดิม ท่ามกลางความพยายามของฝ่ายปกครองที่จะสกัดมวลชนไม่ให้เข้าร่วมชุมนุม

นอกจากนี้ แผลเน่าของโครงการรับจำนำข้าวที่เคยเกิดขึ้นทุกยุคทุกสมัยยังตามมาหลอนซ้ำ

เริ่มตั้งแต่เหตุเพลิงไหม้โกดังจำนำข้าวอย่างน่าสงสัยหลายแห่งในภาคเหนือ-อีสาน ตามมาด้วยการนำเข้าข้าวจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างกัมพูชา สปป.ลาว เข้ามาสวมสิทธิ โดยเฉพาะข้าวจากกัมพูชา ที่มีหลักฐานบ่งชี้ชัดเจนผ่านหนังสือพิมพ์ “พนมเปญโพสต์” ระบุว่า เพียง 4 เดือนแรกของปี 56 ไทยนำเข้าข้าวจากกัมพูชาสูงจนติดอันดับ 4 ทั้งที่ไทยเป็นประเทศผู้ผลิตข้าวรายใหญ่ของโลก

เมื่อนำข้าวกัมพูชามาสวมสิทธิเข้าโครงการรับจำนำข้าว จะมีกำไรส่วนต่างมากกว่า 1 เท่าตัวทันที

และระหว่างที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เปิดเวทีบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว การทุจริตงบประมาณป้องกันสาธารณภัย และการทุจริตในการใช้งบประมาณของ อปท.ครั้งที่ 2 พื้นที่ภาคเหนือ ที่จังหวัดเชียงรายนั้น

นายบุญเรียน โนพะเส้า แกนนำกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวพื้นที่ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ซึ่งเข้าร่วมอบรมในครั้งนี้ ได้กล่าวว่า โครงการรับจำนำข้าวที่ผ่านมาผิดปกติหลายอย่าง ทั้งการบวกปริมาณข้าวในใบประทวน ซึ่งส่งผ่านไปทางโรงสีที่เข้าโครงการรับจำนำเพิ่มจากความเป็นจริงอีก 20% เช่น ถ้าเกษตรกรนำข้าวไปจำนำจำนวน 1 ตันก็จะบวกตัวเลขเพิ่มเป็น 1.2 ตัน รวมทั้งโรงสีในบางพื้นที่ไม่มีเครื่องวัดความชื้นจึงกดราคาข้าวที่เกษตรกรนำไปจำนำลง อ้างว่าความชื้นสูงหรือข้าวไม่มีคุณภาพ เช่น อ.เชียงแสน ฯลฯ ได้ราคาเพียงตันละ 10,000-11,000 บาทเท่านั้น

ดังนั้น โรงสีจึงได้กำไรสองต่อ ทั้งจากปริมาณข้าวในใบประทวนที่เพิ่มขึ้น และซื้อข้าวในราคาถูกเกินจริง

รวมถึงกรณีโรงสีก้องเกียรติที่เคยก่อคดีฉ้อโกงชาวนาเมื่อปี 2549 กลับมาเปลี่ยนชื่อจดทะเบียนใหม่เป็น โรงสีแอล-โกลด์ แมนูแฟคเจอร์ จำกัด ในที่ตั้งเดิมคือ เลขที่ 97/2 หมู่ 3 ตำบลท่าบัว อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร มีนางสาวณัฐริกา บุญเกื้อ เป็นกรรมการผู้จัดการ ร่วมกับพวกฉ้อโกงชาวนาจำนวน 96 ราย และยักยอกทรัพย์ข้าวเปลือก-ข้าวสารของ อ.ต.ก. รวม 12,000 ตัน มูลค่าความเสียหายรวม 2 คดี 130 ล้านบาท

