รองนายกฯ ปลอบ “จตุพร” ฟูมฟายไม่ได้เก้าอี้ ครม. บอกใจนักเลง เป็นนักสู้ ปชต. ไม่แสวงหาตำแหน่ง เชื่อปรับความเข้าใจกันได้ รูดซิปปาก ส.ส.อีสานฮึ่ม “ยุทธพงศ์” ข้ามหัว ปัดจะดูแลงานด้านความมั่นคงแทน “บิ๊กอ๊อด” รับไม่มีศักยภาพดูไฟใต้ เชื่อรองนายกฯ คนอื่นทำได้ เหน็บฝ่ายค้านท้าลงใต้บอกเรื่องธรรมดา เหน็บพวกผีโดนใบหนาด ยันปรับ ครม.หนีซักฟอกไม่จริง
วันนี้ (29 ต.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงโฉมหน้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ที่เพิ่งได้รับการโปรดเกล้าฯ ว่า ส่วนตัวพอใจที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เลือกสรรบุคคลซึ่งมีความรู้ความสามารถเข้ามาร่วมทำงาน ส่วนกระแสข่าวที่กลุ่มเสื้อแดงไม่พอใจที่ไม่มีชื่อ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ในการปรับ ครม.ครั้งนี้ก็เป็นพวกเดียวกันทำความเข้าใจกันได้ และนายจตุพรก็เป็นคนมีจิตใจนักเลง เป็นนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยมา ไม่ได้เป็นคนแสวงหาตำแหน่ง ตนกับนายจตุพรก็รู้จักกันมานาน ชอบพอกันอยู่ และคงไม่มีแรงกระเพื่อมอะไร เชื่อว่าทำความเข้าใจกันได้ พี่ๆ น้องๆ กันทั้งนั้น
ร.ต.อ.เฉลิมปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นกรณีที่นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งภายในพรรคเพื่อไทยโดยเฉพาะกลุ่ม ส.ส.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือไม่พอใจ เพราะเห็นว่าเป็นการข้ามหัว ส.ส.คนอื่นๆ โดยกล่าวเพียงว่าขออนุญาตไม่แสดงความเห็น
เมื่อถามถึงการแบ่งงานของรองนายกฯ ที่เพิ่มขึ้นมาอีก 1 ตำแหน่ง ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ต้องอยู่ที่นายกฯ ตนแสดงความเห็นไม่ได้ ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้มีการเรียกหารือก่อน ทำงานมา 1 ปี 2 เดือน นายกฯ เคยโทร.หาตนแค่ 3 ครั้ง ส่วนตนก็ไม่เคยโทร.หาเลย ส่วนข่าวที่ว่าตนจะได้ดูแลงานด้านความมั่นคงของ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา อดีตรองนายกรัฐมนตรีนั้นยังไม่ทราบ แต่ก็พอใจในงานปัจจุบันที่ดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปราบปรามยาเสพติดและอาชญากรรม ส่วนงานอื่นๆ รอให้นายกฯ มอบหมายอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากได้รับมอบหมายให้ดูแลงานความมั่นคงและการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้จริงๆจะมีศักยภาพในการทำงานหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า “ไม่มีศักยภาพ ภาวนาไปเถอะ” เมื่อถามต่อว่ามองว่ารองนายกฯ คนไหนที่สามารถดูแลงานในส่วนนี้ได้ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ทำได้ทุกคน ยกเว้นตน อย่างนายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล รองนายกฯ และ รมว.ต่างประเทศ ก็ทำได้ ทั้งนี้ยังไม่มีโอกาสได้พบหรือได้รับการฝากฝังงานจาก พล.อ.ยุทธศักดิ์แต่อย่างใด
เมื่อถามย้ำว่า หากพูดเช่นนี้ฝ่ายค้านจะโจมตีว่า ร.ต.อ.เฉลิมไม่กล้าลงพื้นที่ภาคใต้ รองนายกฯ กล่าวว่า ตนยังไม่ได้รับมอบหมาย ฝ่ายค้านก็ด่าตนอยู่แล้วเป็นธรรมดา ที่ผ่านมาก็มักว่าตนลุแก่อำนาจ ซึ่งก็ไม่เข้าใจว่าตนทำอะไรที่ไม่ถูกกฎหมาย ส่วนจะลงภาคใต้เมื่อไรนั้น ยังกำหนดไม่ได้ เพราะยังไม่มีภารกิจ ขอให้ใจเย็นๆ
“ผมไปอยู่ภาคใต้ตั้งพวกที่ว่าผมยังนุ่งกางเกงขาสั้นอยู่เลย ตอนนี้นักการเมืองภาคใต้บางกลุ่มเหมือนผีโดนใบหนาด เพราะตำรวจบี้หนัก น้ำมันเถื่อน หวยเถื่อน ของหนีภาษี เป็นอย่างนี้แล้วใครจะรักผม” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว
เมื่อถามว่า หลังการปรับ ครม.จะส่งผลให้การรับมืออภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านง่ายขึ้นหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า เข้าใจว่าฝ่ายค้านจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ ที่มาบอกว่าปรับ ครม.หนีการอภิปรายก็ไม่เป็นความจริง เพราะอย่างจะอภิปรายโครงการจำนำข้าว กระทรวงพาณิชย์ก็ไม่ได้เปลี่ยนรัฐมนตรี หรือที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย จะอภิปรายตนก็ไม่ได้เปลี่ยนไปไหนเหมือนกัน การกล่าวหาเรื่องทุจริตของฝ่ายค้านนั้นเป็นเพียงนามธรรม เพราะจะยื่นญัตติถอดถอนต้องมีหลักฐานอ้างอิง หาไม่แล้วก็เข้าข่ายยื่นความเท็จ อาจจะเป็นคดีความกันอีก
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาตนย้ำเสมอว่าหากพบทุจริตจำนำข้าวให้แจ้งเข้ามา จะดำเนินคดีให้ ตอนนี้ก็ให้ทางตำรวจไล่ค้นโกดังที่เหลืออีก 200 กว่าโกดัง หากพบว่ามีสูญหายอีกก็ให้จับ เหมือนกับที่ ต.จอหอ อ.เมืองฯ จ.นครราชสีมา ซึ่งพบการกระทำผิด 203 ล้านบาท ส่วนที่อื่นยังไม่พบ นอกจากนี้กรณีที่กล่าวหาว่ามีการปลอมใบประทวน ทางกระทรวงพาณิชย์ก็ยืนยันว่ามีขั้นตอนในการควบคุมอยู่ หรือที่มีนักวิชาการบอกว่าโครงการนี้ได้กันแต่หัวคะแนนพรรคเพื่อไทย ก็ต้องทำความเข้าใจว่าใครมีข้าวได้ร่วมโครงการทุกคน ถ้าหัวคะแนนทำนาก็มีสิทธิ์ ปัญหาที่เกิดขึ้นก็เพราะพวกพ่อค้าส่งออกขาดรายได้เท่านั้น โดยเฉพาะโครงการจำนำข้าวที่ทำให้ชาวนารวย ประชาชนพอใจ ฝ่ายค้านจึงกลัวว่าเลือกตั้งครั้งหน้าจะแพ้อีก จึงออกมาโจมตีกัน