ศูนย์ข่าวศรีราชา - นักลงทุนไทย-ต่างชาติภาคตะวันออก ร่วมวงเวิร์กชอปยุทธศาสตร์ส่งเสริมการลงทุนใหม่ ระบุอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และสาธารณูปโภคนำโด่ง เผยของบปี 57 วงเงิน 1.2 หมื่นล้าน ไม่เกี่ยวค่าแรง 300 บาท แต่หวังเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน
วันนี้ (24 ม.ค.) ที่โรงแรมเดอะซายน์ พัทยา จ.ชลบุรี นายประเสริฐ บุญชัยสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดการสัมมนารับฟังความคิดเห็นยุทธศาสตร์การส่งเสริมการลงทุนใหม่เพื่ออุตสาหกรรมไทยเติบโต มีนายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) นายพรชัย ขวัญสกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นักลงทุนไทย และต่างชาติในภาคตะวันออกกว่า 800 คนเข้าร่วม
นายประเสริฐ กล่าวว่า การลงทุนในภาคตะวันออกมีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศเป็นอย่างมาก ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาถือว่าเป็นประวัติการณ์ เพราะมีการลงทุนสูงถึงกว่า 1.3 ล้านล้านบาท เฉพาะปี 2555 ภาคตะวันออกมีโครงการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนรวม 2,761 โครงการ มูลค่าการลงทุนกว่า 3.5 แสนล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมยานยนต์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และกิจการบริการ และสาธารณูปโภค
“ทั้งนี้ ปี 2555 บีโอไอขอสนับสนุนงบประมาณช่วยเหลือการลงทุนประมาณ 7 พันล้านบาท และปี 2556 ทำเรื่องขอรัฐบาลไป 1.2 หมื่นล้านบาท เพื่อช่วยเหลือด้านการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศ และสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งต่อไป โดยจะให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมขนาดกลาง และย่อม หรือเอสเอ็มอี โอทอป ครัวไทยสู่ครัวโลก เมืองไทยเมืองแห่งแฟชั่น และอาหารไทย ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับปัญหาขึ้นค่าแรง 300 บาทแต่อย่างใด”
ด้านนายอุดม กล่าวว่า กระทรวงอุตสาหกรรม และบีโอไอได้จัดทำร่างยุทธศาสตร์ส่งเสริมการลงทุน เสนอต่อคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนระยะ 5 ปี (2556-2560) โดยจะส่งเสริมอุตสาหกรรมด้านการใช้เทคโนโลยีมากกว่าการใช้แรงงาน การประหยัดพลังงาน และมุ่งหน้าสู่เศรษฐกิจสีเขียว ไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ตามร่างนโยบายใหม่จะครอบคลุมสิทธิประโยชน์ทางภาษี เน้นการจูงใจ หรือกระตุ้นให้เกิดการลงทุนด้านการวิจัยพัฒนา การรักษาสิ่งแวดล้อม ตลอดจนการเข้าไปลงทุนในนิคมอุตสาหกรรม และลงทุนในลักษณะคลัสเตอร์อุตสาหกรรม ซึ่งเป็นการปรับทิศทางการส่งเสริมให้สอดคลองกับสถานการณ์โลก
