บุรีรัมย์ - ชุดสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์มั่นใจเอกสารหลักฐาน และพยานบุคคลสามารถมัดตัวเอาผิด 5 ผู้ต้องหาที่ถูกจับทุจริตโครงการจำนำข้าวได้ ขณะผู้ต้องหา เจ้าของท่าข้าว พร้อมภรรยา ออกมาแถลงข่าวโต้ลบล้างข้อกล่าวหา ยันไม่มีส่วนร่วมโกงจำนำข้าว
วันนี้ (29 ส.ค.) พ.ต.ท.สุทิน หวังกลับ รองผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหนองกี่ จ.บุรีรัมย์ หนึ่งในคณะกรรมการชุดสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2554/55 ในเขตพื้นที่ อ.หนองกี่ และพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งล่าสุดนำหมายศาลเข้าจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 5 ราย ว่า ทางชุดสืบสวนสอบสวนภูธรจังหวัดบุรีรัมย์มั่นใจในการตรวจสอบเอกสารหลักฐาน ทั้งใบประทวน และใบชั่งน้ำหนักข้าว รวมถึงการสอบพยานบุคคลที่เป็นเกษตรกรกว่า 10 ปาก มีน้ำหนักสามารถมัดตัวเอาผิดผู้ต้องหาทั้ง 5 รายและส่งฟ้องศาลดำเนินคดีได้อย่างแน่นอน
ถึงแม้เบื้องต้นผู้ต้องหาจะให้การปฏิเสธในชั้นพนักงานสอบสวน และขอให้การในชั้นศาลก็ตาม และขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบเอกสารหลักฐาน และสอบพยานบุคคล เชื่อว่าจะรวบรวมหลักฐานและสรุปสำนวนส่งอัยการสั่งฟ้องได้ในไม่ช้านี้
ทางด้านนายธนพล และนางผริตา คู่สกุลนิรันดร์ สองสามีภรรยาเจ้าของท่าข้าว “ธนพลพืชผล” อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ผู้ต้องหาคดีดังกล่าวที่ถูกจับกุมตัวและยื่นประกันออกมาต่อสู้คดีในชั้นศาล พร้อมทนาย ได้นำเอกสารหลักฐานเปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน เพื่อขอความเป็นธรรม ยืนยันว่ากรณีถูกกล่าวหาว่ามีส่วนร่วมในการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวนั้นไม่เป็นความจริง
โดยนายธนพลระบุว่า เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่มีการตรวจสอบพบความผิดปกติในโครงการรับจำนำข้าว จนมีการชะลอการจ่ายเงินนั้น ตนได้นำเอกสารหลักฐานไปชี้แจงต่อเจ้าหน้าที่สำนักงานการค้าภายในจังหวัดฯแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ไม่ยอมรับเอกสารและคำชี้แจงใดๆ
ส่วนตัวเลขในใบชั่งน้ำหนักทางโรงสีนอกพื้นที่ที่มาเช่าท่าข้าวธนพลเพื่อรับจำนำข้าวจากเกษตรกรเป็นผู้ดำเนินการปรับแต่งตัวเลขที่ไม่ตรงกัน แต่พอเกิดปัญหาตนกลับถูกแจ้งความกล่าวหาว่ามีส่วนร่วมในการทุจริต พร้อมมั่นใจว่ามีผู้หวังผลประโยชน์ในโครงการดังกล่าวเข้าไปเกี่ยวข้องอยู่หลายคน แต่ยังไม่ขอเปิดเผย
ส่วนกรณีที่ตนและภรรยาตกเป็นผู้ต้องหาจนทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงนั้น จะมีการฟ้องกลับหรือไม่ยังอยู่ระหว่างการปรึกษาทนายความส่วนตัว