เป็นกรณีฉ้อโกง-ยักยอกทรัพย์ในโครงการรับจำนำข้าวตั้งแต่ต้นน้ำแบบตรงๆ ไม่มีอ้อมค้อม เมื่อ นายอำนาจ ดิษฐเสถียร หรือ “เสี่ยแกละ” อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49/9 หมู่ 1 ตำบลหัวดง อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร เจ้าของท่าข้าวหัวดง ยอมรับกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าได้รับการแนะนำจากท่าข้าวสุนิตย์ ตะพานหิน ให้รู้จักกับนายมุนินทร์ จันทรา หรือ “เสี่ยหนุ่ม” อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 963/178 หมู่ที่ 60 ถนนรังสิต-นครนายก ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี คนในเครือข่ายนักการเมืองใหญ่นครปฐม พรรครัฐบาล ที่เป็นเจ้าของโรงสีแอล-โกลด์ แมนูแฟคเจอร์ จำกัด ตัวจริง ให้ทำหน้าที่ “ไล่ของ” หรือหาข้าวส่งเข้าโรงสี โดยจะได้ส่วนแบ่ง 300 บาทต่อตัน

ด้วยความที่ท่าข้าวหัวดงได้ส่งข้าวไปแล้ว 3,204 ตัน รวม 147 ราย ได้ใบประทวนไปให้ชาวนา 48 ราย จึงทำให้เกิดความน่าเชื่อถือ จากนั้นชาวนาก็บอกปากต่อปาก แห่กันมาจำนำข้าวที่ท่าข้าวหัวดง ที่ใช้รถบรรทุกจากท่าข้าวสุนิตย์ ตะพานหิน มาบรรทุกข้าวให้

แต่ข้าวที่รับจากชาวนาไม่ได้ส่งเข้าโรงสีที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำ แต่กลับขนไปแวะที่ท่าข้าวสุนิตย์ ตะพานหิน แล้วขนต่อไปขายที่สุพรรณบุรีทันที

ทำให้เมื่อเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบโกดังโรงสีแอล-โกลด์ แมนูแฟคเจอร์ จำกัด เจอแต่กองข้าวเปลือกผสมแกลบ และข้าวสารที่เสื่อมสภาพแล้วปริมาณราว 400 ตัน ที่ไม่ใช่ข้าวของ อ.ต.ก.แต่อย่างใด

เมื่อโรงสีดังกล่าวไม่ได้นำข้าวที่รับจากชาวนาเข้าโครงการรับจำนำตามกระบวนการ ทำให้ไม่มีใบประทวนมามอบให้ชาวนาเจ้าของข้าวนำไปขึ้นเงินได้ ชาวนากลุ่มนี้ขาดเงินทุนหมุนเวียน ต้องกู้หนี้ยืมสินกันเป็นพรวน

ว่ากันว่าเหตุฉ้อโกงจำนำข้าวพิจิตรครานี้ทำให้ชาวนาที่ตกเป็นเหยื่อเสียชีวิตถึง 5 รายด้วยกันแล้ว

ทั้งนี้โดยข้อเท็จจริงของกระบวนการจำนำข้าวเคยเกิดกรณีเช่นนี้แล้วหลายต่อหลายครั้ง เช่น โรงสีอำนวยค้าธัญญาเรือง อ.บางมูลนาก,โรงสีกลุ่มเกษตรกรทำนาทับคล้อ อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร เป็นต้น เรียกกันว่า “เวียนข้าว” หากรู้เห็นกับเจ้าหน้าที่ก็จะทำให้โรงสีมีเงินหมุนเวียนตลอดเวลา

ขณะที่ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ที่เดินหน้าตรวจสอบพิรุธโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มาอย่างต่อเนื่อง ได้เปิดเผยว่า ปัญหาเรื่องทุรจิตรับจำนำข้าวของรัฐบาลชุดนี้มีมากนับ 10 วิธี ได้แก่

1. โกงความชื้น โดยที่โรงสีมีเครื่องมือวัดความชื้นเฉพาะ หรือโกงเฉพาะรุ่นที่ใช้จริงๆ กับชาวนา แตกต่างกับเครื่องที่ จนท.รัฐนำมาตรวจที่โรงสี หรือบางแห่งไม่มีเครื่องวัดความชื้น เถ้าแก่โรงสีบอกกับชาวนาเจ้าของข้าวเอาดื้อๆ เพื่อกดราคา

