โรงไฟฟ้าชีวมวลพ่นพิษ ชาวบ้านฮือเตรียมขับไล่หลังทนกลิ่นเหม็น-เสียงดังไม่ไหว

สกลนคร - โรงไฟฟ้าชีวมวลที่เพิ่งสร้างเสร็จและเดินเครื่องไม่กี่เดือนสร้างปัญหาความเดือดร้อนแก่ชาวชุมชนโนนสำราญ ซึ่งทนกลิ่นและเสียงไม่ไหว รวมถึงสภาวะแวดล้อมก็เป็นพิษ เด็กและคนชราแพ้อากาศเกิดเป็นผดผื่นคัน ร้องหน่วยงานที่รับผิดชอบเร่งสำรวจและปรับปรุงแก้ไข ก่อนชาวบ้านจะก่อม็อบขับไล่

วันนี้ (9 ก.ค.) กลุ่มชาวบ้านโนนสำราญ หมู่ 1 ต.พังขว้าง อ.เมืองสกลนคร จำนวนหนึ่งรวมตัวขอความเป็นธรรมจากสื่อมวลชนเนื่องจากทนสภาพกลิ่นเหม็นและเสียงดังจากโรงไฟฟ้าชีวมวลที่ตั้งอยู่ในกลางชุมชน หลังจากมีการเดินเครื่องจ่ายกระแสไฟฟ้าเพื่อขายให้แก่การไฟฟ้าฯ

ทั้งนี้ ชาวบ้านทราบว่าเจ้าของโรงไฟฟ้าฯ เป็นอดีต ส.ส.พรรคการเมืองใหญ่ และก่อสร้างเสร็จเมื่อต้นปีที่ผ่านมา จากนั้นได้เดินเครื่องใช้งานจริงไม่กี่เดือนก็เกิดปัญหาตามมามากมาย ทั้งกลิ่นเหม็นไหม้ และเสียงดังรบกวนชาวบ้านในละแวก สร้างความเดือดร้อนแก่ชาวบ้านเป็นอย่างมาก

นางประหยัด พงษ์แก้ว อายุ 50 ปี บ้านอยู่ติดกับโรงไฟฟ้าฯ เปิดเผยว่า ทนกลิ่นเหม็นและเสียงดังไม่ไหว ร้องขอไปยังโรงไฟฟ้าฯ แต่ก็ถูกปฏิเสธแถมข่มขู่จะทำร้าย จึงแจ้งไปยังกำนัน และผู้ใหญ่บ้าน หรือแม้กระทั่งองค์การบริหารส่วนตำบลพังขว้าง ก็ไม่มีใครสนใจ

ชาวบ้านจึงรวมกลุ่ม และล่ารายชื่อผู้ที่ได้รับผลกระทบร้องไปยังอุตสาหกรรมจังหวัดและเจ้าของโรงไฟฟ้าฯ ให้เร่งปรับปรุงและดำเนินการแก้ไขด่วน ซึ่งครบกำหนดเมื่อวันที่ 5 ก.ค. หลังจากที่ได้ขอเวลาแก้ไขนับจากที่ได้ยื่นหนังสือ

ปรากฏว่าช่วงนี้โรงไฟฟ้าฯ ยิ่งโหมเร่งเครื่องทำงานกันหามรุ่งหามค่ำตลอดทั้งวันทั้งคืน ชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่รัศมี 5 กม.ไม่เป็นอันกินอันนอน รวมถึงพระวัดป่าที่อยู่ใกล้โรงไฟฟ้าฯ อีกด้วย แต่ละคืนต้องนอนผวาตื่นตกใจ

“โรงไฟฟ้าฯ แห่งนี้บอกอีกด้วยว่า ครั้งแรกวัสดุผลิตป้อนโรงไฟฟ้าฯ เป็นประเภทไม้ ขณะนี้หันมาใช้แกลบแทน ยิ่งทำให้เกิดกลิ่นเหม็นไหม้อย่างรุนแรง ประกอบกับเสียงเครื่องดังมาก”

นอกจากนั้น ชาวบ้านที่อยู่ในละแวกพื้นที่ใกล้โรงไฟฟ้าฯ เกิดเป็นผดผื่นคันเนื่องจากแพ้อากาศโดยเฉพาะเด็กและคนชรา ซ้ำไปกว่านั้นน่าสงสารผู้ที่ป่วยเป็นโรคหืดหอบ และโรคหัวใจที่เกิดอาการกำเริบ และทวีความรุนแรง หากไม่แก้ไขอาจเสียชีวิตได้

นายพรณรงค์ แสนภูวา ชาวบ้านอีกรายบอกว่า ก่อนจะมีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าฯ ชาวบ้านก็คัดค้านไม่เห็นด้วยที่จะให้มีการก่อสร้าง โดยได้ยื่นหนังสือถึงนายกองค์การบริหารส่วนตำบลพังขว้าง พร้อมลงรายมือชื่อเพื่อคัดค้านเมื่อปลายปี 2552 แต่เรื่องเงียบ จากนั้นพบว่าได้มีการดำเนินการก่อสร้างจนกระทั่งแล้วเสร็จ ทั้งๆ ที่ไม่มีการประชุม และรับฟังความคิดเห็นของชาวบ้าน

เจ้าของโรงไฟฟ้าชีวมวลแห่งนี้อ้างว่าได้รับความเห็นชอบจากชาวบ้านเสร็จแล้ว พร้อมกับยืนยันและรับปากกับชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ว่าจะไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อชุมชน

แต่หลังจากนั้นมาสภาพแวดล้อมเปลี่ยนไป รวมถึงชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านก็อยู่ไม่เป็นสุข เนื่องจากกลิ่นเหม็นรุนแรงและเสียงเครื่องดังมาก จึงแจ้งไปยังเจ้าของโรงไฟฟ้าฯ ทราบ พร้อมกับทำหนังสือร้องเรียนไปยังอุตสาหกรรมจังหวัดสกลนครเพื่อแก้ไขปรับปรุง ขณะนี้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม หากไม่ดำเนินการแก้ไขหรือปรับปรุงตามที่รับปากไว้ชาวบ้านจะมารวมตัวกันชุมนุมประท้วงหรือปิดถนน พร้อมจะขับไล่ให้รื้อโรงไฟฟ้าฯ ออกไปจากพื้นที่ เพราะไม่มีโรงไฟฟ้าฯ ที่ไหนมาสร้างอยู่กลางชุมชนทั้งที่ชาวบ้านก็คัดค้านมาโดยตลอด