xs
xsm
sm
md
lg

พระนักสู้ประกาศยอมตายคาผ้าเหลืองเพื่อรักษาผืนป่าต้นน้ำเขาแดง จ.ศรีสะเกษที่นายทุนบุกรุก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - พระวัดป่าพร้อมชาวบ้าน อ.ภูสิง จ.ศรีสะเกษ นำสื่อลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพป่าชุมชุนเขาแดง ที่ถูกกลุ่มนายทุนเข้าไปบุกรุกกว่า 3,400 ไร่ พบตัดต้นไม้ทิ้ง สร้างที่พัก และปลูกพืชอื่นทดแทน พระนักสู้ประกาศไม่ยอมถอยขอตายคาผ้าเหลืองเพื่อรักษาผืนป่าต้นน้ำเอาไว้ วอนรัฐเข้าไปแก้ไขปัญหาด่วน ด้าน นอภ.ภูสิงห์ สั่งตั้งกรรมการสอบผู้นำหมู่บ้าน แกนนำรุกป่าไม่ให้ไปข่มขู่ชาวบ้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ศรีสะเกษว่า เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (25 พ.ย.) พระสถิต มหาเตโช เจ้าสำนักสงฆ์เขื่อนบ้านศาลา พร้อมนายยอด ใจมนต์ เลขานุการ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโคกตาล อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ และชาวบ้านได้นำคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพพื้นที่ป่าชุมชนเขาแดง ต.โคกตาล อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ป่าฝั่งซ้ายห้วยศาลา ซึ่งเป็นป่าถาวรตามมติคณะรัฐมนตรี และมีพื้นที่ติดกับสำนักสงฆ์เขื่อนบ้านศาลา ที่ถูกนายทุนเข้าไปตัดต้นไม้บุกรุกพื้นที่ป่าฝั่งซ้ายห้วยศาลาซึ่งเป็นป่าต้นน้ำ โดยป่าที่ถูกบุกรุกมีเนื้อที่กว่า 3,400 ไร่ แยกเป็น 3 แห่ง คือ แปลงที่ 1 บริเวณป่าชุมชนบ้านคลองคำโคกแต้ จำนวน 2,500 ไร่ แปลงที่ 2 บริเวณป่าชุมชนบ้านเขาแดง จำนวน 700 ไร่ และแปลงที่ 3 บริเวณป่าชุมชนบ้านเรือทอง จำนวน 200 ไร่ จากการเดินตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า มีการบุกรุกตัดต้นไม้ไปเป็นจำนวนมาก และปลูกต้นกล้วย ต้นปาล์ม ต้นยางพารา และที่พักอาศัยขึ้นมาทดแทน

พระสถิต มหาเตโช เจ้าสำนักสงฆ์เขื่อนบ้านศาลา กล่าวว่า ได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังส่วนราชการต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ลงมาตรวจสอบสภาพป่าที่ถูกบุกรุกไปแล้ว พร้อมกับยอมรับว่า มีการบุกรุกป่าฝั่งซ้ายห้วยศาลาจริง และส่งเจ้าหน้าที่มาเฝ้าผืนป่า แต่เมื่อเจ้าหน้าที่กลับออกไปแล้ว กลุ่มนายทุนก็ให้ชาวบ้านเข้าไปบุกรุกป่าตัดต้นไม้เผาป่าอีก ไม่มีการดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม และมีคนมาข่มขู่ให้อาตมาออกไปจากป่าไม่ให้รักษาป่าต้นน้ำแห่งนี้ แต่อาตมายืนยันจะอยู่ต่อสู้ต่อไปแม้จะตายคาผ้าเหลืองก็ตาม และอยากขอวิงวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยลงมาดูแลพื้นที่ปาชุมชนแห่งนี้ด้วย เพื่อให้กลับคืนสู่สภาพเดิม และหามาตรการให้ป่าชุมชนแห่งนี้เป็นพื้นที่ป่าไม้ถาวรที่ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป

