xs
xsm
sm
md
lg

ศรีสะเกษเพิ่งเชือด “ผญบ.” หัวโจกรุกป่าห้วยศาลา - พระขอทหารปราบนายทุนเหิม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สำนักสงฆ์เขื่อนบ้านศาลา  ต.โคกตาล  อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ
ศรีสะเกษ - ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ ระบุเพิ่งเชือดสั่งพักปฏิบัติงาน “ผู้ใหญ่บ้าน” แกนนำรุกป่าต้นน้ำฝั่งซ้ายห้วยศาลา อ.ภูสิงห์ 3,400 ไร่ เผยถูกจับกุมดำเนินคดีอยู่ในชั้นศาล ขณะพระป่านักอนุรักษ์เสนอขอหน่วยทหารเข้าประจำในเขตป่าฝั่งซ้ายห้วยศาลาป้องกันนายทุนอิทธิพลเหิมบุกรุกเพิ่ม ขณะที่ อ.ขุนหาญ นายทุนเตรียมระดมชาวบ้านบุกยึดป่าภูพะยอม เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรัก อ้างจะเข้าไปยึดครองที่ดินทำกินเดิม จนท.ต้องระดมกำลังตั้งด่านสกัดเข้ม

วันนี้ (29 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี พระสถิต มหาเตโช เจ้าสำนักสงฆ์เขื่อนบ้านศาลา ต.โคกตาล อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ได้นำหลักฐานภาพถ่ายกลุ่มนายทุนผู้มีอิทธิพล ผู้นำชุมชน และคนมีสี บุกรุกตัดไม้ทำลายป่าฝั่งซ้ายห้วยศาลา ต.โคกตาล ซึ่งเป็นป่าถาวรตามมติคณะรัฐมนตรี เพื่อยึดครองปลูกพืชเศรษฐกิจและก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างกว่า 3,400 ไร่ เข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชนเพื่อให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามกฎหมายต่อผู้บุกรุกป่าอย่างเด็ดขาด จนถูกกลุ่มนายทุนอิทธิพลดังกล่าวบุกข่มขู่เอาชีวิตถึงสำนักสงฆ์ เจ้าหน้าที่ต้องจัดกำลังคอยรักษาความสงบเรียบร้อยอยู่ตลอดเวลา ตามที่เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องนั้น

ล่าสุดวันนี้ เมื่อเวลา 11.30 น. ที่สำนักสงฆ์เขื่อนบ้านศาลา ต.โคกตาล อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ พระสถิต มหาเตโช เจ้าสำนักสงฆ์เขื่อนบ้านห้วยศาลา กล่าวว่า จากการที่กลุ่มนายทุนผู้มีอิทธิพลยกพวกกว่า 10 คนเข้ามาข่มขู่ทางวัดและทีมข่าวสถานีโทรทัศน์จากกรุงเทพฯ นั้น จากการสังเกตพบว่าพวกที่มาข่มขู่ทุกคนมีอาการเมาสุรา และตะโกนด่าว่าพระอย่างสาดเสียเทเสีย ซึ่งหลวงพ่อไม่ได้ถือโกรธแค้นอาฆาตมาดร้ายกลุ่มนายทุนที่เข้ามาต่อว่าแต่อย่างใด เนื่องจากเห็นว่ากลุ่มนายทุนอิทธิพลเป็นพวกที่ไม่เคารพกฎหมาย และไม่ได้เคารพในชาติ ศาสนา จึงกล้าที่จะบุกรุกป่า เพื่อนำเอาป่าไม้ ซึ่งเป็นป่าต้นน้ำสำคัญของ จ.ศรีสะเกษไปยึดครองมาเป็นของส่วนตัว กลุ่มนายทุนพวกนี้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและผู้รับผิดชอบรับผิดชอบ จะต้องเร่งดำเนินการผลักดันออกไปจากป่า และยึดเอาป่าฝั่งซ้ายห้วยศาลากลับมาเป็นของแผ่นดินโดยด่วนที่สุด

พระสถิตกล่าวต่อว่า การที่กลุ่มนายทุนอิทธิพลได้เข้ามารุกป่าอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมายนี้ เนื่องจากมีทั้งพ่อค้า ผู้นำหมู่บ้าน และอดีตตำรวจที่ถูกไล่ออกจากราชการ รวมทั้งคหบดีที่เป็นนายทุนใหญ่ในเขต อ.ขุขันธ์ และจากจังหวัดทางภาคตะวันออก เข้ามาเป็นนายทุนให้กับกลุ่มนายทุนย่อยในพื้นที่เพื่อให้เข้ามาบุกรุกป่าแห่งนี้

ดังนั้น หลวงพ่อจึงได้นำเสนอไปยังส่วนราชการที่เกี่ยวข้องว่า ขอให้ประสานงานไปยังกองทัพบกเพื่อขอกำลังทหารให้เข้ามาประจำในเขตบริเวณป่าฝั่งซ้ายห้วยศาลา เป็นการป้องกันไม่ให้กลุ่มนายทุนเข้าไปบุกรุกป่าเพิ่มมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ซึ่งได้นำเสนอเรื่องนี้ผ่านทางนายอำเภอภูสิงห์ไปแล้ว เพื่อขอให้ช่วยประสานงานไปยังกองทัพบกโดยด่วนต่อไป ขณะเดียวกัน ก็ได้มีชาวบ้านนักอนุรักษ์ป่าได้พากันเข้ามาร่วมต่อสู้เพื่อต่อต้านกับนายทุนให้ออกไปจากพื้นที่ป่าฝั่งซ้ายห้วยศาลามากยิ่งขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย

