โดย : ปิ่น บุตรี (pinn109@hotmail.com)
ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)มีแคมเปญท่องเที่ยวไทยออกมามากมาย มีหลายตัวประสบความสำเร็จโด่งดังค้างฟ้ามาจนถึงทุกวันนี้ และก็มีหลายตัวที่ไม่เวิร์ค ไม่โดนต้องพับโครงการเก็บไป
คนในแวดวงท่องเที่ยวส่วนใหญ่บอกกับผมเป็นเสียงเดียวกันว่า โครงการที่ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสูง มีการใช้เรียกขานชื่อแคมเปญติดปากมาถึงทุกวันนี้ก็คือ “อะเมซิ่งไทยแลนด์” (Amazing Thailand) ที่โด่งดังมากเมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว
ส่วนอีกหนึ่งโครงการก็คือ “อันซีนไทยแลนด์”(Unseen Thailand) ที่ออกมาในปี พ.ศ. 2546 ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จมากเช่นกัน สามารถคว้ารางวัล 1 ใน 3 ของแผนการตลาดประจำปีไปครอง จนต้องมีโครงการ “อันซีนไทยแลนด์ (ภาค)2” ออกตามมา
ทุกวันนี้ชื่ออันซีนไทยแลนด์ก็ยังคงถูกเรียกกันอย่างติดปาก ในขณะที่สถานที่ท่องเที่ยวประเภทอันซีนไทยแลนด์หลายๆแห่ง จากเดิมที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักหรือมีคนรู้จักกันพอประมาณก็กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับบิ๊กเนมขึ้นมา
สำหรับในปีนี้ทางภาครัฐโดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬากับ ททท. ก็ได้ออกแคมเปญท่องเที่ยวไทยตัวใหม่ขึ้นมาภายใต้ชื่อโครงการ “ปีมหัศจรรย์เมืองไทย ๒๕๕๕” (Miracle Year of Amazing Thailand 2012) หรือที่เรียกกันสั้นๆว่า “มหัศจรรย์เมืองไทย” หรือ “มิราเคิลไทยแลนด์” (Miracle Thailand)
มหัศจรรย์เมืองไทย เป็นโครงการที่มุ่งนำเสนอสิ่งโดดเด่นอันดึงดูดทางการท่องเที่ยวของไทย ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติ ศิลปวัฒนธรรม ประเพณี ซึ่งทางททท.จะคัดสรรสิ่งที่ถือเป็นความมหัศจรรย์ทางการท่องเที่ยวแบบไทยๆมานำเสนอ
ย้ำนะครับว่าเป็นความมหัศจรรย์แบบไทยๆภายใต้ฐานการคิดของททท. เพราะฉะนั้นหลายสิ่งหลายอย่างที่ททท.คิดว่ามหัศจรรย์ มันอาจดูไม่มหัศจรรย์หรือดูธรรมดาในสายตาของใครและใครหลายคนก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
โครงการนี้เดิมกำหนดว่าจะเปิดตัวตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ดันมาโดนความมหัศจรรย์ของนายกฯปูจากฝีมือการบริหารจัดการน้ำ ทำให้เกิดวิกฤติน้ำท่วมใหญ่จนต้องเลื่อนออกไปมาเป็นในปีนี้ ซึ่งมีกำหนดการคิกออฟเปิดตัวโครงการมหัศจรรย์เมืองไทยขึ้นในวันที่ 29 มีนาคม - 1เมษายน 2555 ณ เอ็กซิบิชั่น ฮอลล์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
ในการเปิดตัวครั้งนี้ทางททท.ได้จัดนิทรรศการ 7 โซนมหัศจรรย์ไว้ ซึ่งถือเป็นดังธีมหลักในการพิจารณาสิ่งมหัศจรรย์เมืองไทยในโครงการนี้ ได้แก่
