ชาวพะเยารวมใจทำแนวกันไฟ รณรงค์ลดเผา ไม่สนชาวเขาร้องลิดรอนสิทธิ

พะเยา - ชาวพะเยารวมพลังทำแนวกันไฟลดปัญหาหมอกควัน ยันเดินหน้ารณรงค์ห้ามเผา แม้ชาวเขาลำปาง-เชียงใหม่ ร้องกรรมการสิทธิ อ้างลิดรอนสิทธิการดำรงชีพแบบดั้งเดิม ขณะที่สภาพอากาศทั่วเมืองกว๊านยังคงน่าห่วง

วันนี้ (25 มี.ค.) นายนิมิต วันไชยธนวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา นำเจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าพะเยา สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด ทหาร หน่วยงานภาครัฐ เอกชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตลอดจนประชาชน และพลังมวลชนกว่า 500 คน ร่วมกิจกรรม “ชาวพะเยารวมใจ ทำแนวกันไฟ ป้องกันไฟป่า” ด้วยการสร้างแนวกันไฟ บริเวณลานจอดรถหน้าวัดอนาลโยทิพยาราม เพื่อลดผลกระทบที่กำลังเกิดขึ้นกับชาวพะเยา

นายนิมิตกล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์หมอกควันในจังหวัดเริ่มรุนแรงมากขึ้น ทั้งจากการเผาเศษวัชพืชในพื้นที่ และจังหวัดใกล้เคียง ส่งผลให้ค่าฝุ่นละอองในอากาศเกินค่ามาตรฐานติดต่อกันหลายวัน ทางจังหวัดจึงได้ตั้งรางวัลนำจับผู้ลักลอบเผาเศษวัชพืชจนนำไปสู่การจับกุม เป็นเงิน 3,000 บาทต่อคดี

ส่วนการรณรงค์ลดเผาขณะนี้ต้องยอมรับว่าทำได้ค่อนข้างลำบาก เนื่องจากกลุ่มชุมชนพื้นที่สูงหรือชาวไทยภูเขาในลำปางและเชียงใหม่ เรียกร้องไปที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ว่าการสั่งห้ามเผาป่าเป็นการริดรอนสิทธิ์การดำรงชีพแบบดั้งเดิม ซึ่ง กสม.ได้สั่งมายังทุกจังหวัดให้ชะลอการรณรงค์ แต่จังหวัดเห็นว่าไม่สามารถชะลอได้ เนื่องจากจะมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนจ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องรักษาสิทธิของประชาชน ทั้งเรื่องสุขภาพและเศรษฐกิจจากการท่องเที่ยว ที่ได้รับผลกระทบจากการเผาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นกัน

วันเดียวกัน กรมควบคุมมลพิษได้รายงานข้อมูลแบบ Real Time รายชั่วโมง สภาพอากาศของ จ.พะเยา เมื่อเวลา 10.00 น. ที่จุดตรวจวัดอุทยานการเรียนรู้กว๊านพะเยา พบค่าปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศหรือ PM10 อยู่ที่ 191 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งเป็นความเข้มที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ ทั้งเด็ก ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ และประชาชนทั่วไป