ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ปัญหาหมอกควันภาคเหนือวิกฤตขึ้นทุกขณะ ล่าสุดฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศเฉลี่ย 24 ชั่วโมง พุ่งสูงสุดถึง 260 ไมโครกรัม/ลบ.ม.แล้ว
วันนี้ (20 มี.ค.) กรมควบคุมมลพิษ รายงานผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือ พบปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 41-260 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) คุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับปานกลางถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ ปริมาณฝุ่นละอองเพิ่มสูงขึ้นกว่าวันก่อนหน้าเกือบทกสถานี
โดยเฉพาะ จ.แม่ฮ่องสอน ถือว่ามีระดับฝุ่นละอองขนาดเล็กสูงสุด โดยสถานีสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอำเภอเมือง วัดระดับ PM10 มีค่าสูงถึง 260 ไมโครกรัมต่อ ลบ.ม. จากค่ามาตรฐานไม่เกิน 120 ไมโครกรัมต่อ ลบ.ม. และดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) วัดได้ 161 ถือว่ามีผลกระทบต่อสุขภาพ
รองลงมา คือ จ.เชียงราย โดยสถานีตรวจวัด สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอำเภอเมือง วัดค่า PM10 ได้ 141 ไมโครกรัมต่อ ลบ.ม. คุณภาพอากาศ 110 และที่สำนักงานสาธารณสุขแม่สายอำเภอแม่สาย พบ PM10 อยู่ในระดับ 123 ไมโครกรัมต่อ ลบ.ม. และดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ในระดับ 110
และอีกจังหวัดที่พบปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก และดัชนีคุณภาพอากาศเกินค่ามาตรฐาน จนเป็นอันตรายต่อสุขภาพ คือ จ.น่าน โดยสถานีตรวจวัดสํานักงานเทศบาลเมืองน่าน วัดค่า PM10 ได้ 121 ไมโครกรัมต่อลบ.ม. และ AQI 101 ส่วนจังหวัดอื่นทั้งเชียงใหม่ พะเยา ลำพูน ลำปาง แพร่ และตาก ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กยังไม่เกินมาตรฐาน
ทั้งนี้ กรมควบคุมมลพิษได้ประกาศเตือนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินมาตรการควบคุมการเผาในพื้นที่ชุมชน พื้นที่เกษตร การเผาริมทาง และพื้นที่ป่า หากมีความจำเป็นต้องขออนุญาตจากกํานัน ผู้ใหญ่บ้านในเขตปกครองท้องที่นั้นก่อนทุกครั้ง ต้องทำแนวกันไฟ และควบคุมไม่ให้ไฟลุกลามไปยังพื้นที่อื่น และให้ดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ลักลอบเผา หรือขออนุญาตเผาแล้วแต่ไม่ทำแนวกันไฟ หรือไม่ได้ควบคุมไฟให้อยู่ในพื้นที่ถือครอง จนเป็นเหตุให้ไฟลุกลามไปยังพื้นที่อื่น หรือลุกลามเข้าเขตป่าโดยเฉียบขาด
นอกจากนี้ ขอให้ประชาสัมพันธ์ชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และวิธีการป้องกันตนเองที่ถูกต้องให้กับประชาชนด้วย สำหรับเด็ก ผู้สูงอายุผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ และประชาชนทั่วไป ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมในพื้นที่มีหมอกควันปกคลุม หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ควรสวมหน้ากาก หรือใช้ผ้าปิดจมูก ปิดประตูหน้าต่างเพื่อกันฝุ่นควันเข้าบ้าน
วันนี้ (20 มี.ค.) กรมควบคุมมลพิษ รายงานผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือ พบปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 41-260 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) คุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับปานกลางถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ ปริมาณฝุ่นละอองเพิ่มสูงขึ้นกว่าวันก่อนหน้าเกือบทกสถานี
โดยเฉพาะ จ.แม่ฮ่องสอน ถือว่ามีระดับฝุ่นละอองขนาดเล็กสูงสุด โดยสถานีสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอำเภอเมือง วัดระดับ PM10 มีค่าสูงถึง 260 ไมโครกรัมต่อ ลบ.ม. จากค่ามาตรฐานไม่เกิน 120 ไมโครกรัมต่อ ลบ.ม. และดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) วัดได้ 161 ถือว่ามีผลกระทบต่อสุขภาพ
รองลงมา คือ จ.เชียงราย โดยสถานีตรวจวัด สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอำเภอเมือง วัดค่า PM10 ได้ 141 ไมโครกรัมต่อ ลบ.ม. คุณภาพอากาศ 110 และที่สำนักงานสาธารณสุขแม่สายอำเภอแม่สาย พบ PM10 อยู่ในระดับ 123 ไมโครกรัมต่อ ลบ.ม. และดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ในระดับ 110
และอีกจังหวัดที่พบปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก และดัชนีคุณภาพอากาศเกินค่ามาตรฐาน จนเป็นอันตรายต่อสุขภาพ คือ จ.น่าน โดยสถานีตรวจวัดสํานักงานเทศบาลเมืองน่าน วัดค่า PM10 ได้ 121 ไมโครกรัมต่อลบ.ม. และ AQI 101 ส่วนจังหวัดอื่นทั้งเชียงใหม่ พะเยา ลำพูน ลำปาง แพร่ และตาก ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กยังไม่เกินมาตรฐาน
ทั้งนี้ กรมควบคุมมลพิษได้ประกาศเตือนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินมาตรการควบคุมการเผาในพื้นที่ชุมชน พื้นที่เกษตร การเผาริมทาง และพื้นที่ป่า หากมีความจำเป็นต้องขออนุญาตจากกํานัน ผู้ใหญ่บ้านในเขตปกครองท้องที่นั้นก่อนทุกครั้ง ต้องทำแนวกันไฟ และควบคุมไม่ให้ไฟลุกลามไปยังพื้นที่อื่น และให้ดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ลักลอบเผา หรือขออนุญาตเผาแล้วแต่ไม่ทำแนวกันไฟ หรือไม่ได้ควบคุมไฟให้อยู่ในพื้นที่ถือครอง จนเป็นเหตุให้ไฟลุกลามไปยังพื้นที่อื่น หรือลุกลามเข้าเขตป่าโดยเฉียบขาด
นอกจากนี้ ขอให้ประชาสัมพันธ์ชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และวิธีการป้องกันตนเองที่ถูกต้องให้กับประชาชนด้วย สำหรับเด็ก ผู้สูงอายุผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ และประชาชนทั่วไป ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมในพื้นที่มีหมอกควันปกคลุม หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ควรสวมหน้ากาก หรือใช้ผ้าปิดจมูก ปิดประตูหน้าต่างเพื่อกันฝุ่นควันเข้าบ้าน
