สกลนคร - เผยชาวนาจังหวัดสกลนครเริ่มหันมาทำนาหยอดเมล็ดแทนการทำนาดำซึ่งสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายสูง เผยแม้แต่บนที่ดอนน้ำน้อยก็สามารถปลูกได้ ที่สำคัญเป็นการคัดพันธุ์ข้าวพันธุ์ดีไปในตัว
ช่วงฤดูกาลเพาะปลูกเริ่มขึ้น ชาวนาที่จังหวัดสกลนครต่างมองหาวิธีการทำนาที่จะช่วยลดต้นทุนการผลิตที่นับวันจะสูงขึ้น โดยเฉพาะราคาปุ๋ยเคมีที่ขณะนี้ปรับขึ้นราคาถุงละ 1,280 บาท น้ำมันลิตรละกว่า 30 บาท และค่าแรงวันละไม่ต่ำกว่า 150 บาท/คน และยังมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นราคาอีกตลอดฤดูกาลผลิตปีนี้
นายผิน ครุทตำคำ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25 หมู่ 1 บ้านดงสมบูรณ์ ต.พังขว้าง อ.เมือง จ.สกลนคร เล่าว่า ตนมีที่นาจำนวน 5 ไร่ ทุกปีที่ผ่านมาจะทำนาดำ โดยจ้างแรงงานในพื้นที่วันละ 120-150 บาท แต่สำหรับปีนี้ที่เริ่มต้นฤดูมีการจ้างแรงงานสูงถึงวันละเกือบ 200 บาท และราคาปุ๋ยเคมีที่จำเป็นต้องใช้เพื่อเร่งการเจริญเติบโตให้กับต้นข้าว ยังมีการปรับราคาขึ้นถึงถุงละ 1,280 บาท ขณะที่ค่าจ้างรถไถนาก็แพงขึ้นไร่ละ 600 บาท ซึ่งเมื่อต้นทุนการทำนาสูงดังกล่าวทำให้เสี่ยงต่อการขาดทุน หากประสบปัญหาฝนแล้ง ผลผลิตตกต่ำก็จะทำให้ขาดทุนกว่าเดิม
ดังนั้น เพื่อลดความเสี่ยงต่อการขาดทุน จึงได้หันมาทำนาบนที่ดอนหรือพื้นที่ที่มีน้ำน้อยแทน โดยการหยอดเมล็ดนั้นทั้งค่าจ้างแรงงานก็ไม่สิ้นเปลืองและไม่ต้องเสียเวลาจ้างถอนกล้าและปักดำ
นอกจากนี้ การทำนาด้วยวิธีดังกล่าวยังเป็นการคัดพันธุ์ข้าวไปในตัวด้วย ซึ่งหากพบว่าต้นกล้าต้นใดผิดพันธุ์ก็สามารถถอนและทำลายโดยง่าย การดูแลก็ง่าย มีความต้านทานโรคได้ดี จึงมีเพื่อนชาวนาหลายคนหันมาทำนาหยอดเหมือนตน ทั้งนี้ ยังคาดหวังว่าจะได้ผลผลิตที่เกินคุ้ม ได้เมล็ดข้าวที่มีคุณภาพ ไม่มีเมล็ดข้าวปลอมปน และได้ปริมาณมากกว่าทำนาหว่านหรือนาดำหลายเท่าอีกด้วย