ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - โคราชฉาวอีก พบเกษตรกร 11 ราย อ.โนนไทยส่อทุจริตจำนำข้าวนาปรัง พบขนข้าวจำนำปริมาณมากผิดปกติและส่งมอบล่าช้า ผู้ว่าฯ เต้นส่งให้ตำรวจตรวจสอบข้อเท็จจริงภายใน 15 วัน เผยโคราชฟันโกงจำนำข้าวแล้ว 1 ราย เป็นกรณีโรงสียักยอกเสียหาย 200 ล้านบาท ล่าสุดอยู่ในขั้นตอนอัยการ ส่วนเกษตรกร 11 รายรอผลตรวจสอบ สั่งทุกอำเภอจับตาจำนำข้าวปี 2555/56 ใกล้ชิด ห้ามมีโกงเกิดขึ้น
วันนี้ (1 พ.ย.) ที่ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายวินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยถึงการตรวจสอบการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวในส่วนของ จ.นครราชสีมาว่า จนถึงขณะนี้มีการดำเนินการต่อผู้ทุจริตเพียง 1 ราย ในท้องที่ ต.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา คือโรงสีข้าว บริษัท ธัญญะรุ่งเรืองชัย (ประเทศไทย) จำกัด กรณียักยอกข้าวในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2554/55 กว่า 1.16 หมื่นตัน คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 205 ล้านบาท ซึ่งพนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนคดีมีความเห็นสั่งฟ้องส่งเรื่องให้อัยการจังหวัดแล้ว ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการตรวจสำนวนของอัยการเพื่อพิจารณาดำเนินการส่งฟ้องศาลต่อไป
ส่วนอีกกรณีที่พบความผิดปกติ แต่ยังไม่ชี้ชัดว่าเป็นการทุจริตหรือไม่ คือกรณีในพื้นที่ อ.โนนไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง เบื้องต้นทราบว่าเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังปี 2555 จำนวน 11ราย นำข้าวมาส่งมอบล่าช้าจนเกินไป และข้าวที่นำมาจำนำมีปริมาณมากผิดปกติ จึงต้องมีการตรวจสอบดูว่าด้วยเหตุใด ซึ่งเขาอาจมีเหตุผลก็ได้ ตรงนี้หากมีเหตุผลเพียงพอก็ถือว่าไม่มีอะไร และไม่เข้าข่ายทุจริต
“กรณีนี้เป็นการส่งมอบข้าวล่าช้ามูลค่าความเสียหายไม่มากนักเพราะมีอยู่เพียงแค่ 10 กว่ารายเท่านั้น ซึ่งเวลาขึ้นทะเบียนเกษตรกรจะรู้ว่าควรจะนำข้าวมาจำนำเวลาใด แต่นี่มันเลยเวลาไปมากแล้วจึงต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงกันว่าเกิดอะไรขึ้น” นายวินัย กล่าว
ส่วนภาพรวมของโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนา ปีการผลิต 2555/56 ของ จ.นครราชสีมาซึ่งเริ่มเปิดรับจำนำไปเมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2555 นั้น เกษตรกรยังสามารถขอขึ้นทะเบียนได้ ตัวเลขจึงยังไม่นิ่ง ส่วนการเปิดจุดรับจำนำข้าวได้มีการอนุมัติรับรองเปิดจุดรับจำนำข้าวทั้งหมดจำนวน 43 จุด ถือว่าเพียงพอแล้ว และล่าสุดได้เปิดจุดรับจำนำข้าวไปแล้ว 8 อำเภอ รวม 17 จุด มีเกษตรกรนำข้าวมาเข้าร่วมโครงการฯ แล้วจำนวน 1,649 ตัน เนื่องจากเป็นช่วงที่ผลผลิตข้าวยังออกมาไม่มาก