1. มหัศจรรย์ใต้ฟ้าพระบารมี ซึ่งถือเป็นไฮไลท์สำคัญของงาน จัดแสดงนิทรรศการหลากมิติ แสดงให้เห็นถึงความมหัศจรรย์ในพระมหากรุณาธิคุณของทุกพระองค์ อีกทั้งยังสอดคล้องกับวัตถุประสงค์หลักของโครงการที่จัดทำขึ้นเพื่อร่วมเฉลิมฉลองในงานพระราชพิธีมหามงคลที่จะจัดขึ้นภายในปีนี้ ได้แก่ งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา งานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จะทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา และงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร จะทรงเจริญพระชนมายุ 60 พรรษา
2. มหัศจรรย์วิถีไทย นำเสนอวิถีชีวิตไทย อาทิ ตลาดน้ำ ตลาดโบราณ ตลาดดอกไม้(ปากคลองตลาด) ศิลปะการทำกรงนกเขาและนกหัวจุก
3. มหัศจรรย์มรดกไทย จัดแสดงให้เห็นถึงคุณค่าความอัศจรรย์แห่งมรดกไทย 3 ส่วนคือ โขน ดนตรีไทย และ มวยไทย
4. มหัศจรรย์ศิลปวัฒนธรรมและประเพณี นำเสนอการทอผ้าไหมไทย เครื่องเงิน เครื่องทองโบราณ และรถเทียนพรรษาแกะสลักขนาดใหญ่
5. มหัศจรรย์ธรรมชาติล้ำค่า นำเสนอความมหัศจรรย์ใหม่ล่าสุดทางธรรมชาติ บนผืนแผ่นดินอีสาน คือ ทะเลล้านบัว ที่ หนองหาน อ. กุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี
6. มหัศจรรย์ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ จัดแสดงวิวัฒนาการดั้งเดิมด้านการแพทย์แผนไทยสู่สุขภาพสมัยใหม่แบบมาตรฐานสากล เช่น จารึกวัดโพธิ์ตำนานฤาษีดัดตน ผลิตภัณฑ์สมุนไพรจากโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร์
7. มหัศจรรย์ครัวไทย นำเสนอการทำอาหารไทยแบบโบราณ อาหารไทยยอดนิยมที่ได้รับการจัดอันดับ มัสมั่น ผัดไทย ต้มยำกุ้ง ส้มตำ ความวิจิตรของอาหารชาววัง งานแกะสลักผักผลไม้และซุ้มจำหน่ายอาหารไทยสี่ภาค
นอกจากนี้ยังมีการจัดโซนมหัศจรรย์สงกรานต์ไทย ปี 2555 นำเสนอกิจกรรมงานสงกรานต์ที่มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว อาทิ สงกรานต์สุโขทัย เมืองมรดกโลก, สงกรานต์มอญสังขละบุรี, สงกรานต์แห่ต้นดอกไม้ ที่ อ.นาแห้ว จ.เลย, สงกรานต์สองแผ่นดินถิ่นแคบสุดของไทย(เพียง 450 เมตร) ที่ตราด - เกาะกง) และสงกรานต์นางดานที่นครศรีธรรมราช
และนั่นก็คือการฉายภาพเบื้องต้นของโครงการมหัศจรรย์เมืองไทย หรือ มิราเคิลไทยแลนด์ ในงานเปิดตัว ซึ่งในส่วนของชื่อแคมเปญนั้นถือว่ามีความสะดุดหูและฟังติดหูง่ายทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
