xs
xsm
sm
md
lg

ตร.สั่งตรวจนับจำนวนข้าวสารที่รับจำนำ-ป้องกันโรงสีสวมสิทธิ์ข้าว

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

(แฟ้มภาพ)
“บิ๊กย้อย” ถกป้องกันทุจริตจำนำข้าว ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ จากเกาะสมุย ถึงศูนย์ปฏิบัติการ สตช.เผย 19 ต.ค.จะมีการตรวจนับจำนวนข้าวสารที่คลังกลาง กำชับมาตรการเตรียมพร้อม 3 ข้อ ชี้ จ.นครราชสีมา พบการทุจริตข้าวหายกว่า 1.1 หมื่นกว่าตัน มูลค่าสูญเสีย 2 พันกว่าล้านบาท

วันนี้ (18 ต.ค.) เมื่อเวลา 16.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร.เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการตรวจสอบเพื่อป้องกันการทุจริตในการรับจำนำข้าวการ ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ จาก อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี มายังศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมี พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ ผบช.ประจำสำนักงาน ผบ.ตร.และตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม

พล.ต.อ.วรพงษ์ กล่าวว่า วันที่ 19 ต.ค.นี้ จะมีการดำเนินการตรวจนับจำนวนข้าวสาร ฉะนั้น ขอให้เจ้าหน้าที่เตรียมความพร้อมก่อนออกจู่โจม และตรวจนับจำนวนข้าวสารที่คลังกลาง โดยให้เตรียมพร้อม 3 ข้อ คือ 1.เฝ้าระวัง โดยจะส่งสายตรวจทุกจุดไปเฝ้าระวังที่คลังกลางเป็นระยะ เนื่องจากช่วงกลางคืนอาจจะมีการเคลื่อนย้ายกระสอบข้าวได้ 2.ให้มีการเตรียมบันไดสูงใช้เป็นอุปกรณ์ปีนขึ้นไปตรวจสอบจำนวนกระสอบข้าว 3.เตรียมกำลังพลที่แข็งแรง เนื่องจากบันไดที่ปีนจะมีความสูงประมาณตึก 2 ชั้น โดยอยากจะขอความร่วมมือคนงานจากโรงสีมาช่วยตรวจนับได้ ทั้งนี้ หาก บช.ภ.ไหนมีปัญหา ขอให้รีบรายงานโดยตรงเข้ามายังศูนย์ หรือแจ้งให้ตนทราบทันที

พล.ต.อ.วรพงษ์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่ บช.ภ.3 ที่ จ.นครราชสีมา พบการทุจริตข้าวหายกว่า 1.1 หมื่นกว่าตัน มูลค่าสูญเสีย 2 พันกว่าล้านบาท โดยทางโรงสีธัญญรุ่งเรืองชัยอ้างว่า ไม่สามารถสีข้าวได้ทัน จึงนำข้าวสารจำนวนดังกล่าวไปฝากให้โรงสีอื่นดำเนินการต่อนั้น ตรงนี้ขอให้พนักงานสอบสวนไปดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับโรงสีอื่นๆ ที่ถูกกล่าวอ้างทันที เนื่องจากเป็นการทุจริตที่ถูกเพ็งเล็งจากหลายฝ่าย เพราะเกรงว่าจะนำเอาข้าวที่สีแล้วไปขาย ก่อนนำเอาข้าวเก่า หรือข้าวจากต่างประเทศในราคาถูกกว่า มาดำเนินการสวมสิทธิ์ให้กับคลังกลางแทน ฉะนั้น หากตรวจสอบแล้วพบการกระทำดังกล่าวจริง ขอให้รีบรายงานเข้ามาทันที

ด้าน พล.ต.ต.โสภณ กล่าวว่า การทุจริตจำนำข้าวนั้น เพื่อให้มีการดำเนินการอย่างจริงจัง เนื่องจากทางศูนย์ตรวจสอบพบว่าจากการลงเอกซเรย์พื้นที่นาและเกษตรกร เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ลงพื้นที่จริง แต่มีการตรวจเฉพาะเอกสารและเรียกชาวบ้านมาเซ็นรับรองเท่านั้นส่วนการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ไปประจำที่โรงสี แต่จากการตรวจสอบบางพื้นที่ ไม่มีเจ้าหน้าที่ไปประจำการอยู่ หรือไปประจำเพียงชั่วคราวเท่านั้น รวมถึงเจ้าหน้าที่ประจำโรงสีบางราย ไม่ทราบภารกิจของศูนย์ ฉะนั้น ขอให้ผู้บัญชาการลงไปดูแลอย่างใกล้ชิดด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น