xs
xsm
sm
md
lg

ด้วยความห่วงใยและระลึกถึง

เผยแพร่:   โดย: พระบาท นามเมือง

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ข่าวเกี่ยวกับบวรพระพุทธศาสนา ก็มีเหตุกระทบใจหรือสะเทือนศรัทธาของพุทธศาสนิกชน

ทั้งข่าวเรื่องของพระฉาว และอดีตพระผู้ปฏิบัติดีงาม

เรื่องของพระฉาวราวกับข้าวจำนำในโกดัง คงไม่เป็นเรื่องน่าเสียดายหรือน่าสะเทือนใจอะไร เพราะจากข้อเท็จจริงและสิ่งที่ปรากฏเป็นข่าวกันมา เชื่อว่าผู้นั้นคงหากินในทางนี้อีกไม่ได้แล้ว บรรดาทรัพย์สินก็คงถูกตรวจสอบ อะไรที่ควรจะเป็น ก็ควรจะเป็นต่อไป เช่น ที่ดินที่ชาวบ้านบริจาคเพื่อให้สร้างเป็นวัด ดันผ่าเอาไปจดทะเบียนเป็นบริษัท มันก็คงต้องคืนแก่เจ้าของเขาไป หรือนายทุนใหญ่ที่เคยนอบน้อมสักการะ ก็เริ่มออกตัวหนีหาย ส่วนเจ้าตัวก็เห็นท่าว่าจะกลับเมืองไทยไม่ได้อีกสักพัก หรือจะต้องไปร่อนเร่เป็นสัมภเวสีมีเจ็ทหรือเปล่าก็ไม่รู้

โครงการยักษ์โครงการใหญ่ วัดสาขาทั้งหลายก็คงถูกทิ้งร้าง เช่นนี้จึงบอกว่า ไม่ต้องทำอะไร ความเสื่อมได้มาเยือนเขาแล้ว บาปกรรมที่แม้แต่นั่งเครื่องเจ็ทส่วนตัวก็หนีไม่พ้น ได้ทำหน้าที่ของมันแล้ว

ส่วนที่น่าเสียดายก็ได้แก่ พระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบรูปหนึ่ง คือ หลวงพ่อมิตซูโอะ คเวสโก ซึ่งได้ลาสิกขาไปตั้งแต่ต้นเดือน ซึ่งในคราวนั้น ทางวัดผู้เกี่ยวข้องได้ให้ข่าวว่า ที่ต้องลาสิกขา เพราะท่านมีปัญหาด้านสุขภาพ และอยากกลับไปใช้ชีวิตบั้นปลายที่ประเทศญี่ปุ่นแผ่นดินแม่ และจะขอปฏิบัติหน้าที่ในการเผยแพร่ธรรมะตามแนวพุทธเถรวาทอยู่ทางนั้น ท่ามกลางความงุนงงสงสัยของชาวพุทธทั้งหลายที่นับถือท่าน เพราะไม่มีใครคาดคิดมาก่อน หรือไม่มีสัญญาณบอกเหตุ หลายที่ยังมีตารางรับนิมนต์ของท่านอยู่เลย

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี้เอง ปริศนาทั้งหมดก็คลี่ตัวออกมากระจ่างแจ้ง เมื่อมีภาพที่เผยแพร่ออกมาจากฝ่ายของนักธุรกิจหญิงเจ้าของกิจการคลินิกความงามและชะลอความชรา ว่าได้ใช้ชีวิตร่วมกับอดีตพระมิตซูโอะ

และคำยืนยันทั้งที่เป็นลายลักษณ์อักษรจากปากของท่านเองผ่านวิดีโอคลิปในวันต่อมา ว่าทั้งหมดเป็นเรื่องจริง เป็นเจตนาของท่านเอง ซึ่งบวชมาไม่คิดจะสึกมาถึง 37 พรรษา แต่ทว่า ได้เจอคู่ชีวิต คู่บารมีกันมาแต่ชาติปางก่อน

แม้ชาวพุทธผู้นับถือหรือลูกศิษย์ลูกหาของท่านบ้างที่เข้าใจอนิจจังของโลก จะทำใจได้บ้างแล้วก็ตาม และหลายคนก็อาจจะเดาได้ว่าเป็นเรื่องนี้ เพราะกามตัณหาเช่นนี้ เป็นสิ่งที่ละได้ยากที่สุดแล้ว ดังที่พระไตรปิฎกก็บัญญัติไว้ว่า “ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี และไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษอีกแล้ว”

การที่ท่านสึกหาลาเพศไปเช่นนี้ ย่อมดีกว่าการประพฤติผิดในผ้าเหลือง ซึ่งจะทำให้คุณงามความดีทั้งหลายสลายสูญไปในพริบตา ดังนั้นเมื่อท่านลา เพราะตระหนักแก่สภาวะจิตที่สู้ต่อไปไม่ไหว จึงเป็นเรื่องที่ควรโมทนา

แต่บรรดาผู้ได้รู้จักเคยอ่านหนังสือ หรือเคยปฏิบัติธรรมกับอดีตหลวงพ่อมิตซูโอะ ต่างก็รู้สึกเสียดายว่า แม้ต่อไปภายหน้า ท่านมิตซูโอะจะประพฤติดี ปฏิบัติดีเพียงไรก็ตาม แต่ในสถานะของฆราวาสผู้ครองเรือนนั้น ก็เป็นการตัดเสียซึ่งโอกาสอันจะบรรลุธรรมชั้นสูงได้สำหรับตัวท่านเอง และยังสิ้นสภาพการเป็นนาบุญอันดีไปอีกผืนแล้วสำหรับผู้อื่น