ขณะที่ในเรื่องของแหล่งท่องเที่ยวหรือสิ่งดึงดูดทางการท่องเที่ยวหรือที่ทางททท.เขาเรียกว่าสินค้าทางการท่องเที่ยวนั้น วันนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปชัดว่ามหัศจรรย์เมืองไทยมีอะไรบ้าง แต่เท่าที่ผมรู้มาพอเลาๆ ทางททท.จะให้แต่ละจังหวัดคัดสรรสิ่งโดดเด่นด้านการท่องเที่ยวของแต่ละจังหวัดในระดับมหัศจรรย์เมืองไทยมา 1 อย่าง(ตามแนวคิดและหลักเกณฑ์ที่กำหนด) ไม่ว่าจะเป็น ธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยว ศิลปวัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต อาหารการกิน หรืออย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อนำไปทำการโฆษณาประชาสัมพันธ์ชักชวนคนมาเที่ยวในสถานที่ท่องเที่ยวนั้นๆหรือเที่ยวในสถานที่ท่องเที่ยวนั้นเชื่อมโยงกับสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆต่อไป
สำหรับสินค้าทางการท่องเที่ยวหนึ่งเดียวของบางจังหวัดในโครงการนี้ เท่าที่มีข่าวออกมาว่าน่าจะมาวินได้รับการคัดเลือก ก็มี เลยคัดเลือก“ภูกระดึง”แหล่งท่องเที่ยวอมตะชื่อดังของผู้รักความท้าทาย ระนองคัดเลือกน้ำแร่ร้อนธรรมชาติ”ที่ถือเป็นไฮไลท์ลายเซ็นประจำจังหวัดมาเป็นมหัศจรรย์น้ำแร่เมืองระนอง บุรีรัมย์คัดเลือก“มหัศจรรย์พนมรุ้ง” ที่เป็นปรากฏการณ์พระอาทิตย์สาดแสงส่องลอดช่องประตูทั้ง 15 ช่องของปราสาทหินพนมรุ้ง ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงใกล้สงกรานต์ของทุกๆปี
ส่วนที่ชุมพรตอนนี้คัดมา 2 สิ่ง เพื่อมาชิงดำกันในยกสุดท้ายอีกที ได้แก่ ฝ่ามือพระพุทธเจ้า“Hand’s Budda” ที่เกาะง่ามใหญ่ กับ กิจกรรมเพาะเลี้ยงม้าน้ำธรรมชาติ ที่บ้านท้องตมใหญ่ขณะที่อุดรธานีตอนนี้นอนมากับ ทะเลล้านบัว ที่หนองหาน อ.กุมภวาปี ซึ่งบทสรุปของสินค้าทางการท่องเที่ยวในโครงการนี้คงตามมาอีกไม่นาน
อย่างไรก็ดีในโครงการมหัศจรรย์เมืองไทยยังมีความ(คิด)มหัศจรรย์แอบแฝง นั่นก็คือเรื่องของพรีเซ็นเตอร์โครงการ ซึ่งมีข่าวออกมาว่าได้มีการทาบทามให้ นายกฯนกแก้ว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ในโครงการนี้ ดังเนื้อข่าวที่ว่า
...การส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยในโครงการ “มิราเคิลไทยแลนด์” ที่จะเริ่มต้นในเดือน เม.ย. ที่จะถึงนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวฯได้เรียนเชิญนายกรัฐมนตรีเป็นพรีเซ็นเตอร์ของโครงการ โดยจะมีการถ่ายทำรายการในรูปแบบเรียลลิตี้โชว์ โดยเป็นการแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวโดยนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะมีผลโดยตรงต่อการประชาสัมพันธ์ในโครงการทั้งในและต่างประเทศ
“สถานที่ที่ให้นายกรัฐมนตรีไปช่วยโปรโมทจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์แต่ยังไม่เป็นที่ร็จักของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมากนัก เช่น ทุ่งบัวตอง ซึ่งได้มีการเรียนท่านนายกฯ เบื้องต้นในที่ประชุมแล้ว ให้การตอบรับที่จะเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้”นายเจริญ(วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว)กล่าว...
