พะเยา - สสจ.เตือนกลุ่มเสี่ยงระวังภาวะหมอกควัน หลังค่าฝุ่นละอองพุ่งพรวด 167 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร กว๊านพะเยาตกอยู่ใต้ม่านฝุ่นเต็มพื้นที่
วันนี้ (21 มี.ค. 56) สภาพหมอกควันยังเข้าปกคลุมในพื้นที่จังหวัดพะเยาอย่างต่อเนื่องและเพิ่มปริมาณขึ้นเป็นลำดับ โดยสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญคือกว๊านพะเยา ถูกปกคลุมด้วยหมอกควันจนแทบมองไม่เห็นทัศนียภาพที่สวยงามของกว๊านพะเยา โดยล่าสุดวันนี้ (21 มี.ค.) ที่สถานีตรวจวัดอากาศอุทยานการเรียนรู้กว๊านพะเยา สามารถวัดปริมาณฝุ่นละอองได้ถึง 167 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งเกินค่ามาตรฐานและเป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชนแล้ว
แพทย์หญิงอารีย์ ตันบรรจง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพะเยา ระบุว่า ขณะนี้จังหวัดพะเยาเริ่มมีปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กหรือหมอกควันเกินมาตรฐาน ตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคม 2556 เป็นต้นมา จากการติดตามรายงานผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือจากกรมควบคุมมลพิษ โดยจังหวัดพะเยามีสถานีตรวจวัดที่อุทยานการเรียนรู้กว๊านพะเยา ผลการตรวจในช่วงนี้พบว่า จังหวัดพะเยามีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 10 ไมครอน (PM 10) เฉลี่ยใน 24 ชั่วโมง ในวันที่ 14 มี.ค. 2556 เท่ากับ 122 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และในวันที่ 16 มี.ค. 2556 เท่ากับ 136 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (ค่ามาตรฐานไม่เกิน 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) ล่าสุดเมื่อวันนี้ (21 มี.ค. 56) มีค่า PM 10 เท่ากับ 167 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร แล้ว
จากข้อมูลการเฝ้าระวังผลกระทบต่อสุขภาพจากปัญหาหมอกควัน ปี2556 (1 มกราคม - 18 มีนาคม 2556) เปรียบเทียบกับปี 2555 ในช่วงเวลาเดียวกัน พบว่าปี 2556 จังหวัดพะเยามีจำนวนผู้ป่วยโรคที่เฝ้าระวังในช่วงหมอกควัน 4 กลุ่มโรค คือ โรคระบบทางเดินหายใจ โรคระบบหัวใจและหลอดเลือด โรคระบบผิวหนัง โรคตาอักเสบไม่เพิ่มสูงขึ้น กว่าปี 2555 แต่เพื่อลดความรุนแรงของปัญหาสุขภาพจากมลพิษหมอกควัน ฝุ่นละออง จึงขอความร่วมมือให้ประชาชนป้องกันที่ต้นเหตุ คือ งดเผา ทั้งเผาขยะ เผาป่า เผาหญ้า เผาไร่นา เผาเศษวัสดุจากการทำการเกษตรต่างๆ
และขอให้ประชาชนโดยเฉพาะประชาชนกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ สตรีมีครรภ์ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ เช่น โรคปอด หอบหืด โรคภูมิแพ้ ซึ่งมีภูมิต้านทานต่ำเมื่อได้สูดหมอกควัน/ฝุ่นละอองเข้าไป จะทำให้มีอาการผิดปกติรุนแรงกว่าผู้ที่มีสุขภาพดี พร้อมทั้งให้ดูแลสุขภาพตนเองโดยหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องอยู่กลางแจ้งหรือนอกอาคารนานๆ เช่น ออกกำลังกายกลางแจ้ง ในบริเวณที่มีฝุ่นละออง หมอกควันปกคลุม หรือหากหลีกเลี่ยงไม่ได้ควรสวมหน้ากากอนามัยหรือใช้ผ้าปิดปากปิดจมูก
รวมทั้งติดตามข่าวสารและดูแลสุขภาพตามข้อแนะนำของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข รีบปรึกษาและพบแพทย์ทันทีเมื่อมีอาการทรุดลง เนื่องจากสถานการณ์หมอกควันยังมีอยู่ในช่วงนี้
คลิกเพื่อชมคลิป :