xs
xsm
sm
md
lg

พบขนข้าวเปลือก “สระแก้ว” 117 ตัน เข้าสุรินทร์-จนท.หวั่นนำข้าวเขมรสวมจำนำ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ตำรวจร่วมจนท.ค้าภายในและพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ เข้าตรวจสอบรถบรรทุกพ่วง ขนข้าวเปลือกหอมมะลิ คุณภาพต่ำจาก จ.สระแก้ว มาขายที่จุดรับซื้อข้าว “พูนทรัพย์พืชพล” อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ รวมกว่า 117 ตัน หวั่นทุจริตลอบนำข้าวเขมรสวมสิทธิ์โครงการรับจำนำข้าว วันนี้ ( 6 ธ.ค.)
สุรินทร์- พบลอบขนข้าวเปลือกหอมมะลิคุณภาพต่ำ จาก จ.สระแก้ว เข้ามาขายในเขต อ.กาบเชิง สุรินทร์ แหล่งผลิตข้าวหอมมะลิโลกจำนวนมาก กว่า 117 ตัน ตำรวจร่วม จนท.ค้าภายใน และพาณิชย์จังหวัดฯ รุดตรวจสอบ หวั่นทุจริตลอบนำข้าวเขมรหรือข้าวปลอมปนด้อยคุณภาพเข้าสวมสิทธิ์โครงการรับจำนำ เผยพบพิรุธอื้อแต่ จนท.ยังเอาผิดไม่ได้ เร่งประสานค้าภายในสระแก้วผู้ออกใบอนุญาตเคลื่อนย้ายหาแหล่งต้นตอที่มาของข้าว

วันนี้ (6 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จุดรับซื้อข้าวเปลือก บ้านนาจำปา หมู่ที่ 15 ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ พ.ต.อ.นิธิ ปิติธีรโชติ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรกาบเชิง (ผกก.สภ.กาบเชิง) พร้อมด้วย นางวิยะดา เฮ่ประโคน นักวิชาการพาณิชย์ชำนาญการ สำนักงานการค้าภายในจังหวัดสุรินทร์ และเจ้าหน้าที่พาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ ได้เข้าตรวจสอบรถบรรทุกข้าวเปลือกจำนวน 40 ตัน ที่ระบุว่าเป็นข้าวเปลือกหอมมะลิแต่มีคุณภาพด้อยกว่าข้าวเปลือกหอมมะลิที่ปลูกในพื้นที่ จ.สุรินทร์

ทั้งนี้ ข้าวเปลือกหอมมะลิดังกล่าวได้ใช้รถบรรทุกพ่วง 22 ล้อบรรทุกมาจาก อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นจังหวัดมีพื้นที่ติดชายแดนประเทศกัมพูชา เข้ามายังจุดรับซื้อข้าวเปลือก บ้านนาจำปา ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ที่ขออนุญาตตั้งจุดรับชื้อข้าวเปลือกจากองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ด่าน เมื่อวันที่ 27 พ.ย.ที่ผ่านมา ในนาม “พูนทรัพย์พืชผล” มีนายประหยัด พวงเพชร เป็นเจ้าของสถานที่จุดรับชื้อข้าวเปลือก และมีนายประมวล ทรงศรี อยู่บ้านเลขที่ 23 หมู่ที่ 2 ต.บ้านเจียง อ.ภักดีชุมพล จ.ชัยภูมิ เป็นผู้ดูแลสถานที่จุดรับชื้อข้าวเปลือก

นางวิยะดา เฮ่ประโคน นักวิชาการพาณิชย์ชำนาญการ สำนักงานการค้าภายในจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า การมาตรวจสอบข้าวเปลือกหอมมะลิที่มีการเคลื่อนย้าย จาก จ.สระแก้ว เข้ามายังพื้นที่ อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบเอกสารการขออนุญาตเคลื่อนย้ายข้าวเปลือก พบมีเอกสารการขออนุญาตจากทางราชการ ออกโดยการค้าภายในจังหวัดสระแก้วอย่างถูกต้อง มีต้นทางจากแสงจันทร์พืชไร่ ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว มาส่งยังพูนทรัพย์พืชผล หมู่ที่ 15 ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ซึ่งขั้นตอนการตรวจสอบต่อไปจะประสานไปยังการค้าภายในจังหวัดสระแก้ว เพื่อขอทราบรายละเอียดที่มีการบรรทุกข้าวเปลือกออกจากพื้นที่ว่าเป็นข้าวมาจากแหล่งใด

ด้าน พ.ต.อ.นิธิ ปิติธีรโชติ ผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.กาบเชิง กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงของการเคลื่อนย้ายบรรทุกข้าวเปลือกหอมมะลิ นอกเขตเข้ามายัง พื้นที่ สภ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ดังกล่าวพบว่า มีการเคลื่อนย้ายเข้ามาถึง 3 เที่ยว ในช่วง 2 วัน โดยเที่ยวแรกบรรทุกมา 40 ตัน เที่ยวที่ 2 จำนวน 37 ตัน และเที่ยวล่าสุดวันที่ 5 ธ.ค.มีการบรรทุกข้าวเปลือกเข้ามาอีก 40 ตัน รวมแล้วเป็นข้าวเปลือกจำนวน 117 ตัน จึงมาตรวจสอบว่านำเข้ามาในพื้นที่ด้วยเหตุใด พร้อมประสานกับการค้าภายในจังหวัดสุรินทร์ และพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์เข้ามาตรวจสอบที่มาที่ไปของข้าวเปลือกทั้งหมดอย่างละเอียด

