xs
xsm
sm
md
lg

โต้!ยธ.พวก“ไม่มีข้อมูล” สว.ยันไซฟ่อนฮ่องกงชั้นความลับ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้(15 ต.ค.55) น.ส.สุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรี ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ศึกษา ตรวจสอบเรื่องการทุจริต และเสริมสร้างธรรมาภิบาล เปิดเผยว่า ได้เตรียมทำหนังสือสอบถามไปยังคณะกรรมการอิสระเพื่อการปราบปรามการคอร์รัปชั่นในฮ่องกง หรือ Independent Commission Against Corruption (ICAC) เพื่อขอทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประเด็นที่ภาคีเครือข่ายต่อต้านทุจริตคอรัปชั่นแห่งชาติ (ภตช.)ระบุว่า มีนักการเมืองไทย กว่า 30 คนขนเงินมูลค่ารวม 1.6 หมื่นล้านบาทไปไซฟ่อนที่ฮ่องกง และทางหน่วยงานที่มีหน้าที่ของฮ่องกง หากทางฮ่องกงบอกว่าไม่มีเป็นความจริงก็คงต้องยุติการตรวจสอบแต่ถ้ามีมูลความจริงทางกมธ.พร้อมดำเนินการต่อทันที นอกจากนี้ ในวันที่ 18 ต.ค.ได้เชิญตัวแทนของภตช.มาให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วย
น.ส.สุมล กล่าวว่า ส่วนกรณีที่พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม พร้อมด้วยสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.)ออกมาปฏิเสธไม่ทราบข้อมูลเรื่องการไซฟ่อนเงินจำนวนดังกล่าว เชื่อว่าคนกลุ่มนั้นคงไม่มีข้อมูลเพราะขณะนี้ข้อมูลที่ภตช.ได้ยังอยู่ในชั้นความลับ
ทั้งนี้มีรายงานว่าในวันที่ 16 ต.ค.ที่ประชุมคณะอนุกรรมาธิการด้านการจัดเก็บรายได้ของแผ่นดิน ในคณะกรรมาธิการการเงินการคลัง การธนาคารและสถาบันการเงิน วุฒิสภา ได้เชิญ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม มาให้ข้อมูลในประเด็นกระบวนการนำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศโดยหลีกเลี่ยงภาษีพร้อมกับสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการไซฟ่อนเงินของกลุ่มนักการเมืองด้วย ที่ห้องประชุมหมายเลข 106 ชั้น 1 อาคารรัฐสภา2เวลา 10.00น.

**“ประชา”อ้างประสานฮ่องกงไม่มีแน่!
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม แถลงว่า หลังจากที่มีข่าวนี้ออกมา กระทรวงยุติธรรมไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ติดตามข่าวนี้ และขอทราบผลโดยเร็วที่สุด โดยพ.ต.อ.สีหนาท ที่อยู่ระหว่างการประชุมคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อดำเนินมาตรการทางการเงินเกี่ยวกับการฟอกเงิน(FATF) ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ได้สอบถามตัวแทนของหน่วยงานข่าวกรองทางการเงิน(เอฟไอยู -- Financial Intelligence Unit)ของฮ่องกง ที่เข้าร่วมประชุมดังกล่าวด้วย ได้รับการยืนยันชัดเจนแล้วว่าไม่มีข้อมูลการโอนเงิน 16,000 ล้านบาท ไปที่ฮ่องกง

