แก๊งฮุบป่า “ห้วยศาลา” ศรีสะเกษแค้นหนัก บุกสำนักสงฆ์ล้อมพระ-นักข่าว

ศรีสะเกษ - กลุ่มนายทุนอิทธิพลรุกป่าฝั่งซ้ายห้วยศาลา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ 3,400 ไร่ แค้นพระนักอนุรักษ์ต้านการฮุบป่า ยกพวกกว่า 15 คนบุกสำนักสงฆ์ ล้อมกรอบพระและทีมนักข่าวไม่ให้บันทึกภาพทำข่าวบุกรุกป่า ขณะ จนท.ฝ่ายความมั่นคง-ป่าไม้ และ อส.ต้องคุมเข้มหวั่นเกิดเหตุบานปลาย ด้านผู้ว่าฯ ศรีสะเกษดิ้นแจงดำเนินคดีต่อผู้บุกรุกแล้ว 66 ราย ศาลตัดสิน 22 คดี ขณะ จนท.ป่าไม้มือปราบไม้พะยูงผลงานดีเด่นมึน ถูกสั่งย้ายจากชายแดน อ.ขุนหาญไปโคราช เชื่อเบื้องหลังถูกแก๊งตัดไม้กำจัดพ้นพื้นที่

วันนี้ (28 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี พระสถิต มหาเตโช เจ้าสำนักสงฆ์เขื่อนบ้านศาลา ต.โคกตาล อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ได้นำหลักฐานภาพถ่ายกลุ่มนายทุน ผู้มีอิทธิพล ผู้นำชุมชน และคนมีสีบุกรุกตัดไม้ทำลายป่าฝั่งซ้ายห้วยศาลา ต.โคกตาล ซึ่งเป็นป่าถาวรตามมติคณะรัฐมนตรีกว่า 3,400 ไร่ เพื่อยึดครองปลูกพืชเศรษฐกิจและก่อสร้างสิ่งปลูกสร้าง เข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชนเพื่อให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามกฎหมายต่อผู้บุกรุกป่าอย่างเด็ดขาด จนถูกกลุ่มนายทุนอิทธิพลดังกล่าวบุกข่มขู่เอาชีวิตตามที่เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องนั้น

ล่าสุดวันนี้ เมื่อเวลา 16.45 น.ที่สำนักสงฆ์เขื่อนบ้านศาลา ต.โคกตาล อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ พระสถิต มหาเตโช เจ้าสำนักสงฆ์เขื่อนห้วยศาลา เปิดเผยว่า ช่วงบ่ายวันนี้ (28 พ.ย.) ได้มีทีมข่าวสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งจากกรุงเทพฯ พากันมาทำข่าวเกี่ยวกับการต่อต้านการบุกรุกป่าฝั่งซ้ายห้วยศาลา และขณะที่ทีมข่าวกำลังสัมภาษณ์อาตมภาพอยู่นั้น ปรากฏว่าได้มีกลุ่มนายทุนอิทธิพลที่บุกรุกป่าฝั่งซ้ายห้วยศาลาและป่าเขาแดง นำโดยผู้นำหมู่บ้าน พ่อค้า และอดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งที่ถูกไล่ออกจากราชการแล้ว พากันขับรถยนต์ปิกอัพจำนวน 4 คันบรรทุกพวกมาเต็มคันรถรวมประมาณกว่า 15 คน ได้พากันมาต่อว่าอาตมภาพที่ได้ไปร้องเรียนเกี่ยวกับการบุกรุกป่าฝั่งซ้ายห้วยศาลา โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงจาก อ.ภูสิงห์ พร้อมด้วยกำลัง อส. อ.ภูสิงห์ และเจ้าหน้าที่ป่าไม้จำนวนหนึ่งมาคอยดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย

จากนั้นทีมนักข่าวจะไปทำการบันทึกภาพบริเวณที่มีการบุกรุกป่า แต่กลุ่มนายทุนอิทธิพลได้พากันยกพวกมาล้อมกรอบทีมนักข่าว และอาตมภาพไม่ให้นำทีมนักข่าวเข้าไปบันทึกภาพ โดยแสดงการข่มขู่และไม่ยอมให้บันทึกภาพทำข่าว แต่ทีมข่าวได้รีบบันทึกภาพ จากนั้นได้ออกจากบริเวณที่เกิดเหตุไปทำข่าวบริเวณใกล้เคียงต่อไป โดยที่กลุ่มนายทุนอิทธิพลไม่กล้าใช้ความรุนแรง เนื่องจากเห็นว่ามีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงและเจ้าหน้าที่ป่าไม้จำนวนหนึ่งคอยรักษาความสงบเรียบร้อยอยู่

