ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - บุรีรัมย์ระดม ตร.11 อำเภอ ลุยสอบสวนเกษตรกร 459 ราย เอี่ยวแก๊งทุจริตจำนำข้าว ฉาว 44 ล้าน หลังตรวจพบมีการสอดไส้ ใบชั่งน้ำหนักปลอมกว่า 800 ใบ เพื่อสาวให้ถึงผู้บงการอยู่เบื้องหลังและลากคอมารับโทษตามกม. ส่วนผู้ต้องหา 5 รายถูกจับกุมก่อนหน้านี้ พนักงานสอบสวนเร่งสรุปสำนวนคดีส่งฟ้องศาล
วันนี้ (11 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สภ.หนองกี่ อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ พ.ต.อ.วิรัตน์ ถาดทอง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (รองผบก.ภ.จว.) บุรีรัมย์ หัวหน้าคณะกรรมการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ดูแลรับผิดชอบคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2554/55ในเขตพื้นที่ อ.หนองกี่ และพื้นที่ใกล้เคียง ได้เรียกประชุมพนักงานสอบสวน 11 อำเภอ เพื่อแบ่งทีมลงพื้นที่สอบสวนเกษตรกร 459 ราย จากจำนวนเกษตรกรที่นำข้าวเข้าร่วมโครงการรับจำนำ ยังท่าข้าว “ธนพลพืชผล” กว่า 2,000 ราย หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบพบมีการปลอมแปลงใบชั่งน้ำหนักสอดแทรกฉบับจริง จำนวนกว่า 800 ใบ เพื่อนำไปประกอบเอกสารยื่นขอออกใบประทวนกับเจ้าหน้าที่องค์การคลังสินค้า (อคส.) ก่อนนำไปเป็นหลักฐานขึ้นเงินกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สร้างความเสียหายแก่งบประมาณของรัฐกว่า 44 ล้านบาท
ทั้งนี้ พ.ต.อ.วิรัตน์ ได้กำชับแนวทางการสืบสวนสอบสวนแก่พนักงานสอบสวนด้วยว่าต้องทำการสอบสวนอย่างละเอียดและตรงไปตรงมาตั้งแต่ขั้นตอนการขึ้นทะเบียนเป็นเกษตรกร ที่มาของใบชั่งน้ำหนักปลอม การแจ้งพื้นที่เพาะปลูกผลผลิตข้าว รวมถึงที่ไปที่มาของข้าวที่นำมาเข้าร่วมโครงการรับจำนำ เพราะบางรายมีปริมาณข้าวเกินจำนวนผลผลิตที่แจ้งไว้ เพื่อรวบรวมข้อมูลหลักฐานขยายผล สาวไปถึงตัวผู้บงการหรือผู้ที่อยู่เบื้องหลังในการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว มาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด
พ.ต.อ.วิรัตน์ กล่าวว่า เบื้องต้นทางตำรวจได้กันเกษตรกรเหล่านี้ไว้เป็นพยาน แต่หากผลการสอบสวนพบว่าเกษตรกรรายใดมีส่วนเกี่ยวข้องร่วมในการทุจริตก็จะถูกดำเนินการเอาผิดฐานเรื่องการให้การสนับสนุนในการกระทำความผิดด้วย เนื่องจากเป็นการกระทำความผิดต่างกรรมต่างวาระ ซึ่งคาดว่าต้องใช้เวลาในการสอบสวนอยู่พอสมควร เพราะเกษตรกรมีจำนวนมากโดยได้กำชับพนักงานสอบสวนให้สอบสวนไปตามข้อเท็จจริงเพื่อเอาผิดกับขบวนการทุจริตจำนำข้าวครั้งนี้เพราะถือเป็นนโยบายทำให้รัฐเสียหาย
"ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 5 รายที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ ประกอบด้วยเจ้าของท่าข้าวธนพลพืชผล พร้อมภรรยา, เจ้าหน้าที่ อคส.และผู้ช่วยเจ้าพนักงาน อคส.ขณะนี้อยู่ระหว่างการสรุปสำนวนคดีส่งฟ้องศาลข้อหา “ฉ้อโกงประชาชนปลอมแปลงเอกสาร และเป็นเจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ” พ.ต.อ.วิรัตน์ กล่าว