บุรีรัมย์ - รองผู้ว่าฯ บุรีรัมย์สั่งตั้งชุดเฉพาะกิจลงพื้นที่ตรวจจับทุจริตจำนำข้าวโรงสีทั้งในและนอกพื้นที่ป้องกันทุจริตซ้ำรอย ขณะตำรวจเร่งสอบปากคำเกษตรกรและรวบรวมหลักฐาน ออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการโกงจำนำข้าวปีที่แล้วกว่า 44 ล้าน เพิ่มอีกกว่า 10 รายภายในสัปดาห์หน้า แฉมีทั้งนักการเมืองและเครือญาติโรงสี หลังจับกุมเจ้าของโรงสีและเจ้าหน้าที่แล้ว 5 ราย
วันนี้ (1 พ.ย.) นายพินิจ บุญเลิศ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ได้สั่งให้คณะกรรมการติดตามกำกับดูแลการรับจำนำข้าวระดับจังหวัด จ.บุรีรัมย์ ตั้งชุดเฉพาะกิจ โดยมีรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์เป็นหัวหน้าชุด ร่วมกับฝ่ายปกครอง, ตัวแทนสำนักงานพาณิชย์จังหวัด, การค้าภายในจังหวัด, เกษตรจังหวัด, สหกรณ์จังหวัด และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) รวมจำนวน 4 ชุด เพื่อลงพื้นที่จู่โจมสุ่มตรวจความผิดปกติในการรับจำนำข้าว ยังโรงสีทั้งในและนอกพื้นที่ที่สมัครเข้าร่วมโครงการทุกแห่ง เพื่อป้องกันการกระทำทุจริตซ้ำรอยปีที่ผ่านมา ทั้งเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่เกษตรกรด้วย
สำหรับความคืบหน้าคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2554/55 ในเขตพื้นที่ อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ที่สร้างความเสียหายให้แก่งบประมาณของรัฐกว่า 44 ล้านบาทนั้น ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำเกษตรกรที่มีส่วนพัวพันไปแล้วกว่า 300 ปากจากทั้งหมด 459 ราย และกำลังเร่งรวบรวมหลักฐานเพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการในการทุจริตเพิ่มอีกกว่า 10 ราย ซึ่งในจำนวนนี้มีทั้งนักการเมืองท้องถิ่น และเครือญาติของเจ้าของโรงสีที่ถูกจับกุมไปแล้วก่อนหน้านี้ โดยทางตำรวจยืนยันว่าจะสามารถยื่นศาลขออนุมัติออกหมายจับผู้ร่วมกระทำผิดทั้งหมดได้ภายในสัปดาห์หน้า
ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย ทั้งเจ้าของโรงสีข้าวและเจ้าหน้าที่องค์การคลังสินค้า (อคส.) ที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ กำลังอยู่ระหว่างการประกันตัวเพื่อสู้คดีในชั้นศาล
ด้านนายสุทธิศักดิ์ พรหมบุตร การค้าภายในจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า การตั้งชุดเฉพาะกิจเข้าไปสุ่มตรวจจุดรับจำนำข้าวทั้งในและนอกพื้นที่นั้น เป็นอีกมาตรการหนึ่งในการป้องกันการกระทำทุจริตในโครงการฯ นอกเหนือจากที่มีการส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยงานภาครัฐ และตัวแทนเกษตรกรเข้าไปประจำจุดรับจำนำอยู่แล้ว
ส่วนการเปิดจุดรับจำนำขณะนี้เปิดไปแล้ว 10 จุด จากทั้งหมด 19 จุด ที่เหลือคาดจะทยอยเปิดครบทุกแห่งภายในสัปดาห์นี้
นอกจากนี้ยังมีโรงสีที่ยื่นขอเปิดจุดจำนำนอกพื้นที่อีกจำนวน 4 แห่ง คือ อ.บ้านใหม่ไชยพจน์, พุทไธสง, นางรอง และ อ.หนองหงส์ ซึ่งเป็นอำเภอที่ไม่มีจุดจำนำในพื้นที่ หรือมีน้อยไม่เพียงพอ ซึ่งขณะนี้ได้ผ่านการรับรองจากคณะอนุกรรมการระดับอำเภอแล้ว และจะนำเข้าที่ประชุมคณะอนุกรรมการฯ ระดับจังหวัดเพื่อพิจารณาอนุมัติในวันที่ 9 พ.ย.นี้