หลายคนที่เคยได้อ่านธรรมะของหลวงพ่อมิตซูโอะ ต่างรู้สึกว่าท่านใช้ภาษาที่เรียบง่ายเพื่ออรรถาธิบายธรรมะ อันเป็นธรรมะที่คนทั่วไปก็ใช้ได้ในชีวิตประจำวัน การเจริญสติในชีวิตประจำวัน ซึ่งหนังสือธรรมะของท่านได้รับความนิยมในหมู่คนรุ่นใหม่และคนหนุ่มสาว

ไม่เพียงแค่การบำเพ็ญปัญญาด้วยการเขียนหนังสือ แต่วัตรปฏิบัติของท่านก็ได้รับการยอมรับ หลายคนอาจจะเคยไปฝึกเนสัชชิก หรือการฝึกปฏิบัติธรรมโดยละอิริยาบถนอน อาศัยให้สติตั้งมั่น ตระหนักรู้กับทุกขเวทนา หรือตัวท่านเองก็เป็นพระที่เน้นปฏิบัติมาก่อน เป็นศิษย์รุ่นแรกของหลวงพ่อชา

บางท่านอาจจะเคยเปรียบว่า ท่านเป็นเสมือนเมล็ดซากุระจากประเทศญี่ปุ่น ที่กระแสบุญพัดพาให้มางอกงามเป็นดอกบัวหลวงพุทธบูชา ในนาบัวนาบุญแห่งประเทศไทย

นั่นจึงเป็นเรื่องเสียดายที่ท่านผู้เคยมีฉายาว่า คเวสโก หรือ “ผู้แสวงหาซึ่งฝั่ง” นั้น อาจได้ค้นพบฝั่งของท่านแล้ว หากแต่เป็นฝั่งฝาของชีวิตอย่างผู้ครองเรือน กลับไปสู่ความเป็น คุณมิตซูโอะ ชิบาฮาชิ เหมือนสถานะเมื่อร่วม 40 ปีก่อนหน้าที่เขาจะเดินทางออกจากประเทศญี่ปุ่น

เรื่องของอดีตพระหลวงพ่อมิตซูโอะนั้น เสมือนการสอนพุทธบริษัทด้วยเรื่องของอนิจจัง

ส่วนตัวของท่านอดีตพระมิตซูโอะ ก็อาจจะต้องระลึกถึงและไม่ประมาทต่ออนิจจังเช่นกัน

นั่นคือ ตัวท่านเองนั้นได้ออกจากสังคมญี่ปุ่นไปเป็นเวลาร่วม 40 ปี ก่อนหน้านั้น ท่านสำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมปลาย และทำงานอยู่ในช่วงสั้นๆ จึงลาออกมาแสวงบุญชมโลก เริ่มจากอินเดีย และประเทศรอบข้าง จนกระทั่งมาจบการค้นหาที่ประเทศไทย และในประเทศไทยนี้ ท่านก็ได้บวชเป็นพระอยู่นาน และเป็นพระวัดป่าในสายที่เคร่งอยู่อย่างสมถะเรียบง่าย

ซึ่งน่าสงสัยว่า ทักษะทางสังคม หรือความสามารถทางโลกท่านจะยังพอที่จะดำรงชีวิตเยี่ยงผู้ครองเรือนอยู่ได้หรือไม่ อย่าว่าแต่ในสังคมญี่ปุ่นซึ่งเปลี่ยนแปลงไปทั้งเทคโนโลยี สภาวะแวดล้อม จิตใจและการเป็นอยู่ของผู้คนเลย แม้แต่ประเทศไทยที่ท่านใช้ชีวิตอยู่นานกว่าครึ่งชีวิต ก็ยังไม่แน่ว่าท่านจะสามารถครองเรือนหรือใช้ชีวิตได้อย่างราบรื่นโดยง่ายนัก แล้วกับประเทศญี่ปุ่น ที่ท่านจากไกลมานานแล้วละ ถ้าใครเคยอ่านหนังสือเรื่องการธุดงค์ญี่ปุ่นของท่าน ก็จะได้ทราบว่า ท่านนั้นห่างไกลและแปลกแยกจากสังคมที่ว่านั้นเพียงไร

แม้ระยะแรกท่านอาจจะมีคนรู้ใจเคียงข้างกาย หรือเป็นผู้ที่บุญทำกรรมสร้างให้มาเกื้อกูลกันในชาตินี้ เป็นคู่แท้ที่หากันเจอ

แต่ใครจะกล้าประมาทต่ออนิจจังได้เล่า

หากจะมีวันหนึ่งวันใด ที่ท่านอาจจะมีเหตุพลัดพรากจากคนที่เคียงข้าง ในฐานะของคนที่เคยฟังงธรรมะของท่าน ก็อดเป็นห่วงเสียไม่ได้ว่าท่านจะสามารถประคองชีวิตในเพศคฤหัสถ์ไปได้อย่างสงบและงดงามสมกับการตัดสินใจนี้

ในจดหมายชี้แจงของท่าน ได้กล่าวว่า การสึกหาออกมาสมรสของท่านนั้นเป็นการเริ่มต้นชาติใหม่ และท่านและเธอจะเป็นเสมือนต้นซากุระที่งดงาม และทำประโยชน์ให้แก่สังคม

เราก็เชื่อเช่นนั้น เพราะแม้ว่าท่านจะเป็นเมล็ดซากุระหลงต้น ซึ่งมาเกิดบานในสระบัวของไทย เมื่อเวลามาถึง ต้นซากุระก็กลับไปยืนต้นงดงามอยู่ในบ้านเกิด

แต่เราก็เชื่อว่า ซากุระที่เติบโตในนาบุญนาบัว ก็คงจะไม่ใช่ต้นไม้สามัญนัก.
กำลังโหลดความคิดเห็น