“เนื่องจากหวั่นเกรงว่าอาจมีการนำข้าวเปลือกจากต่างพื้นที่เข้ามาสวมสิทธิ์ในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2555/56 ส่วนจะเป็นข้าวจากประเทศเพื่อนบ้านหรือไม่ ก็ต้องมีการตรวจสอบกันอีกครั้ง แต่ในเบื้องต้นต้องดูว่าเป็นข้าวเปลือกในประเทศเราหรือไม่ก่อน” พ.ต.อ.นิธิกล่าว

แหล่งข่าวในพื้นที่ระบุว่าจุดรับซื้อข้าวเปลือกของพูนทรัพย์พืชผล บ้านนาจำปา ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ที่รับซื้อข้าวเปลือกเคลื่อนย้ายมาจาก จ.สระแก้ว ดังกล่าว ไม่มีลานปูนซีเมนต์ขนาดใหญ่ และเครื่องชั่งน้ำหนักเหมือนจุดรับซื้อข้าวทั่วไป เรียกได้ว่าแทบไม่มีเครื่องมืออุปกรณ์อะไรเลย เป็นเพียงลานดินทรายปูพื้นด้วยแสลนหรือตาข่ายพลาสติกกรองแสงไว้รองรับข้าวเท่านั้น และเมื่อรถบรรทุกพ่วงเทข้าวเปลือกมาจาก จ.สระแก้ว ลงบนลานแผ่นพลาสติกก็จะใช้เครื่องปั๊มดูดข้าวเปลือกทั้งหมดขึ้นรถบรรทุกสิบล้อ ขนออกจากจุดรับซื้อออกไปขายทันที โดยไม่ระบุว่านำไปขายที่ใด

ทั้งนี้เป็นที่สังเกตว่า ทำไมถึงมีการขนข้าวเปลือกหอมมะลิต่างพื้นที่ข้ามจังหวัดจาก จ.สระแก้ว เข้ามาขายใน จ.สุรินทร์ ทั้งที่เป็นแหล่งผลิตข้าวหอมมะลิของประเทศไทยและของโลก หรือจะเป็นการนำข้าวหอมมะลิปลอมปนด้อยคุณภาพนอกพื้นที่ หรือเป็นการลักลอบนำเข้าข้าวจากประเทศกัมพูชา เข้ามาเพื่อสวมสิทธิ์ในโครงการรับจำนำของรัฐบาลที่ให้ราคาสูง ขณะที่เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเอง กลับยังไม่สามารถดำเนินใดๆ กับการเคลื่อนย้ายข้าวเปลือกสุดพิลึก ดังกล่าวนี้ได้

ด้าน นายยรรยง เนื่องทะบาล อายุ 29 อยู่บ้านเลขที่ 17 หมู่ที่ 5 บ้านหนองไผ่ ต.สระขวัญ อ.เมือง จ.สระแก้ว คนขับรถพ่วง 22 ล้อ ทะเบียน 31-3399 สระแก้ว และลูกพ่วง ทะเบียน 31-3398 สระแก้ว ซึ่งบรรทุกข้าวเปลือกจาก จ.สระแก้ว มาส่งที่ พูนทรัพย์พืชผล อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ บอกกับผู้สื่อข่าวว่าตนขับรถออกจาก อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เมื่อเวลา 20.00 น. คืนวันที่ 4 ธ.ค. มาถึง อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เวลา 04.00 น. เช้าวันที่ 5 ธ.ค. ขับรถมาด้วยความลำบากเพราะบรรทุกน้ำหนักมากและไม่ชำนาญเส้นทาง เพราะเป็นเพียงคนรับจ้างขับรถเท่านั้น เมื่อมาถึงที่พูนทรัพย์พืชพล ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบข้าวเปลือกที่บรรทุกมา ยืนยันว่าตนเป็นแค่คนรับจ้างขับรถมาเท่านั้น

ขณะที่ นายประมวล ทรงศรี อยู่บ้านเลขที่ 23 หมู่ที่ 2 ต.บ้านเจียง อ.ภักดีชุมพล จ.ชัยภูมิ บอกว่า ตนเป็นเพียงคนรับจ้างดูแลสถานที่จุดรับซื้อข้าวของพูนทรัพย์พืชพล ให้นายประหยัด พวงเพชร ซึ่งเป็นเจ้าของสถานที่รับซื้อข้าวเท่านั้น และทราบว่ามีการขออนุญาตในการตั้งเป็นสถานที่รับซื้อข้าวเปลือก หัวมันสำปะลัง ต้นมันสำปะลัง ต้นยูคาลิปตัส ซึ่งเจ้าของจุดรับซื้อข้าวเปลือก ได้ประสานงานกับผู้ใหญ่บ้านนาจำปาในการขออนุญาตจากนายกองค์การบริหารส่วนตำบลด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว










กำลังโหลดความคิดเห็น