ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 8 โคราช นำคณะบุกสำรวจผืนป่าเขาแดงที่ถูกกลุ่มนายทุนบุกรุก พบมีการตัดไม้ทำลายป่า และปลูกพืชอื่นทดแทนชัด พร้อมตรวจยึดคืนผืนป่า 6 แปลง รวม 117 ไร่ ประสานตำรวจควานหาตัวนายทุนตัวการใหญ่บุกรุกผืนป่ามาดำเนินคดีตามกฎหมาย ชี้ป่าคือสมบัติของชาติ และของส่วนรวม
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ศรีสะเกษว่า เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (26 พ.ย.) นายสมหวัง เรืองนิวัติศัย ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 8 จ.นครราชสีมา และคณะ ได้เดินทางโดยรถยนต์ขึ้นไปบริเวณป่าเขาแดง ต.โคกตาล อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ จากนั้นได้เดินสำรวจรอบบริเวณป่าเขาแดงที่ถูกร้องเรียนว่ามีนายทุนเข้าไปบุกรุกตัดไม้ทำลายป่าต้นน้ำ โดยมีนายยอด ใจมนต์ เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนตำบลโคกตาล และชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ป่าฝั่งซ้ายห้วยศาลา นำคณะเดินไปตรวจสอบจุดที่ถูกบุกรุกหนัก ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ป่าไม้ และกำลังทหารมาคอยดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยให้ตลอดช่วงการเดินสำรวจ
จากนั้น คณะของนายสมหวัง เดินทางไปที่สำนักสงฆ์เขื่อนบ้านศาลา ต.โคกตาล อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อกราบนมัสการพระสถิต มหาเตโช และขอรับทราบรายละเอียดข้อมูลในการบุกรุกป่าในครั้งนี้
นายสมหวัง เรืองนิวัติศัย ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 8 จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบป่าเขาแดงพบว่า ป่าส่วนหนึ่งเป็นผืนป่าตามมติคณะรัฐมนตรี ปี 2548 และบางส่วนเป็นป่าเฉลิมพระเกียรติที่ปลูกเมื่อปี 2550 ซึ่งต้นไม้ที่ปลูกไว้ถูกตัดทิ้งทั้งหมด และมีการบุกรุกเข้าไปทำสวนยางพารา และทำการเกษตรอื่นๆ จำนวนมาก
ทั้งนี้ ยังพบมีบางส่วนที่ถูกแผ้วถางจนโล่งเตียน เจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจยึดเพื่อดำเนินคดี โดยจะส่งพนักงานสอบสวน สภ.ภูสิงห์ เพื่อหาตัวผู้กระทำผิดต่อไป โดยวันนี้ สามารถทำการตรวจยึดที่ดินได้จำนวน 6 แปลง เนื้อที่ประมาณ 117 ไร่ จากนี้เจ้าหน้าที่จะดำเนินการตรวจยึดอย่างต่อเนื่องจนครบทั้งพื้นที่ สำหรับผู้ที่เข้าไปบุกรุกนั้น เมื่อศาลตัดสินแล้วจะมีการบังคับคดียึดที่ดินคืนต่อไปโดยจะรอคำสั่งศาลก่อน ยอมรับว่ารู้สึกหนักใจเพราะมีการบุกรุกป่ามานานหลายปีแล้ว ซึ่งทาง จ.ศรีสะเกษ ได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดำเนินการ และกำลังจะดำเนินการประชุมเพื่อหามาตรการที่ชัดเจนในการดำเนินการต่อไป
“ยอมรับว่าผืนป่าเขาแดงมีการบุกรุกจริง คาดว่าไม่ต่ำกว่าพันไร่ เหลือเพียงไม่กี่ร้อยไร่เท่านั้นที่ยังไม่ถูกบุกรุก สำหรับการหาตัวผู้บุกรุกนั้นได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทำการสืบสวนแล้วซึ่งจะได้ส่งรายชื่อให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษดำเนินการต่อไป ขอฝากถึงผู้ที่บุกรุก และเตรียมที่จะบุกรุกป่าฝั่งซ้ายห้วยศาลาด้วยว่า ป่าไม้ และป่าสงวนแห่งชาตินับวันมีแต่จะน้อยลงไปขอให้ผู้ที่คิดเข้ามาบุกรุกถอนตัวออกไป เพราะป่าเป็นสมบัติของชาติไทยของส่วนรวม จากนี้ไปจะให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้เข้ามาดูแลรักษาป่าอย่างเข้มงวด เพื่อไม่ให้มีการบุกรุกเข้ามาตัดไม้ทำลายป่าอีกต่อไป และจะมีการประชุมหารือเรื่องนี้กับผู้ว่าฯ ศรีสะเกษในเร็วๆ นี้” นายสมหวังกล่าว
ด้านพระสถิต มหาเตโช เจ้าสำนักสงฆ์เขื่อนบ้านศาลาพระนักอนุรักษ์ กล่าวว่า การที่อาตมา และชาวบ้านออกมาเคลื่อนไหวปกป้องผืนป่าแห่งนี้ ป่าฝั่งซ้ายห้วยศาลาซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของ จ.ศรีสะเกษ อยู่ติดกับแนวชายแดนไทย-กัมพูชา และเป็นแหล่งที่มีไม้พะยูง และไม้มีค่า รวมทั้งสมุนไพร และสัตว์ป่าหายากหลายชนิดนั้น เป็นผืนป่าที่มีธรรมชาติสวยงามควรค่าแก่การรักษาไว้ให้ลูกหลานสืบไป และอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเอาผิดกับนายทุน และผู้นำหมู่บ้านที่เข้าไปเผาป่า และตัดไม้หวงห้ามด้วย เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่ผู้อื่นอีก
อ่านข่าวก่อนหน้านี้ :
1.พระนักสู้ประกาศยอมตายคาผ้าเหลืองเพื่อรักษาผืนป่าต้นน้ำเขาแดง จ.ศรีสะเกษที่นายทุนบุกรุก
2.บุกตรวจกลุ่มอิทธิพลฮุบป่า “ห้วยศาลา” 3,400 ไร่-พบโค่นต้นไม้เผายับบริเวณกว้าง
3.“พระป่า” ศรีสะเกษสุดทน ร้อง “นายทุน-คนมีสี” เหิมบุกเผาฮุบป่าต้นน้ำ 3,400 ไร่