ศรีสะเกษ - ผอ.สนง.พระพุทธศาสนาศรีสะเกษบุกวัดป่าขันติธรรม สอบข้อเท็จจริง “หลวงปู่เณรคำ” นั่งเครื่องบินเจ็ต ใช้ของหรูราคาแพง และมีภาพหลุดนอนอยู่กับสีกา อ้างนั่งเครื่องบินส่วนตัวในกิจนิมนต์เร่งด่วนเป็นสิ่งกระทำได้ไม่ถือเป็นความผิด ส่วนภาพอยู่กับสีกา หากพบกระทำผิดจริงโทษแรงถึงขั้นจับสึก
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีมีกระแสข่าวดังในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์กและสื่อมวลชนได้เสนอข่าวพระชื่อดัง หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ประธานสงฆ์วัดป่าขันติธรรม บ้านยาง ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ นั่งเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว และใช้ของหรูราคาแพง จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมเป็นอย่างมาก และมีการแจ้งเรื่องไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ ตามที่มีการเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (17 มิ.ย.) นายวิรอด ไชยพรรณนา ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.ศรีสะเกษ ได้ลงพื้นที่วัดป่าขันติธรรม บ้านยาง ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อไปทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าว โดยจากการตรวจสอบภายในบริเวณวัดพบว่าบรรยากาศเป็นไปด้วยความเงียบเหงา ซึ่งแตกต่างจากในช่วงปกติที่วัดแห่งนี้จะมีพุทธศาสนิกชน และลูกศิษย์วัดเป็นจำนวนมากอยู่ตามบริเวณวัดเพื่อให้บูชาวัตถุมงคล หรือจำหน่ายธูปเทียน สิ่งของบูชาต่างๆ เพื่อกราบไหว้สักการะพระแก้วมรกตจำลององค์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งประดิษฐานอยู่ที่วัดแห่งนี้
นายวิรอด ไชยพรรณนา ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ตนได้รับคำสั่งจากทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติให้เดินทางมาตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยเบื้องต้นยังไม่มีคำยืนยันจากบุคคลใดว่าคลิปวิดีโอที่เห็นดังกล่าวเป็นหลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก แต่อย่างใด แต่เป็นเพราะสาเหตุของหน้าตาที่มีลักษณะละม้ายคล้ายคลึงกันเท่านั้น ซึ่งในขณะนี้ตนและเจ้าหน้าที่ได้ประสานงานเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงจากทางคณะกรรมการของวัดป่าขันติธรรม แต่ยังไม่ได้รับคำตอบในเรื่องนี้
จากการสอบถามพระสงฆ์ที่จำวัดอยู่ภายในบริเวณวัดป่าขันติธรรมแห่งนี้ เบื้องต้นได้ให้ข้อมูลว่า หลวงปู่เณรคำได้เดินทางไปต่างประเทศเป็นระยะเวลานานหลายเดือน ซึ่งปกติหลวงปู่เณรคำจะเดินทางกลับมาที่วัดแห่งนี้เฉพาะช่วงที่มีการจัดงานเท่านั้น โดยทางวัดได้มีกำหนดการจัดงานมหาพิธีห่มผ้าฤดูฝนพระแก้วมรกตจำลององค์ใหญ่ที่สุดในโลกขึ้นในระหว่างวันที่ 27-30 มิ.ย. 2556 นี้ ซึ่งคาดว่าหลวงปู่เณรคำจะเดินทางกลับมาในช่วงดังกล่าว
นายวิรอดกล่าวต่อว่า ในหลักความผิดทางศาสนานั้นไม่มีกำหนดในเรื่องนี้แต่อย่างใดซึ่งเป็นสิ่งที่กระทำได้ เนื่องจากในบางครั้งกิจนิมนต์เร่งด่วนอาจต้องมีการเคลื่อนที่ด้วยความรวดเร็ว ซึ่งจำเป็นต้องนั่งเครื่องบินส่วนตัว ซึ่งอาจเป็นลูกศิษย์หรือญาติโยมที่มีฐานะดี บริจาคให้เพื่อใช้ในกิจของสงฆ์ ไม่ถือว่าเป็นความผิดแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมาได้มีประชาชนในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษร้องเรียนมายังสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดศรีสะเกษเกี่ยวกับภาพหลุดที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมของผู้ที่มีหน้าตาคล้ายกับหลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก โดยเฉพาะรูปถ่ายที่มีสีกาอยู่ด้วย ซึ่งในขณะนี้อยู่ในขั้นดำเนินการตรวจสอบ และหากพบว่ามีการกระทำผิดอาจมีบทลงโทษขั้นรุนแรง คือการปาราชิก หรือถูกจับสึก นายวิรอดกล่าวในตอนท้าย
อนึ่ง พระวิรพล ฉัตติโก หรือ “หลวงปู่เณรคำ” ประธานสงฆ์วัดป่าขันติธรรม บ้านยาง ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ มีชื่อเดิมว่า “วิรพล สุขผล” เกิดวันที่ 18 กันยายน 2522 ที่บ้านทรายมูล ต.ทรายมูล อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี เป็นบุตรคนที่ 4 ของ นายรัตน์ สุขผล และ นางสุดใจ สุขผล มีพี่น้องทั้งหมด 5 คน เป็นชายทั้งหมด
บวชเป็นสามเณร เมื่ออายุ 15 ปี เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2537 ที่วัดภูเขาแก้ว อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี โดยมี หลวงปู่โชติ อาภัคโค เป็นอุปัชฌาย์ บรรพชาเสร็จแล้วได้ไปจำพรรษาที่วัดป่าดอนธาตุ อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี ระยะหนึ่ง จึงได้รับการอบรมธรรมะจาก หลวงปู่สมบูรณ์ ขันติโก
จากนั้นเดินทางจาริกธุดงค์ ปักกลดอยู่ถ้ำภูตึก บ้านคุ้มปากมูล อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี และบำเพ็ญภาวนาอยู่ในถ้ำภูตึกนั้นคนเดียวนานถึง 3 เดือน ก่อนจาริกธุดงค์ไปเรื่อยๆ หลายจังหวัด และเริ่มออกเผยแผ่หลักธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มาอย่างต่อเนื่อง
เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2542 ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ที่วัดป่าดอนธาตุ เมื่อบวชเป็นพระภิกษุแล้ว ได้รับฉายาทางพระพุทธศาสนา ว่า “ฉัตติโก” คือ “พระวิรพล ฉัตติโก” แล้ว จึงเดินทางมายัง จ.ศรีสะเกษ และ เป็นประธานสงฆ์วัดป่าขันติธรรม บ้านยาง ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ในปัจจุบัน