ด้านนายยอด ใจมนต์ เลขานุการ นายก อบต.โคกตาล กล่าวว่า พื้นที่ป่าชุมชนฝั่งซ้ายห้วยศาลา มีนายทุนเข้ามาบุกรุกเป็นเวลานานหลายปีแล้ว และเริ่มรุนแรงในช่วงปี 2549 ซึ่งทาง อบต. เคยแจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ลงมาตรวจสอบแล้ว ตอนแรกมีเจ้าหน้าที่สนใจมาดูแลพื้นที่ดี แต่ช่วงหลังก็ปล่อยปละละเลยเหมือนเดิม ทำให้นายทุนกลับเข้ามาบุกรุกพื้นที่ป่าอีกครั้ง โดยปลูกต้นกล้วย ต้นปาล์ม และพืชชนิดอื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นไม้โตเร็ว เพื่อเป็นการแสดงสิทธิในการครอบครองที่ดิน

“วันนี้อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลป่าแห่งนี้อย่างจริงจัง แต่ต้องยอมรับว่า ขณะนี้ชาวบ้านเองยังมีจิตสำนึกในการดูแลรักษาผืนป่าของตัวเองไว้ แต่เจ้าหน้าที่รัฐเองควรต้องมีจิตสำนึกมากกว่าชาวบ้าน เพราะมีอำนาจหน้าที่มากกว่า และที่สำคัญ ปัญหาใหญ่คือ ิผู้นำหมู่บ้านบางคนยังเป็นแกนนำชาวบ้านรับเงินจากนายทุนผู้มีอิทธิพลเข้าไปบุกรุกป่าเสียเอง แม้ว่าจะโดนจับกุมแล้ว แต่ก็ยังใช้อำนาจไปข่มขู่ชาวบ้านที่อนุรักษ์ป่าให้เกิดความหวาดกลัว และให้หยุดต่อต้านการบุกรุกป่า เป็นเรื่องที่น่าเศร้า จึงอยากขอวิงวอนให้ผู้มีอำนาจใน อ.ภูสิงห์ได้เข้ามาแก้ไขปัญหานี้ด่วนด้วย” นายยอดกล่าว

ขณะที่นายนพ พงศ์ผลาดิสัย นายอำเภอภูสิงห์ กล่าวว่า กรณีที่มีผู้นำหมู่บ้านคนหนึ่งถูกจับกุมเพราะว่าเข้าไปบุกรุกป่าฝั่งซ้ายห้วยศาลานั้น ขณะนี้ตนได้สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว โดยได้นำเอาคำฟ้องของพนักงานสอบสวนมาประการการสอบสวนด้วย ซึ่งจะได้ทำการสอบสวนว่า เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการบุกรุกป่าเขาแดงอย่างไร และทราบว่าศาลได้ทำการสืบพยานเสร็จเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะมีการพิพากษาเรื่องนี้ในเร็วๆ นี้

ส่วนเรื่องข่มขู่พยานนั้น ได้เรียกผู้นำหมู่บ้านคนดังกล่าวมาสอบถาม และกำชับให้ยุติพฤติกรรมดังกล่าวแล้ว ต้องยอมรับว่าเรื่องนี้รู้สึกหนักใจพอสมควร เพราะเป็นเรื่องที่ยืดเยื้อมานาน ซึ่งข้อมูลต่างๆ จะต้องดูที่กรมป่าไม้ซึ่งเป็นหน่วยงานรับผิดชอบว่ามีขั้นตอนในการดำเนินการต่อไปอย่างไร ตนพร้อมที่จะให้การสนับสนุนการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่

อ่านข่าวก่อนหน้านี้ :

1.บุกตรวจกลุ่มอิทธิพลฮุบป่า “ห้วยศาลา” 3,400 ไร่-พบโค่นต้นไม้เผายับบริเวณกว้าง
2.“พระป่า” ศรีสะเกษสุดทน ร้อง “นายทุน-คนมีสี” เหิมบุกเผาฮุบป่าต้นน้ำ 3,400 ไร่







กำลังโหลดความคิดเห็น