พิจิตร - ชลประทานพิจิตรคาดแล้งปีนี้แรง เหตุฝนสั้น น้ำเหนือเขื่อนมีน้อย แม่น้ำน่าน-แม่น้ำยมลดฮวบน่าตกใจ วันเดียวน้ำลงเป็นเมตร เตือนชาวนาราคาข้าว 15,000 บาทล่อใจ เกรงแห่ทำนาปรังจะเปิดศึกแย่งน้ำ เผยปีนี้แผนปล่อยน้ำถึงปลายเจ้าพระยาน้อยกว่าปีที่แล้วถึง 20%
นายประเวศน์ ศิริศิลป์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพิจิตร เปิดเผยถึงปริมาณน้ำเพื่อใช้ทำนาในเขตพื้นที่จังหวัดพิจิตรว่าอยู่ในสภาวะน้ำน้อย เนื่องจากขณะนี้น้ำในแม่น้ำยมเริ่มลดลงอย่างรวดเร็ว โดยวันนี้แม่น้ำยมน้ำได้ลดลงต่ำกว่าตลิ่งเกือบ 3 เมตร
ส่วนแม่น้ำน่านระดับน้ำลดลงถึง 92 ซม. เมื่อวันที่ 28 ต.ค. 55 และวานนี้ (29 ต.ค.) ก็ลดลงอีก 50 ซม. ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำน่านต่ำกว่าตลิ่งถึง 8 เมตร ซึ่งเป็นลางบอกเหตุส่อเค้าที่จะเกิดการขาดแคลนน้ำ
ขณะนี้มีเพียงน้ำคาทุ่งรับน้ำเพียงเล็กน้อย ส่วนน้ำเหนือเขื่อนภูมิพลมีเพียง 64% น้ำเหนือเขื่อนสิริกิติ์มีเพียง 69% น้ำเหนือเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จ.พิษณุโลก มีเพียง 78% ซึ่งตามแผนปฏิบัติการจ่ายน้ำของกรมชลประทานปีนี้จะจ่ายน้ำให้ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายปากน้ำเจ้าพระยามีไม่เกิน 8,000 ล้านลูกบาศก์เมตร น้อยกว่าปีที่แล้วถึง 20%
ดังนั้นจึงขอให้ผู้ที่จะเพาะปลูกพืชหรือทำนาต้องวางแผนการใช้น้ำให้รัดกุม เพราะปีนี้น้ำน้อยส่อเค้าว่าแล้งแน่
ส่วนการทำนาในเขตพื้นที่จังหวัดพิจิตร นายประเวศน์บอกว่า ปีนี้คาดว่าชาวนาพิจิตรจะทำนาปรังเกือบ 1 ล้านไร่เพราะรัฐบาลใช้นโยบายจำนำข้าวตันละ 15,000 บาท อยู่ในเขตรับน้ำชลประทานมีพื้นที่ 4 แสนไร่ อีก 6 แสนไร่อยู่นอกเขตชลประทานพิจิตร แต่จะต้องขอรับน้ำจากแม่น้ำปิง จังหวัดกำแพงเพชร ผ่านคลองท่อทองแดง, วังบัว, วังยาง ซึ่งก็อาจผันน้ำมาให้ แต่จะไม่มากมายเหมือนปีที่ผ่านมา
ดังนั้น ชาวนาจะทำนาปรังต้องมีแหล่งน้ำใต้ดิน หรือมีบ่อบาดาล, มีบ่อ, มีสระในนา เพราะจะมาหวังพึ่งน้ำจากชลประทานเต็ม 100% คงเป็นไปไม่ได้ และขอแนะนำให้เริ่มทำนาปรังตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนเพื่อหนีภัยหนาว ถ้าทำนาปรังในตอนนี้ ข้าวจะตั้งท้องออกรวงเดือนธันวาคม 55 ก็จะต้องเจอกับหน้าหนาวพอดี ซึ่งจะก่อให้เกิดโรคเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล และโรคแมลงบั่วที่จะเจริญเติบโตและแพร่พันธุ์ได้ดีในช่วงแล้งและอากาศเย็น