บุรีรัมย์ - ตร.ชุดพนักงานสอบสวนคดีทุจริตจำนำข้าวบุรีรัมย์กว่า 20 นายเร่งรวบรวมข้อมูลหลักฐานและสอบปากคำเกษตรกรกว่า 450 ราย เพื่อขยายผลออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการทุจริตจำนำข้าวเพิ่มอีก 4 ราย หลังรวบแล้ว 5 ราย ขณะผู้การสั่งคุมเข้มชายแดนป้องกันข้าวเขมรทะลักสวมสิทธิ ด้านค้าภายในคาดเปิดรับจำนำข้าวฤดูกาลนี้ได้ปลาย ต.ค.นี้ หลังล่าช้ามากว่าครึ่งเดือน
วันนี้ (18 ต.ค.) พล.ต.ต.รัฐพงษ์ ยิ้มใหญ่ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) บุรีรัมย์ กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2554/55 ในเขตพื้นที่ อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 44 ล้านบาท ว่า ขณะนี้ชุดพนักงานสอบสวนกว่า 20 นายที่แต่งตั้งขึ้นให้ดูแลรับผิดชอบคดีดังกล่าว ได้เร่งรวบรวมข้อมูลหลักฐาน พร้อมทั้งเดินหน้าสอบปากคำเกษตรกรทั้ง 459 รายที่ตรวจพบมีการสอดแทรกใบชั่งน้ำหนักปลอมกับฉบับจริงเพื่อนำไปออกใบประทวนและขึ้นเงินกับ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เกินกว่าความเป็นจริง เพื่อขยายผลสาวหาผู้บงการหรือผู้อยู่เบื้องหลังมาดำเนินคดีทั้งหมด
จากการสอบปากคำเกษตรกรไปแล้วกว่า 250 ปาก พบข้อมูลที่เชื่อมโยงกับผู้กระทำผิดเพิ่มอีกหลายราย ซึ่งทางพนักงานสอบสวนก็กำลังเร่งรวบรวมหลักฐานเพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำผิดเพิ่มเติมอีก 4 ราย ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 5 รายที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้กำลังอยู่ระหว่างการประกันตัวเพื่อสู้คดีในชั้นศาล ขณะตำรวจเองก็ได้เร่งสรุปสำนวนคดีส่งอัยการเพื่อฟ้องศาลต่อไป
พล.ต.ต.รัฐพงษ์กล่าวต่อว่า ส่วนมาตรการในการป้องกันการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2555/56 ซ้ำรอยอีกนั้นได้มีการส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปประจำจุดรับจำนำทุกจุด จุดละ 5 นาย เพื่อร่วมในการตรวจสอบและจับตาความผิดปกติ ป้องกันการทุจริตอย่างเข้มงวดแล้ว
พร้อมกันนี้ยังได้กำชับให้ทุกสถานตำรวจภูธรทุกแห่ง โดยเฉพาะพื้นที่ตามแนวชายแดน ได้ตั้งจุดตรวจสกัดอย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันกลุ่มผู้ไม่หวังดีฉวยโอกาสลักลอบนำข้าวจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาสวมสิทธิในโครงการรับจำนำอย่างเข้มข้นตลอด 24 ชั่วโมงด้วย หากพบรถต้องสงสัยก็ให้ทำการตรวจสอบอย่างละเอียดเพื่อไม่ให้ข้าวจากนอกประเทศเล็ดลอดเข้ามาในพื้นที่ได้อย่างเด็ดขาด
ทางด้าน นายสุทธิศักดิ์ พรหมบุตร การค้าภายในจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการตรวจความพร้อมของโรงสี ที่สมัครเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลปีกาลผลิต 2555/56 ว่า ล่าสุดทางคณะทำงานฯ ได้ตรวจสอบคุณสมบัติโรงสีทั้ง 19 แห่ง และโกดังกลางอีก 4 แห่งเสร็จเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบของคณะกรรมการติดตามกำกับดูแลการรับจำนำข้าวระดับจังหวัด เพื่อส่งให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) พิจารณาอนุมัติ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จและสามารถเปิดรับจำนำข้าวเปลือกของเกษตรกรได้ก่อนสิ้นเดือน ต.ค.นี้หลังล่าช้ามากกว่าครึ่งเดือน ซึ่งจากการตรวจสอบในเบื้องต้นก็ยังไม่พบปัญหาแต่อย่างใด
ส่วนโกดังกลางที่สมัครเข้าร่วมโครงการทั้ง 4 แห่ง มี หจก.เอ็นเอ็นที 1999 (ตลาดกลางข้าวและพืชไร่) อ.เฉลิมพระเกียรติ, โกดัง พัฒนาพาณิชย์ อ.พุทไธสง, บริษัทเอกวินเทรดดิ้ง อ.ประโคนชัย และโกดังปรีชาพาณิชย์ อ.เมือง นั้น ในจำนวนนี้ 3 แห่งได้ระบายข้าวในสต๊อกออกทั้งหมดแล้ว ส่วนอีก 1 แห่ง คือโกดังปรีชาพาณิชย์ยังอยู่ระหว่างการระบายข้าว ซึ่งคาดว่าจะสามารถระบายแล้วเสร็จไม่เกินสิ้นเดือน ต.ค.นี้
ทั้งนี้ โกดังกลางทั้ง 4 แห่งจะสามารถรองรับจัดเก็บข้าวสารที่สีแปรสภาพแล้วจากโรงสีที่รับจำนำข้าวของเกษตรกรได้กว่า 43,000 ตัน หรือกว่า 434,000 กระสอบ ซึ่งไม่น่าจะมีปัญหาโกดังไม่เพียงพออย่างแน่นอน
อีกทั้งคาดการณ์ว่าปีนี้จะมีผลผลิตข้าวออกสู่ตลาดน้อยกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากนาข้าวในหลายพื้นที่ประสบปัญหาฝนทิ้งช่วงผลผลิตเสียหาย จากปีที่ผ่านมามีเกษตรกรนำข้าวมาเข้าร่วมโครงการจำนำในยุ้งฉางกว่า 17,000 ตัน และจำนำใบประทวน 336,000 ตัน