เวลา 12.10 น. วันเดียวกันนี้ (29 พ.ย.) ที่ห้องประชุมศรีพฤทเธศวร ชั้น 5 ศาลากลาง จ.ศรีสะเกษ นายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้เรียกประชุมหัวหน้าส่วนราชการทุกส่วนใน จ.ศรีสะเกษ เพื่อหารือข้อปฏิบัติราชการ และได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า กรณีการบุกรุกป่าเขาแดง รวมทั้งรอบบริเวณป่าฝั่งซ้ายห้วยศาลา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมา เพื่อเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนแล้ว

ทั้งนี้ จากการที่มีการจับกุมดำเนินคดีอย่างต่อเนื่อง ปรากฏว่ามีการจับกุมผู้บุกรุกป่าไปแล้ว จำนวน 39 คดี จับกุมผู้ต้องหาได้ 29 คน และหลังจากที่มีการนำเสนอข่าวทางสื่อมวลชน ทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้ทำการจับกุมเพิ่มขึ้นได้อีกจำนวน 12 คดี ยึดป่าคืนมาแล้วจำนวน 167 ไร่ แต่ว่าไม่มีผู้ต้องหา เนื่องจากว่าได้หลบหนีไปก่อน

นายประทีปกล่าวต่อว่า เรื่องนี้หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ศก.4 ได้เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการ จึงขอให้ส่วนราชการทุกส่วนที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาร่วมประสานงานกันได้โดยตรงเพื่อความคล่องตัวในการปฏิบัติงาน นอกจากนี้ตนยังได้สั่งการให้นายอำเภอภูสิงห์สั่งพักการปฏิบัติงานของผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่งที่เป็นแกนนำของชาวบ้านในการบุกรุกป่าฝั่งซ้ายห้วยศาลา และได้กระทำผิดทางกฎหมายเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งได้ถูกจับกุมดำเนินคดีแล้ว อยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาล จ.ศรีสะเกษ

ล่าสุดได้รับรายงานจากนายอำเภอภูสิงห์ว่า ได้มีการสั่งพักการปฏิบัติงานของผู้ใหญ่บ้านแกนนำบุกรุกป่าไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ย. 2555 ที่ผ่านมา ซึ่ง หลังจากศาลมีคำพิพากษาออกมาแล้วจะได้ดำเนินการบังคับคดีตามกฎหมายอย่างเต็มที่ต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะเดียวกันที่ฐานปฏิบัติการชั่วคราวป่าซำตีกา เขตท้องที่ ต.ห้วยจันทน์ อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และ ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ศรีสะเกษ จำนวนประมาณ 50 นาย ได้ตั้งด่านตรวจเข้มเพื่อเป็นการสกัดกั้น ไม่ให้กลุ่มชาวบ้านพากันไปสร้างที่พักอาศัย และยึดครองป่าที่บริเวณภูพะยอม เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรัก ต.ห้วยจันทน์ อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ เนื่องจากมีนายทุนอิทธิพลสั่งการให้แกนนำชาวบ้านชื่อนายตุ่น และนายเม้า ชาวบ้าน ต.ห้วยจันทน์ และ ต.กันทรอม อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ กำลังระดมชาวบ้าน เพื่อที่จะพากันไปทำการยึดครองป่าที่บริเวณภูพะยอม เนื่องจากชาวบ้านอ้างว่าบริเวณป่าภูพะยอม เป็นพื้นที่ที่เคยเข้าไปทำกิน และถูกผลักดันออกมา จึงจะพากันไปสร้างที่พักอาศัยและยึดครองป่าเพื่อปลูกพืชเศรษฐกิจ หวังแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดิน จะได้ยึดครองพื้นที่ป่าภูพะยอมเข้ามาเป็นของกลุ่มนายทุนและเป็นของตนเอง ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้สั่งการให้ทุกส่วนราชการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ได้ไปทำความเข้าใจกับชาวบ้าน เพื่อไม่ให้กระทำผิดกฎหมายบุกรุกเข้าไปยึดป่าภูพะยอมอย่างเร่งด่วนแล้ว

อ่านข่าวก่อนหน้านี้ :

1.แก๊งฮุบป่า “ห้วยศาลา” ศรีสะเกษแค้นหนัก บุกสำนักสงฆ์ล้อมพระ-นักข่าว
2.แก๊งนายทุนฮุบ “ป่าห้วยศาลา” ศรีสะเกษ-เหิมยกพวกขู่ฆ่าพระนักอนุรักษ์
3.ผอ.สำนักฯ 8 นำคณะลุยตรวจป่าศรีสะเกษถูกนายทุนรุก-ยึดคืนผืนป่าทันที 117 ไร่ พร้อมแจ้งความดำเนินคดี
4.พระนักสู้ประกาศยอมตายคาผ้าเหลืองเพื่อรักษาผืนป่าต้นน้ำเขาแดง จ.ศรีสะเกษที่นายทุนบุกรุก
5.บุกตรวจกลุ่มอิทธิพลฮุบป่า “ห้วยศาลา” 3,400 ไร่-พบโค่นต้นไม้เผายับบริเวณกว้าง
6.“พระป่า” ศรีสะเกษสุดทน ร้อง “นายทุน-คนมีสี” เหิมบุกเผาฮุบป่าต้นน้ำ 3,400 ไร่
พระสถิต  มหาเตโช  เจ้าสำนักสงฆ์เขื่อนบ้านห้วยศาลา



สภาพป่าฝั่งซ้ายห้วยศาลา ต.โคกตาล อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ต้นไม้ถูกตัดโค่นเผาทำลายเป็นบริเวณกว้าง


กำลังโหลดความคิดเห็น