และนั่นเป็นข่าวจากหน้า 4 หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันพฤหัสที่ 22 มี.ค. 55 ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ไปกล่าวในการประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาการท่องเที่ยว โดยรัฐบาลตั้งเป้าหลังเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 ไทยจะต้องมีปริมาณนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นจาก 19 ล้านคนในปัจจุบัน เพิ่มเป็น 30 ล้านคน
งานนี้หลังผมอ่านข่าวแล้วเล่นเอาหัวร่อมิได้ร่ำไห้มิออก เพราะขนาดมีโพยเธอยังอ่านผิดอ่านถูก แต่นี่เล่นจะไปถ่ายทำกรายการแบบเรียลลิตี้โชว์กันเลยทีเดียว ขณะที่เรื่องความรู้รอบตัวของนายกฯปูนั้นก็เป็นที่รับรู้กันว่าเธอมีมากน้อยแค่ไหน ทั้งหญ้าแพรก-หญ้าแฝก เรือดันน้ำ-เรือดำน้ำ หรือแม้กระทั่งเดือนพฤศจิกาคม ซึ่งถ้าเป็นจริงนายกฯปูบ้าจี้รับงาน คงมีเรื่องรั่วๆมาให้พูดกันอีกไม่หวาดไม่ไหว
อย่างไรก็ดีถ้าจำเป็นต้องให้เลือกระหว่างให้เจ๊ปูแดงเป็นนายกรัฐมนตรีกับเป็นพรีเซ็นเตอร์ท่องเที่ยวไทย
งานนี้ผมเลือกอย่างหลังสถานเดียว เพราะที่ผ่านมาผลงานเอาอยู่ของเธอพิสูจน์ชัดว่า ได้ทำประเทศชาติเสียหายไปมากจนเกินพอแล้ว
แต่...ถ้าจะให้มหัศจรรย์เมืองไทยจริงๆ เธอไม่ควรจะเป็นทั้งสองอย่างเป็นดีที่สุด
ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)มีแคมเปญท่องเที่ยวไทยออกมามากมาย มีหลายตัวประสบความสำเร็จโด่งดังค้างฟ้ามาจนถึงทุกวันนี้ และก็มีหลายตัวที่ไม่เวิร์ค ไม่โดนต้องพับโครงการเก็บไป
คนในแวดวงท่องเที่ยวส่วนใหญ่บอกกับผมเป็นเสียงเดียวกันว่า โครงการที่ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสูง มีการใช้เรียกขานชื่อแคมเปญติดปากมาถึงทุกวันนี้ก็คือ “อะเมซิ่งไทยแลนด์” (Amazing Thailand) ที่โด่งดังมากเมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว
ส่วนอีกหนึ่งโครงการก็คือ “อันซีนไทยแลนด์”(Unseen Thailand) ที่ออกมาในปี พ.ศ. 2546 ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จมากเช่นกัน สามารถคว้ารางวัล 1 ใน 3 ของแผนการตลาดประจำปีไปครอง จนต้องมีโครงการ “อันซีนไทยแลนด์ (ภาค)2” ออกตามมา
ทุกวันนี้ชื่ออันซีนไทยแลนด์ก็ยังคงถูกเรียกกันอย่างติดปาก ในขณะที่สถานที่ท่องเที่ยวประเภทอันซีนไทยแลนด์หลายๆแห่ง จากเดิมที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักหรือมีคนรู้จักกันพอประมาณก็กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับบิ๊กเนมขึ้นมา
สำหรับในปีนี้ทางภาครัฐโดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬากับ ททท. ก็ได้ออกแคมเปญท่องเที่ยวไทยตัวใหม่ขึ้นมาภายใต้ชื่อโครงการ “ปีมหัศจรรย์เมืองไทย ๒๕๕๕” (Miracle Year of Amazing Thailand 2012) หรือที่เรียกกันสั้นๆว่า “มหัศจรรย์เมืองไทย” หรือ “มิราเคิลไทยแลนด์” (Miracle Thailand)
มหัศจรรย์เมืองไทย เป็นโครงการที่มุ่งนำเสนอสิ่งโดดเด่นอันดึงดูดทางการท่องเที่ยวของไทย ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติ ศิลปวัฒนธรรม ประเพณี ซึ่งทางททท.จะคัดสรรสิ่งที่ถือเป็นความมหัศจรรย์ทางการท่องเที่ยวแบบไทยๆมานำเสนอ
