บุรีรัมย์ -ชมรมโรงสีข้าวบุรีรัมย์คัดไม่ให้โรงสีนอกพื้นที่เข้ามาเปิดจุดรับจำนำข้าว หวั่นทุจริตสร้างความเดือดร้อนและเสียหายต่อโครงการของรัฐซ้ำรอยปีที่ผ่านมา พร้อมส่ง จนท.รัฐ ตัวแทนเกษตรกร และตำรวจประจำจุดรับจำนำทุกจุด ตรวจสอบเข้มทุกขั้นตอน สั่งทุกอำเภอจับตาการลักลอบนำข้าวจากนอกพื้นที่เข้ามาปลอมปน หากพบให้จับกุมดำเนินคดีเด็ดขาด ส่วนคืบหน้าโกงจำนำข้าว 44 ล้าน ตำรวจส่งเรื่อง อคส.เป็นผู้เสียหายร่วมเกษตรกร ชงแจ้งความเอาผิด
วันนี้( 2 ต.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุม POC อาคารศาลาประชาคม (ชั้นล่าง) จังหวัดบุรีรัมย์ นายเฉลิมพล พลวัน ปลัดจังหวัดบุรีรัมย์ ได้เรียกประชุมคณะอนุกรรมการติดตามกำกับดูแลการรับจำนำข้าวระดับจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมพร้อมดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือกปีการผลิต 2555/2556 และมาตรการป้องกันการทุจริตรับจำนำข้าว
ที่ประชุมได้มีมติจัดเจ้าหน้าที่เข้าไปร่วมดูแลตรวจสอบประจำจุดรับจำนำ 1 คน ตัวแทนเกษตรกร 3 คน และเจ้าหน้าที่ตำรวจอีก 2 นาย เพื่อร่วมในการตรวจสอบการรับจำนำในทุกขั้นตอน
การรับจำนำในครั้งนี้ คณะอนุกรรมการติดตามกำกับดูแลการรับจำนำข้าวระดับจังหวัดจะได้ตั้งเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจเข้าไปตรวจสอบกระบวนการขั้นตอนการจำนำ การรับจำนำข้าวคุณภาพต่ำจากนอกพื้นที่เข้ามาปลอมปน และทำการตรวจสอบป้องกันการสวมสิทธิเกษตรกรนำข้าวมาเข้าร่วมโครงการ ซึ่งจะสร้างความเสียหายให้แก่งบประมาณของรัฐ
ส่วนหลักเกณฑ์การรับจำนำคุณภาพข้าว 42 กรัม ตันละ 20,000 บาท และบวกลบ200 บาทต่อกรัม จึงร้องขอให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวได้นำข้าวที่มีความชื้นสูงไปตากให้แห้งก่อนที่จะนำเข้ามาร่วมโครงการเพราะจะได้ราคาที่สูง หากพบเห็นหรือทราบเบาะแสการทุจริต และถูกเอารัดเอาเปรียบจากโรงสีที่เข้าร่วมโครงการให้แจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องหรือสำนักงานพาณิชย์ สำนักงานการค้าภายในจังหวัดทันที เพื่อที่จะได้เข้าไปดำเนินการตรวจสอบ และเอาผิดตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
นายเฉลิมพล พลวัน ปลัดจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ได้สั่งให้อำเภอที่ติดแนวชายแดน และจังหวัดข้างเคียงจัดชุดเจ้าหน้าที่ปกครอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมตั้งด่านสกัดการลักลอบนำข้าวจากนอกพื้นที่ที่มีคุณภาพต่ำเข้ามาปลอมปนข้าวในพื้นที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งจะทำให้เกิดความเสียหายต่องบประมาณของรัฐ และสร้างความเสียหายต่อข้าวของเกษตรกรในพื้นที่ที่มีคุณภาพดีแล้ว หรือหากพบกลุ่มบุคคลดังกล่าวลักลอบนำข้าวเข้ามาในพื้นที่ ให้ดำเนินการตามกฎหมายขั้นเด็ดขาดทันทีไม่ละเว้น
ด้าน นายขันติ มณีราชกิจ เลขานุการชมรมโรงสีข้าวจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ยื่นข้อเสนอคัดค้านในที่ประชุมไม่เห็นด้วยที่จะให้จังหวัดอนุมัติให้โรงสีนอกพื้นที่ที่ได้ยื่นความจำนงเข้ามาขอเปิดจุดรับจำนำในพื้นที่จำนวน 16 ราย ทั้งจากภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคอีสาน โดยขอเปิดท่าข้าวในการดำเนินการรับจำนำ 21 ท่าข้าว
ทั้งนี้ เพราะเกรงว่าจะก่อให้เกิดการทุจริตสร้างความเสียหายให้แก่เกษตรกร และโครงการของรัฐซ้ำรอยเหมือนปีที่ผ่านมา ที่ตรวจพบมีการกระทำทุจริต สวมสิทธิ และสอดแทรกใบชั่งน้ำหนักปลอมคู่กับใบชั่งน้ำหนักจริงในเขตพื้นที่อำเภอหนองกี่ จนสร้างความเสียหายแก่งบประมาณของรัฐกว่า 44 ล้านบาท อีกทั้งยังสร้างความเสียหายแก่ผู้ประกอบการโรงสีข้าวในเขตพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ด้วย
ทั้งนี้ ชมรมโรงสีข้าวยังยืนยันว่าโรงสีในเขตพื้นที่จังหวัดมีศักยภาพและความพร้อมเพียงพอที่จะรับจำนำข้าวของเกษตรกร ประกอบกับในปีนี้คาดว่าจะมีผลผลิตข้าวลดลงจากปีที่ผ่านมากว่า 40% เพราะเนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะฝนทิ้งช่วง
ขณะที่ นายสุทธิศักดิ์ พรหมบุตร การค้าภายในจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวถึงความคืบหน้าทุจริตจำนำข้าวเปลือกปีการผลิต 2554/2555 อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบปากคำเกษตรกรทั้ง 459 รายเพื่อสาวหาตัวผู้บงการหรือผู้อยู่เบื้องหลังมาดำเนินคดี จากที่ก่อนหน้านี้ได้ทำการจับกุมผู้กระทำผิดไปแล้ว 5 ราย
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบพบว่า นอกจากมีเกษตรกรเป็นผู้เสียหายแล้ว ยังมีองค์การคลังสินค้า (อคส.)ได้รับความเสียหายร่วมด้วย จึงแจ้งให้ อคส.มาดำเนินการแจ้งความเอาผิดด้วย ซึ่ง อคส.ได้มีหนังสือมาขอรายละเอียดข้อมูลความเสียหายจากทางตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์เพื่อรวบรวมข้อมูลดำเนินการแจ้งความต่อไป