สำหรับการตรวจสอบการทุจริตสวมสิทธิการจำนำข้าวที่ จ.นครราชสีมานั้น นายวินัยกล่าวว่า ยังไม่มีเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นในพื้นที่ จ.นครราชสีมาแต่อย่างใด ซึ่งตนมีคำสั่งให้ตั้งคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบทั้งในระดับท้องถิ่น อำเภอ และจังหวัดเข้าไปตรวจสอบอย่างใกล้ชิดอยู่แล้วไม่มีปัญหาอะไร พร้อมทั้งได้กำชับไปยังหน่วยงานอำเภอ และท้องถิ่น รวมทั้งประชาชนว่าทุกอย่างต้องโปร่งใส ทุกคนต้องซื่อสัตย์สุจริต เพราะโครงการนี้เป็นโครงการที่รัฐบาลช่วยเหลือพี่น้องประชาชนชาวนาจริงๆ ราคาในการรับจำนำนั้นชาวนาเองก็พอใจ ฉะนั้นถ้าทำอย่างบริสุทธิ์โปร่งใสโครงการนี้จะยั่งยืนต่อไปได้
ด้าน น.ส.พัตถาภรณ์ ไชยานุพงศ์ การค้าภายในจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยถึงการตรวจสอบกรณีเกษตรกรใน อ.โนนไทยจำนวน 11 รายนำข้าวเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2555 ปริมาณมากผิดปกติและส่งมอบล่าช้าว่า สืบเนื่องจากการประชุมของคณะอนุกรรมการติดตามกำกับดูแลการรับจำนำระดับจังหวัด จ.นครราชสีมา โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาเป็นประธานเมื่อต้นเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จังหวัดนครราชสีมาว่า พบยอดเงินจำนำข้าวของเกษตรกรจำนวน11 รายใน อ.โนนไทย ที่เข้าร่วมในโครงการรับจำข้าวนาปรังปี 2555 มากผิดปกติ เฉลี่ยรายละประมาณ 2-2.5 แสนบาท รวมเป็นเงินกว่า 2.5 ล้านบาท จึงให้ชะลอการจ่ายเงินให้แก่เกษตรกรทั้ง 11 ราย ซึ่งความผิดปกติดังกล่าวทางคณะอนุกรรมการฯ ได้ตั้งข้อสังเกตว่าอาจมีการสวมสิทธิโดยนำข้าวจากที่อื่นมาจำนำก็เป็นได้ เพราะพบว่าเกษตรกรทั้ง 11 รายมีการส่งมอบข้าวล่าช้าผิดปกติด้วย
ทางคณะอนุกรรมการฯ จึงได้ส่งเรื่องให้ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมาซึ่งเป็นหนึ่งในคณะอนุกรรมการฯ ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงภายใน 15 วัน ซึ่งจะมีการสรุปผลการหารือในการประชุมวันพรุ่งนี้ (2 พ.ย.) ที่ห้องประชุมหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา
น.ส.พัตถาภรณ์กล่าวต่อว่า สำหรับโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังปี 2555 จ.นครราชสีมา เปิดรับจำนำระหว่งวันที่ 1 มี.ค.-15 ก.ย. 2555 ข้อมูลจาก ธ.ก.ส. จ.นครราชสีมา รายงานว่า มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 30,118 ราย รวมปริมาณข้าวเปลือกจำนำ 173,205 ตัน เป็นเงิน 2,549 ล้านบาท ซึ่งทาง ธ.ก.ส.ได้จ่ายเงินจำนวนดังกล่าวให้แก่เกษตรกรไปหมดแล้ว ยกเว้น 11 รายที่ อ.โนนไทยที่พบความผิดปกติดังกล่าว โดยเกษตรกรทั้ง 11 รายได้นำข้าวไปเข้าร่วมโครงการฯ จำนำกับโรงสีข้าว เจียเม้ง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา และได้รับใบประทวนเรียบร้อยแล้ว หากการตรวจสอบไม่พบความผิดปกติทาง ธ.ก.ส. ก็พร้อมจ่ายเงินให้เกษตรกรทันที