ย้ำนะครับว่าเป็นความมหัศจรรย์แบบไทยๆภายใต้ฐานการคิดของททท. เพราะฉะนั้นหลายสิ่งหลายอย่างที่ททท.คิดว่ามหัศจรรย์ มันอาจดูไม่มหัศจรรย์หรือดูธรรมดาในสายตาของใครและใครหลายคนก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
โครงการนี้เดิมกำหนดว่าจะเปิดตัวตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ดันมาโดนความมหัศจรรย์ของนายกฯปูจากฝีมือการบริหารจัดการน้ำ ทำให้เกิดวิกฤติน้ำท่วมใหญ่จนต้องเลื่อนออกไปมาเป็นในปีนี้ ซึ่งมีกำหนดการคิกออฟเปิดตัวโครงการมหัศจรรย์เมืองไทยขึ้นในวันที่ 29 มีนาคม - 1เมษายน 2555 ณ เอ็กซิบิชั่น ฮอลล์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
ในการเปิดตัวครั้งนี้ทางททท.ได้จัดนิทรรศการ 7 โซนมหัศจรรย์ไว้ ซึ่งถือเป็นดังธีมหลักในการพิจารณาสิ่งมหัศจรรย์เมืองไทยในโครงการนี้ ได้แก่
1. มหัศจรรย์ใต้ฟ้าพระบารมี ซึ่งถือเป็นไฮไลท์สำคัญของงาน จัดแสดงนิทรรศการหลากมิติ แสดงให้เห็นถึงความมหัศจรรย์ในพระมหากรุณาธิคุณของทุกพระองค์ อีกทั้งยังสอดคล้องกับวัตถุประสงค์หลักของโครงการที่จัดทำขึ้นเพื่อร่วมเฉลิมฉลองในงานพระราชพิธีมหามงคลที่จะจัดขึ้นภายในปีนี้ ได้แก่ งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา งานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จะทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา และงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร จะทรงเจริญพระชนมายุ 60 พรรษา
2. มหัศจรรย์วิถีไทย นำเสนอวิถีชีวิตไทย อาทิ ตลาดน้ำ ตลาดโบราณ ตลาดดอกไม้(ปากคลองตลาด) ศิลปะการทำกรงนกเขาและนกหัวจุก
3. มหัศจรรย์มรดกไทย จัดแสดงให้เห็นถึงคุณค่าความอัศจรรย์แห่งมรดกไทย 3 ส่วนคือ โขน ดนตรีไทย และ มวยไทย
4. มหัศจรรย์ศิลปวัฒนธรรมและประเพณี นำเสนอการทอผ้าไหมไทย เครื่องเงิน เครื่องทองโบราณ และรถเทียนพรรษาแกะสลักขนาดใหญ่
5. มหัศจรรย์ธรรมชาติล้ำค่า นำเสนอความมหัศจรรย์ใหม่ล่าสุดทางธรรมชาติ บนผืนแผ่นดินอีสาน คือ ทะเลล้านบัว ที่ หนองหาน อ. กุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี
6. มหัศจรรย์ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ จัดแสดงวิวัฒนาการดั้งเดิมด้านการแพทย์แผนไทยสู่สุขภาพสมัยใหม่แบบมาตรฐานสากล เช่น จารึกวัดโพธิ์ตำนานฤาษีดัดตน ผลิตภัณฑ์สมุนไพรจากโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร์
7. มหัศจรรย์ครัวไทย นำเสนอการทำอาหารไทยแบบโบราณ อาหารไทยยอดนิยมที่ได้รับการจัดอันดับ มัสมั่น ผัดไทย ต้มยำกุ้ง ส้มตำ ความวิจิตรของอาหารชาววัง งานแกะสลักผักผลไม้และซุ้มจำหน่ายอาหารไทยสี่ภาค
นอกจากนี้ยังมีการจัดโซนมหัศจรรย์สงกรานต์ไทย ปี 2555 นำเสนอกิจกรรมงานสงกรานต์ที่มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว อาทิ สงกรานต์สุโขทัย เมืองมรดกโลก, สงกรานต์มอญสังขละบุรี, สงกรานต์แห่ต้นดอกไม้ ที่ อ.นาแห้ว จ.เลย, สงกรานต์สองแผ่นดินถิ่นแคบสุดของไทย(เพียง 450 เมตร) ที่ตราด - เกาะกง) และสงกรานต์นางดานที่นครศรีธรรมราช
และนั่นก็คือการฉายภาพเบื้องต้นของโครงการมหัศจรรย์เมืองไทย หรือ มิราเคิลไทยแลนด์ ในงานเปิดตัว ซึ่งในส่วนของชื่อแคมเปญนั้นถือว่ามีความสะดุดหูและฟังติดหูง่ายทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
