บีโอไอจัดเวทีเชียงใหม่รับฟังความเห็นร่างยุทธศาสตร์ส่งเสริมการลงทุนใหม่

ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - บีโอไอจัดเวทีสัมมนาที่เชียงใหม่รับฟังความเห็นร่างยุทธศาสตร์ส่งเสริมการลงทุนใหม่ เผยเตรียมนำความเห็นไปปรับปรุงก่อนสรุปยุทธศาสตร์ฉบับสมบูรณ์ ชี้ต้องปรับเปลี่ยนให้ประเทศแข่งขันได้ในระยะยาว ด้าน รมว.อุตสาหกรรมชี้ภาคเหนือเป็นพื้นที่ลงทุนสำคัญจึงต้องมารับฟังความเห็นจากนักลงทุน

วันนี้ (4 ก.พ.) นายประเสริฐ บุญชัยสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานในการเปิดการสัมมนารับฟังความคิดเห็นเรื่อง “ยุทธศาสตร์การส่งเสริมการลงทุนใหม่ : เพื่ออุตสาหกรรมไทยเติบโตอย่างยั่งยืน” ซึ่งจัดโดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ ณ ห้องเอ็มเพรสแกรนด์ฮอลล์ โรงแรมดิเอ็มเพรส จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน นายฤทธิพงศ์ เตชะพันธุ์ รองผู้ว่าราชกาจังหวัดเชียงใหม่ ผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และตัวแทนจากกลุ่มผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมการสัมมนา

การสัมมนารับฟังความคิดเห็นในครั้งนี้มีขึ้นเพื่อนำเสนอร่างยุทธศาสตร์ส่งเสริมการลงทุนใหม่ของบีโอไอที่มีการปรับเปลี่ยนแนวทางการส่งเสริมการลงทุนใน 10 อุตสาหกรรมสำคัญ ได้แก่ 1. กลุ่มโครงสร้างพื้นฐานและลอจิสติกส์ 2. กลุ่มอุตสาหกรรมพื้นฐาน 3. กลุ่มอุตสาหกรรมการแพทย์และเครื่องมือวิทยาศาสตร์ 4. กลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานทดแทนและบริการด้านสิ่งแวดล้อม 5. กลุ่มธุรกิจบริการสนับสนุนภาคอุตสาหกรรม

6. กลุ่มเทคโนโลยีขั้นพื้นฐาน 7. อุตสาหกรรมอาหารและแปรรูปสินค้าเกษตร 8. อุตสาหกรรม Hospitality 9. อุตสาหกรรมยานยนต์และอุปกรณ์ 10. อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยการร่างยุทธศาสตร์การส่งเสริมการลงทุนใหม่เป็นไปเพื่อดึงดูดการลงทุนในกลุ่มเป้าหมายให้ได้มากขึ้น และเพื่อส่งเสริมการลงทุนของนักลงทุนไทยในต่างประเทศ

ขณะเดียวกันยังเป็นการปรับทิศทางยุทธศาสตร์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป รวมทั้งให้สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาประเทศในอนาคต นโยบายของรัฐบาล และแผนพัฒนาอุตสาหกรรม เพื่อให้ไทยมีขีดความสามารถในการแข่งขันกับนานาประเทศและมีการพัฒนาที่ยั่งยืนในระยะยาว

ทั้งนี้ ในการสัมมนาดังกล่าวเลขาธิการบีโอไอได้นำเสนอร่างยุทธศาสตร์การส่งเสริมการลงทุนใหม่ต่อกลุ่มผู้ประกอบการ พร้อมทั้งรับฟังความคิดเห็นจากฝั่งผู้ประกอบการ เพื่อนำไปใช้ในการแก้ไขพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุนให้มีความเหมาะสมต่อภาวการณ์การแข่งขันในปัจจุบันต่อไป

นายประเสริฐ บุญชัยสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า การลงทุนในภาคเหนือถือว่าเป็นส่วนหนึ่งที่มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมามีโครงการยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนในภาคเหนือรวม 665 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 156,200 ล้านบาท อีกทั้งอุตสาหกรรมหลายประเภทที่มีการลงทุนในภาคเหนือก็เป็นอุตสาหกรรมที่บีโอไอให้ความสำคัญภายใต้ยุทธศาสตร์การส่งเสริมการลงทุนใหม่ ดังนั้นจึงได้มีการจัดการสัมมนารับฟังความคิดเห็นดังกล่าวขึ้น เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากนักลงทุนในภาคเหนือ ก่อนจะนำข้อมูลที่ได้ไปใช้ในการจัดทำยุทธศาสตร์ส่งเสริมการลงทุนฉบับสมบูรณ์ต่อไป

ทั้งนี้ นายประเสริฐยังได้กล่าวถึงกรณีปัญหาการขาดแคลนพื้นที่ตั้งโรงงาน เนื่องจากนิคมอุตสาหกรรมหลายแห่งมีการลงทุนเต็มพื้นที่แล้วว่า จริงๆ แล้วยังมีพื้นที่อีกมากที่นักลงทุนให้ความสนใจจะเข้าไปตั้งโรงงานหรือก่อตั้งนิคมอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่พบคือสภาพพื้นที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง เนื่องจากหลายจุดถูกกำหนดให้เป็นพื้นที่สีเขียวตามผังเมือง ทั้งที่พื้นที่สามารถประกอบกิจกรรมในเชิงอุตสาหกรรมได้ ทำให้นักลงทุนไม่สามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่ได้ ซึ่งในเรื่องดังกล่าวจะมีการประสานงานไปยังกระทรวงมหาดไทย และกรมโยธาธิการและผังเมืองเพื่อหารือถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาต่อไป

ส่วนกรณีที่ผู้ประกอบการในจังหวัดเชียงใหม่ โดยเฉพาะในกลุ่มสิ่งทอที่ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำได้ออกมาเรียกร้องให้ภาครัฐให้ความช่วยเหลือนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมกล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวมีการแจ้งผ่านไปยังหลายช่องทางแล้ว ซึ่งในวันนี้ตนเดินทางมายังจังหวัดเชียงใหม่ก็ได้เข้ามารับทราบปัญหาและให้กำลังใจแก่ผู้ประกอบการ โดยได้มอบหมายให้บีโอไอและอุตสาหกรรมจังหวัดเข้าไปดูสภาพปัญหาของแต่ละรายว่าเป็นอย่างไร และเตรียมจะพิจารณาว่ามาตรการของภาครัฐที่มีการกำหนดเพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการข้อใดที่เหมาะต่อปัญหาของผู้ประกอบการในพื้นที่ หากมีก็จะนำมาใช้ให้ความช่วยเหลือทันที รวมทั้งหากพิจารณาแล้วเห็นว่าหน่วยงานใดสามารถเข้ามาช่วยเหลือได้ก็จะดึงให้เข้ามาดูแลเช่นกัน