บุรีรัมย์ - “พล.ต.ต.จักรทิพย์” รอง ผบช.ภ.3 รุดลงพื้นที่เร่งรัดติดตามคดีโกงจำนำข้าวบุรีรัมย์กว่า 44 ล้าน ระบุ “ผบ.ตร.” ขีดเส้นต้องแล้วเสร็จภายใน 15 พ.ย.นี้ ขณะ ตร.เร่งสอบปากคำเกษตรกร 459 ราย เหลือ 90 ราย เตรียมรวบรวมหลักฐานออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการเพิ่มอีกกว่า 20 ราย ภายในสัปดาห์หน้า แฉมีทั้งนักการเมือง และเครือญาติโรงสี หลังจับกุมเจ้าของโรงสี และเจ้าหน้าที่แล้ว 5 ราย
วันนี้ (2 พ.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น.ที่ สภ.หนองกี่ อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ พล.ต.ต.จักรทิพย์ โหละสุตสกุล รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (รอง ผบช.ภ.3) ได้ลงพื้นที่เร่งรัดติดตามคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2554/55 ในเขตพื้นที่ อ.หนองกี่ และพื้นที่ใกล้เคียง
หลังตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งทีมพนักงานสอบสวนกว่า 20 นาย เรียกสอบปากคำเกษตรกร จำนวน 459 ราย ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบพบมีการปลอมแปลงใบชั่งน้ำหนักสอดแทรกกับฉบับจริงกว่า 800 ใบ เพื่อนำไปประกอบเอกสารยื่นขอออกใบประทวนกับเจ้าหน้าที่องค์การคลังสินค้า (อคส.) ก่อนนำไปเป็นหลักฐานขึ้นเงินกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จนสร้างความเสียหายแก่งบประมาณของรัฐกว่า 44 ล้านบาท โดยมีจำนวนเกษตรกรนำข้าวไปเข้าร่วมโครงการรับจำนำฯ กับท่าข้าวธนพลพืชผล ที่มีปัญหาการทุจริตดังกล่าว กว่า 2,000 ราย
ทั้งนี้ พล.ต.ต.รัฐพงษ์ ยิ้มใหญ่ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) บุรีรัมย์ พ.ต.อ.วิรัตน์ ถาดทอง รอง ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ และพนักงานสอบสวน ได้รายงานความคืบหน้าของคดีว่า ล่าสุด ขณะนี้การสอบสวนคืบหน้าไปมาก ได้เรียกสอบปากคำเกษตรกรไปแล้ว 369 ราย จากจำนวนเกษตรกร 459 ราย เหลือเพียง 90 รายและกำลังเร่งรวบรวมหลักฐานเพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการในการทุจริตเพิ่มอีกกว่า 20 ราย ซึ่งในจำนวนนี้ มีทั้งนักการเมืองท้องถิ่น และเครือญาติของเจ้าของโรงสีที่ถูกจับกุมไปแล้วก่อนหน้านี้ โดยทางตำรวจยืนยันว่าจะสามารถยื่นศาลขออนุมัติออกหมายจับผู้ร่วมกระทำผิดทั้งหมดได้ภายในสัปดาห์หน้า
ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย ทั้งเจ้าของโรงสีข้าว และเจ้าหน้าที่องค์การคลังสินค้า (อคส.) ที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้กำลังอยู่ระหว่างการประกันตัวเพื่อสู้คดีในชั้นศาล
พล.ต.ต.จักรทิพย์ โหละสุตสกุล รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 เปิดเผยว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) โดย พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)ได้เร่งรัดการสอบสวนให้ทุกพื้นที่ที่มีคดีทุจริตจำนำข้าวในปีการผลิต 2554/55 จะต้องสอบสวนให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 15 พ.ย.นี้ จึงได้มาเร่งรัดติดตามการสอบสวนคดีทุจริตจำนำข้าวที่ อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ขณะนี้การสอบสวนคืบหน้าไปมาก เหลือพยานเพียง 90 ปาก คาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะสอบพยานเสร็จทั้งหมด และสามารถสรุปสำนวนส่งให้อัยการได้
ส่วนการสอบสวนขณะนี้จะต้องมีการออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมอีกกว่า 20 ราย จากการตรวจสอบมีหลายรายก็ต้องการจะขอเข้ามามอบตัว ซึ่งทางพนักงานสอบสวนอยู่ในระหว่างรวบรวมหลักฐาน คาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะสามารถดำเนินการได้
พล.ต.ต.จักรทิพย์ กล่าวต่อว่า สำหรับโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2555/56 ที่ดำเนินโครงการอยู่ในขณะนี้ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้กำชับให้ตำรวจทุกพื้นที่ดูแลตั้งแต่เบื้องต้น ทั้งการตรวจสอบพื้นที่นาของเกษตรกรว่ามีจริงหรือเปล่า และจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำที่จุดรับจำนำข้าว จุดละ 2 นาย ต้องอยู่ตลอดในช่วงที่เปิดรับจำนำ เพื่อป้องกันทุจริต และยังมีในส่วนของตำรวจภูธรภาค และกองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัด ออกไปตรวจสอบสืบสวนหาข่าวข้อมูลที่อาจจะมีการทุจริตเกิดขึ้น เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดมีเหตุซ้ำรอยเหมือนปีที่แล้ว
“ขณะนี้ ทาง พล.ต.ท.เชิด ชูเวช ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ได้สั่งกำชับตำรวจในพื้นที่ 8 จังหวัด ที่รับผิดชอบให้เพิ่มมาตรการควบคุมดูแลโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันการทุจริตที่อาจจะเกิดขึ้นในทุกรูปแบบ” พล.ต.ต.จักรทิพย์กล่าว