เอกชนท่องเที่ยวอัดข้อมูล “นายกฯ ปู” เสนอแผนระยะกลาง-ยาว ทำแหล่งท่องเที่ยวแมนเมด และสร้างจุดต่างหนีพม่า พร้อมนัดครั้งหน้าประชุมเวิร์กชอป 17 มิถุนายน 55 เปรยการประชุมนี้ไร้เงากระทรวงการท่องเที่ยวฯ
นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เปิดเผยว่า การเข้าร่วมประชุมกับ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อหารือถึงแนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยมีเป้าหมายการสร้างรายได้จากอุตสาหกรรมนี้ 2 ล้านล้านบาทในปี 2558 ได้กำหนดให้ในวันที่ 17 มิถุนายน 55 ภาครัฐและเอกชนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจะร่วมประชุมเชิงปฏิบัติรการ (เวิร์กชอป) โดยมีนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ทำให้เอกชนที่เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ต่างพอใจที่รัฐบาลและผู้นำประเทศเห็นความสำคัญของอุตสาหกรรมนี้ และเข้ามาฟังปัญหาด้วยตัวเอง
ในการประชุมแอตต้าเสนอข้อมูลเบื้องต้น พร้อมให้รัฐบาลเร่งปรับปรุงมาตรฐานบริการด้านท่องเที่ยวที่ยังมีปัญหาการเอารัดเอาเปรียบ และการใช้อิทธิพลของคนในท้องถิ่นทำให้เกิดความเสียหายเชิงภาพลักษณ์ในตลาดต่างประเทศ รวมถึงปัญหาการขนส่งมวลชนที่ไม่สามารถรองรับการเดินทางจำนวนมากได้ เพราะตามเป้าหมายรายได้ที่รัฐบาลวางไว้ใน 3 ปีข้างหน้าจะมีนักท่องเที่ยวถึง 30 ล้านคน นอกจากนั้น ภาคเอกชนท่องเที่ยวยังจัดทำบทวิเคราะห์ข้อได้เปรียบและเสียเปรียบของการท่องเที่ยวไทยกับตลาดต่างประเทศ อย่างเกาหลี และสิงคโปร์ เพื่อขอให้รัฐบาลพิจารณาโครงการแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น (แมนเมด) เพื่อเพิ่มโอกาสทางการแข่งขัน นอกจากนั้น ยังนำเสนอข้อมูลคู่แข่งรายใหม่ อย่างพม่า ที่กำลังจะเปิดประเทศ ซึ่งหากรัฐบาลพม่ามีการวางแผนพัฒนาประเทศอย่างเป็นระบบ อาจมีผลให้ไทยเสียส่วนแบ่งทางการตลาดได้เนื่องจากมีทรัพยากรท่องเที่ยวที่คล้ายกัน
***เสนอแผนระยะสั้น-ยาวรองรับ****
ด้านนายเจริญ วังอนานนท์ เลขาธิการแอตต้า กล่าวว่า แอตต้าได้เสนอแผนพัฒนาการท่องเที่ยวระยะกลางและระยะยาวสอดคล้องกับเป้าหมายปี 2558 โดยโครงการระยะสั้น ได้แก่ 1. การผลักดันเทศกาลสงกรานต์ให้เป็นมหกรรมระดับโลก (เวิลด์อีเวนต์) อย่างแท้จริง ชูจุดเด่นด้านศิลปวัฒนธรรม, ความคิดสร้างสรรค์ และการขยายช่วงเวลาจัดงาน ย้ำจุดเด่นงานสงกรานต์ในแต่ละประเทศให้มีความแตกต่าง 2. เทศกาลลอยกระทง นำเสนอกิจกรรมการแสดงเชิงวัฒนธรรมประเพณี เปิดขายบัตรเข้าชม จัดนาน 6 เดือนถึง 1 ปี เน้นจับนักท่องเที่ยวตลาดบน
สำหรับโครงการระยะยาว เสนอให้รัฐบาลพิจารณาจัดสรรงบประมาณสร้างโครงการท่องเที่ยวในลักษณะแมนเมด เลือกทำเลที่เป็นศูนย์กลาง ดึงนักท่องเที่ยวในกลุ่มอินโดจีน ส่วนภาคอีสานเสนอสร้างแหล่งท่องเที่ยวธีมปาร์กขนาดใหญ่ เน้นสะท้อนจุดเด่นท้องถิ่นคู่ไปกับแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ให้ระบบการขนส่งเข้าถึงง่าย, การพัฒนาโครงสร้างด้านการจัดประชุมสัมมนา เป็นต้น
***ติงกระทรวงการท่องเที่ยวฯ หายไปไหน***
สิ่งที่ภาคเอกชนเป็นห่วงคือ ภาครัฐยังขาดการบูรณาการร่วมกัน เห็นได้จากการประชุมครั้งนี้ ยังขาดตัวแทนจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบงานด้านท่องเที่ยว จึงแนะนำให้ใช้การประชุมคณะกรรมการนโยบายท่องเที่ยวแห่งชาติ ซึ่งมีตัวแทนจากรัฐและเอกชนมาเร่งขับเคลื่อนงานให้เป็นรูปธรรม แต่ขอให้นายกรัฐมนตรีเข้ามาเป็นประธานการประชุมด้วยตัวเอง