อีกทั้ง ร.ต.อ.หญิง สุวนีย์ แสวงผล รองเลขาธิการ ปปง.ได้ประสานงานกับหน่วยงานเอฟไอยูของฮ่องกง โดยตรงอีกทางหนึ่งด้วย ได้รับการยืนยันจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของหน่วยงานนี้ ซึ่งเป็นตำรวจของฮ่องกง ว่าไม่พบข้อมูลการโอนเงิน หรือยึดอายัดเงินจำนวนดังกล่าวตามที่เป็นข่าว ดังนั้น ข่าวที่ปรากฏออกมาจึงเป็นเรื่องเท็จที่มุ่งทำลายความเชื่อมั่นของสังคมและประชาชนที่มีต่อรัฐบาล
รมว.ยุติธรรม กล่าวอีกว่า ตนยืนยันว่ารัฐบาลของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้ความชัดเจนอยู่แล้วว่าเราดำเนินการป้องกันและปราบปรามการทุจริตอย่างต่อเนื่องและเข้มข้น จึงขอฝากไปถึงผู้ที่ออกมาให้ข่าวนี้ตรวจสอบข้อมูลและหลักฐานให้ดีเสียก่อน และควรคำนึงถึงความเสียหายที่จะเกิดกับประเทศชาติเป็นสำคัญด้วย ไม่ใช่เอาแต่พูดเชิงการเมืองเท่านั้น
ส่วนที่มีการพาดพิงถึงพ.ต.อ.ดุษฎี ในฐานะอดีตเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ(ป.ป.ท.) ว่าเป็นผู้ที่เคยยืนยันข้อมูลนี้ต่อคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ศึกษา ตรวจสอบเรื่องการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา นั้น ตนได้สั่งการให้นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรมแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องชี้แจงข้อเท็จจริงกลับมาโดยด่วน คาดว่าจะได้รับความคืบหน้าในเร็วๆนี้
เมื่อถามว่าการให้ปลัดกระทรวงยุติธรรม สั่งการให้ผู้ที่เกี่ยวข้องชี้แจงข้อเท็จจริงกลับมานั้น ถ้าผลปรากฏว่ามีข้อมูลยืนยันว่ามีการไซฟ่อนเงินที่ฮ่องกง จะขอให้ฝ่ายฮ่องกงตรวจสอบอีกครั้งหรือไม่ พล.ต.อ.ประชา กล่าวอย่างไม่พอใจว่า ทางฮ่องกงและปปง.ยืนยันมาแล้วว่าไม่มีในข้อมูลนี้ แล้วจะให้ไปตรวจสอบอะไรอีก เมื่อถามต่อว่าข้าราชการของกระทรวงยุติธรรม ที่ถูกพาดพิง จะถูกสอบสวนหรือไม่ รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่าพ.ต.อ.ดุษฎี พูดจริงหรือไม่ แต่ตนมอบให้ปลัดกระทรวงยุติธรรมสอบถามพ.ต.อ.ดุษฎี ซึ่งถ้าความจริงออกมาเป็นอย่างไร ปลัดกระทรวงยุติธรรมก็จะเสนอให้ความเห็นต่อไป

**ดุษฎี'แจงไม่มีไซฟ่อน 1.6 หมื่นล้าน
ด้านพ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา(15 ต.ค.) พล.ต.อ.ประชา ในฐานะผู้บังคับบัญชา ได้ทำหนังสือสั่งให้ตนชี้แจงกรณีที่ถูกพาดพิงว่าเข้าไปเกี่ยวข้องกับการให้ข้อมูลข่าวเรื่องไซฟ่อนเงินไปฮ่องกงจำนวนกว่า 16,000 ล้านบาท ซึ่งตนได้ทำหนังสือชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรเพียงสั้นๆเสนอผ่านไปยังนายกิตติพงษ์ ว่าไม่เคยทราบเรื่องตามที่ให้ชี้แจงแต่อย่างใด จึงไม่ขอชี้แจง จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา
