หวั่นบุคลากรโรงแรมมืออาชีพเกิดปัญหาสมองไหล หลังไทยเปิด AEC

ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผู้ประกอบการโรงแรมเมืองพัทยา หวั่นไทยเปิดประเทศสู่ประชาคมอาเซียนจะทำให้บุคลากรโรงแรมในระดับมืออาชีพของไทยเกิดปัญหาสมองไหล ส่วนแรงงานภาคปฏิบัติอาจถูกต่างชาติเข้ามาแย่งงาน ซ้ำ กลุ่มทุนต่างชาติยังจะหลั่งไหลเข้ามาในภาคธุรกิจโรงแรม แชร์ส่วนแบ่งตลาดของผู้ประกอบการไทยมากขึ้น จำต้องเร่งปรับรูปแบบดำเนินงานเพื่อลดค่าใช้จ่าย และพัฒนาศักยภาพบุคลากรเพื่อความอยู่รอด

ดร.วีระวัฒน์ ค้าขาย รองนายกเมืองพัทยา ในฐานะผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมขนาดเล็กในเมืองพัทยา เผยถึงข้อดีและข้อเสียของธุรกิจโรงแรมในเมืองพัทยา หลังไทยเปิดประเทศสู่ประชาคมอาเซียน หรือ AEC ว่า ข้อดีก็คือ การที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยจะได้รับการพัฒนามากขึ้นจากการเข้ามาของบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถด้านภาษา ซึ่งในแง่งานบริการแล้วคนไทยสามารถแข่งขันกับคู่แข่ง ได้เป็นอย่างดี เพราะข้อได้เปรียบเรื่องการมีหัวใจบริการ

แต่ในเรื่องภาษาของพนักงานระดับล่างอาจเสียเปรียบ เพราะในอนาคตแรงงานระดับล่างจากต่างชาติจะเข้ามาแทนที่แรงงานไทยที่มักเลือกงานและไม่มีการพัฒนาศักยภาพของตน จากนโยบายปรับค่าแรงขั้นต่ำของไทย

“AEC จะทำให้คนในภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมต่างๆ ของไทยเกิดการพัฒนาเพราะจะต้องเจอกับการแข่งขันในหลายรูปแบบ ซึ่งในแง่การท่องเที่ยวแล้วถือว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่เรื่องที่น่ากลัวก็คือ หากนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในธุรกิจโรงแรมมากกว่าที่เป็นอยู่ ปัญหาด้านการแข่งขันเรื่องราคาก็จะเกิดขึ้นมากกว่าที่เป็นอยู่เช่นกัน ซึ่งเมื่อถึงวันนั้นผู้ประกอบการไทยจะแย่ และปัญหาที่ตามมาคือเรื่องของงานบริการที่อาจลดลง ส่วนผู้เข้าพัก แม้จะมีตัวเลือกในการเข้าพักมากขึ้น แต่ก็ต้องเลือกว่าจะจ่ายในราคาถูกแล้วยอมรับเรื่องงานบริการที่ลดลง หรือจ่ายสูงขึ้น เพื่อแลกกับงานบริการที่ดีกว่า ”

ดร.วีระวัฒน์ ยังเผยอีกว่า สิ่งที่นักลงทุนไทยในภาคธุรกิจโรงแรมจะต้องปรับตัวในขณะนี้ คือการแสวงหาลู่ทางลงทุนไปยังประเทศที่มีแนวโน้มการเติบโตทางธุรกิจและการท่องเที่ยว อย่าง ลาวและพม่า เพราะเมื่อมีการเปิดประเทศแล้วแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในไทยก็พร้อมเดินทางกลับประเทศของตนเช่นกัน

เช่นเดียวกับ นางโสภิญ เทพจักร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไดอานา กรุ๊ป จำกัด ผู้บริหารโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ในเครือไดอาน่า เผยว่าการเปิดประเทศสู่ AEC จะทำให้ผู้ประกอบการมีทางเลือกเกี่ยวกับแรงงานระดับล่างมากขึ้น แต่คนที่มีคุณภาพและทำงานแบบมืออาชีพในภาคธุรกิจโรงแรมอาจเดินทางไปทำงานในประเทศที่มีการจ้างงานที่แพงกว่า ซึ่งจะทำให้เจ้าของธุรกิจชาวไทยเกิดความยากลำบากในการแข่งขันทางธุรกิจ ที่ต้องเจอกับทุนต่างชาติที่เข้ามาแชร์ส่วนแบ่งการตลาด

แต่ข้อดีของ AEC ก็คือ จะทำให้ประเทศในแถบอาเซียนมีความเป็นหนึ่งเดียวกัน และคนรุ่นใหม่จะมีโอกาสและทางเลือกในการทำงานใน 10 ประเทศของเอเซียมากขึ้น และการพัฒนาทางเศรษฐกิจในด้านต่างๆ ก็จะเติบโตตาม

“แต่ปัญหาคือพื้นฐานทางการศึกษาของคนในประเทศไทยส่วนใหญ่ยังน้อยอยู่ ซึ่งคนที่มีความรู้น้อยจะเกิดความเครียดจากการทำงานในอนาคตที่อาจต้องเจอกับเจ้านายที่เป็นต่างชาติ ส่วนคนทำงานในระดับวิศวกรและพยาบาล ซึ่งคนไทยมีความสามารถเป็นที่ยอมรับอาจเกิดปัญหาสมองไหล ที่สำคัญ AEC อาจทำให้คนไทยเข้าถึงบริการทางการแพทย์ยากขึ้น เพราะต่างชาติที่เข้ามาจะแชร์งานบริการในโรงพยาบาลของรัฐ จนการให้บริการไม่ทั่วถึง”

นางโสภิญ ยังเผยอีกว่าในส่วนของโรงแรมในเครือไดอาน่า ขณะนี้ได้มีการปรับตัวเพื่อรองรับกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอีก 2-3 ปีข้างหน้า เช่น เร่งพัฒนาศักยภาด้านภาษาให้กับแรงงานในระดับล่าง และลดค่าใช้จ่ายด้านต่างๆ ด้วยการมองหาบริษัทเอกชนเข้ามารับช่วงการทำงานต่อ เช่น งานทำความสะอาดและการดูแลส่วนต่างๆ เพื่อลดค่าใช้จ่ายและรองรับการแข่งขันที่จะเกิดขึ้น

“เราต้องปรับตัวเองให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งหาก AEC เข้ามาผู้ประกอบการจะได้รับผลดีในเรื่องแรงงานระดับล่างที่จะมีเข้ามามาก แต่ฝ่ายบริหารก็จำเป็นต้องปรับปรุงในเรื่องภาษา เพราะอาจมีเจ้านายและลูกน้องเป็นชาวต่างชาติ ซึ่งในวันนี้ธุรกิจโรงแรมของเมืองพัทยาโตขึ้นเยอะ เราต้องยอมรับเรื่องการถูกแบ่งเค้ก และในอนาคตธุรกิจโรงแรมจะทำยากขึ้นจากการแข่งขันที่มีสูง โดยเฉพาะผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในประเทศแถบยุโรปที่จะทำให้การเดินทางเข้ามาของนักธุรกิจมีน้อยลง เราจึงมองหาตลาดคนพิการ และกลุ่มประเทศใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ” นางโสภิญ กล่าว