ทางด้าน นายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ตนได้สั่งการนายอำเภอภูสิงห์ไปนานหลายเดือนแล้วเพื่อให้ดำเนินการตามระเบียบวินัยต่อผู้นำหมู่บ้านคนหนึ่งที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการบุกรุกป่าฝั่งซ้ายห้วยศาลาและถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้จับกุมได้ ขณะนี้คดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาล จ.ศรีสะเกษ ซึ่งทาง อ.ภูสิงห์ กำลังดำเนินการสอบสวนทางวินัยต่อผู้นำหมู่บ้านคนดังกล่าวอยู่ เบื้องต้นขณะนี้มีการจับกุมผู้บุกรุกป่าเขาแดงไปแล้ว 66 ราย และศาลได้ตัดสินคดีไปแล้ว 22 คดี ซึ่งอยู่ในช่วงของการบังคับคดีต่อไป

ส่วนมาตรการในการดำเนินการเกี่ยวกับการบุกรุกป่าฝั่งซ้ายห้วยศาลาและป่าเขาแดง นั้น ตนจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด โดยต้องประสานงานกับกรมป่าไม้ เนื่องจากว่าบริเวณที่เกิดเหตุอยู่ในความรับผิดชอบของกรมป่าไม้ ซึ่งตนพร้อมให้ความร่วมมือสนับสนุนในการดำเนินการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้อย่างเต็มที่

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะเดียวกัน กรมป่าไม้ได้มีคำสั่งที่ 4790/2555 ลงวันที่ 21 พ.ย. 2555 เรื่อง มอบหมายให้พนักงานราชการปฏิบัติหน้าที่ราชการ ลงนามโดย นายสมหวัง เรืองนิวัติศัย ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 8 จ.นครราชสีมา ได้สั่งย้าย นายสมชาย ปานประชาติ ตำแหน่งพนักงานราชการ ประจำหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ศก 1 อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ให้ไปประจำที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นม 4 (เขาภูหลวง) จ.นครราชสีมา โดยที่ไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งเรื่องนี้ได้ทำให้บรรดาเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษพากันเสียขวัญกำลังใจและพากันวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้อย่างกว้างขวาง เนื่องจากทุกคนทราบดีว่า นายสมชายเป็นมือปราบไม้พะยูงฝีมือดีของ จ.ศรีสะเกษ

โดยเมื่อปี 2553 นายสมชายได้รับเลือกเป็นผู้ช่วยเหลือกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช และในปี2554 ได้รับเลือกเป็นพนักงานราชการดีเด่นของกรมป่าไม้ และได้ร่วมแถลงข่าวกับ นายสุวิทย์ คุณกิติ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในขณะนั้น ในรายการทำดีเพื่อแผ่นดินที่กรมป่าไม้ โดยในปี 2555 ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 และเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษ จ.ศรีสะเกษ กวาดล้างไม้พะยูงในเขตรับผิดชอบ ซึ่งสถิติการจับกุมสามารถจับได้ทั้งหมด 98 คดี ไม้พะยูงจำนวน 5341 ท่อน รถของกลาง จำนวน 54 คัน แต่นายสมชายกลับถูกย้ายออกนอกพื้นที่ ซึ่งคาดว่าเกิดจากการที่กลุ่มนายทุนอิทธิพลแก๊งลักลอบตัดไม้พะยูงต้องการกำจัดนายสมชายให้ออกไปอยู่ที่อื่นเพื่อไม่ให้ขัดขวางเส้นทางการลักลอบขนไม้พะยูงในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ

อ่านข่าวก่อนหน้านี้ :

1.แก๊งนายทุนฮุบ “ป่าห้วยศาลา” ศรีสะเกษ-เหิมยกพวกขู่ฆ่าพระนักอนุรักษ์
2.ผอ.สำนักฯ 8 นำคณะลุยตรวจป่าศรีสะเกษถูกนายทุนรุก-ยึดคืนผืนป่าทันที 117 ไร่ พร้อมแจ้งความดำเนินคดี
3.พระนักสู้ประกาศยอมตายคาผ้าเหลืองเพื่อรักษาผืนป่าต้นน้ำเขาแดง จ.ศรีสะเกษที่นายทุนบุกรุก
4.บุกตรวจกลุ่มอิทธิพลฮุบป่า “ห้วยศาลา” 3,400 ไร่-พบโค่นต้นไม้เผายับบริเวณกว้าง
5.“พระป่า” ศรีสะเกษสุดทน ร้อง “นายทุน-คนมีสี” เหิมบุกเผาฮุบป่าต้นน้ำ 3,400 ไร่