2. โรงสีโกงสิ่งเจือปน พบมากสุดที่ภาคอีสาน

3. โกงตาชั่ง ซึ่งโรงสีเซตโปรแกรมตาชั่ง โดยที่ชาวนาไม่รู้เลยว่าถูกชั่งน้ำหนักข้าวต่ำกว่าความเป็นจริง

4. ชาวนามีเล่ห์กลโกงเอง คือ นำโควตาสิทธิรับจำนำข้าวไปขายต่อเกวียนละ 500-1,000 บาท

5. โรงสีนำข้าวเสื่อมสภาพ ค้างเก่ามาร่วมโครงการรัฐบาล ขณะที่ข้าวดีที่เพิ่งรับจำนำจากชาวนาหมาดๆ นำไปขายต่างประเทศ

6. นำข้าวเสื่อมคุณภาพ หรือข้าวค้างปีไปเวียนเทียนเข้าร่วมรัฐบาล ส่วนข้าวดีนำไปขายเพื่อส่งออก

7. ลักลอบนำข้าวจากต่างประเทศเข้ามาสวมสิทธิจำนำ พบมากแนวตะเข็บชายแดนไทย-เขมร

8. นำข้าวที่เสื่อมคุณภาพ หรือข้าวเก่าค้างปีไปทำข้าวถุงกับหน่วยงานรัฐต่างๆ เช่น ธงฟ้า, อสค., อ.ต.ก. ฯลฯ

9. จีทูจี แต่เป็นจีทูเจี๊ยะ เพราะรัฐบาลขายข้าวรัฐต่อรัฐไม่จริง เป็นการขายให้พ่อค้ากลุ่มพรรคพวกผู้ใกล้ชิดกับคนในรัฐบาล แล้วนำผลประโยชน์มาแบ่งกัน

10. รัฐบาลร่วมกับโรงสีขายข้าวให้ราคาต่ำ อ้างสารพัดวิธีเพื่อปล่อยข้าวดีราคาต่ำให้พ่อค้าผู้ใกล้ชิดกับคนในรัฐบาล แบ่งผลประโยชน์กัน

ไม่เพียงเท่านั้น ในกระบวนการขายข้าวในโกดังของรัฐบาลปู-ยิ่งลักษณ์ ในรูปแบบจีทูจี ซึ่งทั้งนายกรัฐมนตรี ยันรัฐมนตรีผู้รับผิดชอบ ก็บอกข้อเท็จจริงต่อสาธารณะไม่ได้ และยังคงอึมครึมมาจนถึงทุกวันนี้

โดยความชัดเจนมีเพียงผู้ที่เกี่ยวข้องล้วนแล้วแต่เป็นคนใกล้ชิดอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และคนในพรรคเพื่อไทยทั้งสิ้น

ทั้งกลุ่มบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด ที่เป็นเงาของบริษัท เพรซิเดนท์อะกริเทรดดิ้ง จำกัด ที่เคยถูก ป.ป.ช.ตรวจสอบการทุจริตในโครงการจำนำข้าวสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อปี 2546-2547 ผู้ที่ประกาศว่าเป็นคนคิดนโยบายจำนำข้าวให้รัฐบาล ปู-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ลงมือทำ
ข้าวในโครงการรับจำนำที่มีปัญหาในจ.พิจิตร โดนเจ้าหน้าที่อายัดไว้หมดแล้ว
ข้าวที่มีขี้มอดเหล่านี้ จากโครงการรับจำนำของรัฐบาล พบในโรงสีกลาง จ.ฉะเชิงเทรา
ขั้นตอนการโกงกินในโครงการรับจำนำข้าวมีมากมายสารพัดวิธี แม้จะเปิดให้มีการตรวจสอบได้แต่กว่าจะจับได้ไล่ทัน เกิดความเสียหายไปแล้ว

กำลังโหลดความคิดเห็น