ทั้งนี้ ยืนยันว่าไม่เคยทราบเรื่องดังกล่าวมาก่อน แม้ภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นของชาติ (ภตช.) จะระบุว่าเคยส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ท.) ตรวจสอบในช่วงที่ตนดำรงตำแหน่งเลขาธิการป.ป.ท. แต่ตนไม่เคยทราบเรื่อง จึงไม่มีข้อมูลจะชี้แจง หลังมีกระแสข่าวดังกล่าวมีผู้ใหญ่หลายคนติดต่อให้ตนออกมาชี้แจง แต่ตนก็ไม่รู้ว่าจะชี้แจงได้อย่างไร เพราะไม่มีข้อมูล ดังนั้น จึงอาจจำเป็นต้องทำหนังสืออีกฉบับหนึ่งถึงรมว.ยุติธรรมและปลัดกระทรวงยุติธรรม หากยังมีข้อสงสัยก็ขอให้ตั้งตนเป็นคณะกรรมการตรวจสอบการไซฟ่อนเงินเพื่อจะได้มีอำนาจตรวจสอบข้อเท็จจริงและแจ้งผลการตรวจสอบให้ทุกฝ่ายทราบ

**ขอนั่งปธ.ตรวจสอบจะได้กระจ่าง
พ.ต.อ.ดุษฎี กล่าวต่อว่า การตรวจสอบไซฟ่อนเงินไม่ใช่เรื่องยาก เพราะการอายัดทรัพย์นักการเมืองต้องมีคดีมูลฐาน มีข้อมูลการอายัด หากได้รับมอบหมายให้เป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบ เชื่อว่าจะหาข้อเท็จจริงได้แน่นอน ส่วนกรณีที่มีการระบุว่าเงินที่ไซฟ่อนเป็นเงินที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตงบภัยพิบัติ ที่ป.ป.ท.ตรวจสอบขณะนั้นป.ป.ท.ยังตรวจสอบเพียงการกระทำความผิดของข้าราชการ ยังไม่มีข้อมูลโยงไปถึงบุคคลอื่น ทั้งนี้ ยอมรับเคยได้รับเชิญให้ไปประชุมร่วมกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.)ของฮ่องกง ช่วงวันที่ 6-8 ก.ย. แต่ช่วงดังกล่าวเป็นช่วงที่ตนเพิ่งทราบข่าวการถูกปลดจากตำแหน่งเลขาธิการป.ป.ท.เลยไม่ได้ร่วมประชุมตามคำเชิญ
ที่ผ่านมาการทำงานทุกเรื่องมีสื่อมวลชนคอยติดตามการทำงานตลอด ทั้งกรณีทุจริตงบภัยพิบัติการบุกรุกที่ดินภูเก็ต การธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้ให้บริษัท เพรสซิเด้น อะกริ เทรดดิ้ง ทำสัญญาซื้อขายข้าวปลอม และกรณีหลบเลี่ยงภาษีรถยนต์หรู ซึ่งในวันพรุ่งนี้(16 ต.ค.) ตนจะเข้าชี้แจงข้อมูลดังกล่าวต่อคณะกรรมาธิการวุฒิสภาด้วย

"มงคลกิตติ์" ยัน "ดุษฎี" มีข้อมูลไซฟ่อนเงิน
ทางด้านนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เลขาธิการเครือข่ายภาคีต่อต้านการทุจริตขอคอร์รัปชั่นแห่งชาติ (ภตช.) กล่าวยืนยันว่า พ.ต.อ.ดุษฎี มีข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นที่นักการเมืองขนเงินน 1.6 หมื่นล้านไปไซฟ่อนที่ฮ่องกง เนื่องจากสมัยที่พ.ต.อ.ดุษฎีดำรงตำแหน่งเลขาธิการป.ป.ท. ได้เคยตรวจสอบพบทั้งรายชื่อบริษัทและหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง แต่ตนเข้าใจว่า พ.ต.อ.ดุษฎี วันนี้อยู่ในฐานะรองปลัดกระทรวง จึงไม่สามารถที่จะพูดข้อเท็จจริงได้ และหากพิจารณาถึงเหตุการณ์ ที่พ.ต.อ.ดุษฎีถูกย้ายไปนั่งในตำแหน่งรองปลัดกระทรวงยุติธรรม ข้อมูลเชิงลึกจะพบว่าเหตุใดจึงโดนเด้งไปตำแหน่งดังกล่าว เพราะพ.ต.อ.ดุษฎีมีข้อมูลเชิงลึกเช่นนี้ใช่หรือไม่
นายมงคลกิตติ์ กล่าวต่อว่า ส่วนที่รัฐบาลออกมาปฏิเสธว่าไม่ทราบข้อมูล ตนอยากท้าให้พิสูจน์ความจริงใจ ด้วยการตั้งคณะทำงานสอบสวนตามที่พ.ต.อ.ดุษฎีระบุไว้ โดยทาง ภตช. จะขอเข้าร่วมในการตรวจสอบ และสำหรับข้อมูลที่ได้รับการเปิดเผยจาก ป.ป.ช.ฮ่องกง ตนทราบว่าได้ส่งข้อมูลให้รัฐบาลจีนและทุกไตรมาสก็จะส่งข้อมูลเรื่องการทุจริตมายังรัฐบาลไทยโดยตรง ตนเชื่อว่าเรื่องนี้รัฐบาลจีนได้ส่งเรื่องให้ไทยแล้ว แต่ด้วยคนใกล้ชิดดึงเรื่องเอาไว้
"ยืนยันว่าข้อมูลของผมเชื่อได้ เนื่องจากที่ปรึกษาระดับสูงของภตช. มีความใกล้ชิดส่วนตัวกับหน่วยงานป้องกันและปราบปรามการคอร์รัปชั่นของฮ่องกง"นายมงคลกิตติ์กล่าว

**“เหลิม”ยันแก๊งหวังล้มรัฐบาล
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า สถานการณ์การเมืองในขณะนี้จะมีเข้มข้น 3 เรื่อง โดยเฉพาะกรณีมีการปล่อยข่าวว่ามีการไซฟ่อนเงิน 1.6 หมื่นล้านที่ประเทศฮ่องกง ตนซึ่งเป็นตำรวจเก่าเป็นพนักงานสอบสวน ทั้งนี้หน่วยปราบปรามทุจริตคอรัปชั่นของฮ่องกง(ICAC) ก็เหมือนกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ของบ้านเรา ไม่มีเหตุผลใดเลยที่เครือข่ายทุจริตภาคเอกชน(ภาคีเครือข่ายต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นแห่งชาติ) จะไปนั่งร่วมประชุมกับเขา และหากมีจริงเขาก็ต้องติดต่อกับป.ป.ช. หรือ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) บ้านเรา ซึ่งเขาจะไม่ติดต่อกับเครือข่ายภาคเอกชนซึ่งแต่งตั้งกันเองไม่มีกฎหมายรองรับ หากเครือข่ายทุจริตภาคเอกชนนั้นมีข้อมูลจริงทำไมไม่แจ้งกับ ป.ป.ง. แต่ไปแจ้งกับกรรมธิการซึ่งก็รู้อยู่ว่าใครเป็นใครใน 40 สว. และที่สำคัญอนุกรรมการกรรมธิการจะเรียกได้เฉพาะเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งก็เป็นการสร้างข่าว เต้าข่าวให้รัฐบาลเสียหาย และตนได้ติดต่อกับพ.ต.อ. สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการ ป.ป. ซึ่งอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งในวันนี้(15ต.ค.)จะมีการประชุม ป.ป.ง. ซึ่ง ป.ป.ง.ของฮ่องกงจะไปร่วมด้วย ตนบอกไปว่าหากมีหลักฐานก็เอาเลยแล้วกลับมาจับใหญ่
เมื่อถามว่าทั้ง 3 เรื่องที่กล่าวมานั้นมีแนวโน้มของกระบวนการนำไปสู่การล้มรัฐบาลหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า แน่นอน เขารู้ว่ารัฐบาลนี้จะอยู่นานแต่ยาก และเย็นนี้ตนก็จะรู้แล้วว่า ป.ป.ง.ฮ่องกงจะว่าอย่างไร แต่ตนวิเคราะห์ว่าภาคีเครือข่ายต่อต้านคอรัปชั่นแห่งชาติ มันตั้งมาเองโดยไม่มีสถาณะรองรับ ป.ป.ช. และ ป.ป.ง.ของเขาจะมาบอกอะไร ถ้าหากเป็นเรื่องจริงทำไมไม่บอกกับป.ป.ช.เมืองไทย ซึ่งรัฐบาลสั่งไม่ได้อยู่แล้ว

**ปชป.โต้ไม่เต้าข่าวได้ข้อมูล ภตช.
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า จากกรณีภาคเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นแห่งชาติ (ภตช.)ที่รวมตัวของภาคเอกชนหลายสิบองค์กร ได้ออกมาเปิดเผยว่า มีการไซฟ่อนเงิน1.6 หมื่นล้านบาท ไปยังฮ่องกง และถูก ป.ป.ง.ฮ่องกงจับได้ แต่ว่าภาคีฯเป็นเอกชนไม่สามารถติดต่อกับทางหน่วยราบการ ป.ป.ง.ฮ่องกงได้ จึงส่งเรื่องไปยังวุฒิสภาให้ดำเนินการ ตนจึงมาเรียกร้องให้นายกฯและรัฐบาลดำเนินการส่งการให้หน่วยงานภาครัฐ เช่น ป.ป.ท ,ป.ป.ง. ประสานงาน ป.ป.ง.ฮ่องกงเพื่อตรวจสอบข้อมูลในการทำงานรวมกันในการสอบสวนค้นหา ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินจำนวนนี้ ที่เชื่อว่าน่าจะเป็นเงินที่เกี่ยวข้องการทุจริตในประเทศไทย แต่ปรากฏหว่าหลังแถลงข่าว พรรคเพื่อไทย กล่าวหาว่า ตนไม่มีข่อมูล ตนเต้าข่าว แล้วมาเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการ แต่วันนี้ทางรัฐบาลโดยร.ต.อ.เฉลิม ออกมาบอกว่า ไม่มีข้อมูลในเรื่องนี้ให้ฝ่ายค้านส่งข้อมูลให้รัฐบาลเพื่อดำเนินการ
นายองอาจ กล่าวต่อว่า เรื่องการไซฟ่อนเงิน พรรคไม่ได้เต้าข่าว และเรื่องนี้เกิดจากสืบเนื่องจากภาคีฯ เป็นผู้นำมาเปิดเผย แต่เนื่องจากภาคีฯเป็นภาคเอกชน ไม่สามารถประสานงาน ป.ป.ง.ฮ่องกงได้ ตนในฐานะเป็นฝ่ายค้าน ตรวจสอบรัฐบาล เป็นฝ่ายค้านไม่ใช่หน่วยงานราชการ ตนจึงได้เรียกร้องให้รัฐบาลออกมาดำเนินการในเรื่องนี้โดยเฉพาะนายกฯ ที่เป็นผู้บริหารสูงสุดและกำกับดูแลหน่วยงานต่างๆกระรวงทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องสั่งการไปยังรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องหรือ ป.ป.ท.และป.ป.ง. ให้ ดำเนินการค้นหาความจริง ในเรื่องนี้ จะประโยชน์ในการแก้ปัญหาการต่อต้านการทุจริต และเรื่องไม่ใช่เรื่องการเรียกร้องเพื่อโจมตีรัฐบาลเรื่องนี้นอกจากภาคีฯ ออกมาบอกแล้ว ยังมีข้าราชการ ภาครัฐของไทยออกมาพูดเรื่องนี้เช่นเดียวกัน ที่สำคัญภาคีไม่ได้บอกว่า เรื่องไซฟ่อนเงิน เกี่ยวข้องนักการเมืองในรัฐบาลเท่านั้น แต่บอกว่าเกี่ยวข่องนักการเมืองฝ่ายไม่ได้โจมตีกล่าวหารัฐบาล แต่เป็นการเรียกร้องให้รัฐบาลให้ทำความจริงให้ปรากฏ ถ้ารัฐบาลมีความจริงในการต่อต้านการทุจริตต้องทำความจริงเรื่องนี้ให้ปรากฏ โดยการสั่งการสั่งการให้หน่วยงานให้ดำเนินการค้นหาข้อมูลและความจริงในเรื่องนี้ออกมา
กำลังโหลดความคิดเห็น