ขณะที่ในเรื่องของแหล่งท่องเที่ยวหรือสิ่งดึงดูดทางการท่องเที่ยวหรือที่ทางททท.เขาเรียกว่าสินค้าทางการท่องเที่ยวนั้น วันนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปชัดว่ามหัศจรรย์เมืองไทยมีอะไรบ้าง แต่เท่าที่ผมรู้มาพอเลาๆ ทางททท.จะให้แต่ละจังหวัดคัดสรรสิ่งโดดเด่นด้านการท่องเที่ยวของแต่ละจังหวัดในระดับมหัศจรรย์เมืองไทยมา 1 อย่าง(ตามแนวคิดและหลักเกณฑ์ที่กำหนด) ไม่ว่าจะเป็น ธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยว ศิลปวัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต อาหารการกิน หรืออย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อนำไปทำการโฆษณาประชาสัมพันธ์ชักชวนคนมาเที่ยวในสถานที่ท่องเที่ยวนั้นๆหรือเที่ยวในสถานที่ท่องเที่ยวนั้นเชื่อมโยงกับสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆต่อไป
สำหรับสินค้าทางการท่องเที่ยวหนึ่งเดียวของบางจังหวัดในโครงการนี้ เท่าที่มีข่าวออกมาว่าน่าจะมาวินได้รับการคัดเลือก ก็มี เลยคัดเลือก“ภูกระดึง”แหล่งท่องเที่ยวอมตะชื่อดังของผู้รักความท้าทาย ระนองคัดเลือกน้ำแร่ร้อนธรรมชาติ”ที่ถือเป็นไฮไลท์ลายเซ็นประจำจังหวัดมาเป็นมหัศจรรย์น้ำแร่เมืองระนอง บุรีรัมย์คัดเลือก“มหัศจรรย์พนมรุ้ง” ที่เป็นปรากฏการณ์พระอาทิตย์สาดแสงส่องลอดช่องประตูทั้ง 15 ช่องของปราสาทหินพนมรุ้ง ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงใกล้สงกรานต์ของทุกๆปี
ส่วนที่ชุมพรตอนนี้คัดมา 2 สิ่ง เพื่อมาชิงดำกันในยกสุดท้ายอีกที ได้แก่ ฝ่ามือพระพุทธเจ้า“Hand’s Budda” ที่เกาะง่ามใหญ่ กับ กิจกรรมเพาะเลี้ยงม้าน้ำธรรมชาติ ที่บ้านท้องตมใหญ่ขณะที่อุดรธานีตอนนี้นอนมากับ ทะเลล้านบัว ที่หนองหาน อ.กุมภวาปี ซึ่งบทสรุปของสินค้าทางการท่องเที่ยวในโครงการนี้คงตามมาอีกไม่นาน
อย่างไรก็ดีในโครงการมหัศจรรย์เมืองไทยยังมีความ(คิด)มหัศจรรย์แอบแฝง นั่นก็คือเรื่องของพรีเซ็นเตอร์โครงการ ซึ่งมีข่าวออกมาว่าได้มีการทาบทามให้ นายกฯนกแก้ว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ในโครงการนี้ ดังเนื้อข่าวที่ว่า
...การส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยในโครงการ “มิราเคิลไทยแลนด์” ที่จะเริ่มต้นในเดือน เม.ย. ที่จะถึงนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวฯได้เรียนเชิญนายกรัฐมนตรีเป็นพรีเซ็นเตอร์ของโครงการ โดยจะมีการถ่ายทำรายการในรูปแบบเรียลลิตี้โชว์ โดยเป็นการแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวโดยนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะมีผลโดยตรงต่อการประชาสัมพันธ์ในโครงการทั้งในและต่างประเทศ
“สถานที่ที่ให้นายกรัฐมนตรีไปช่วยโปรโมทจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์แต่ยังไม่เป็นที่ร็จักของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมากนัก เช่น ทุ่งบัวตอง ซึ่งได้มีการเรียนท่านนายกฯ เบื้องต้นในที่ประชุมแล้ว ให้การตอบรับที่จะเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้”นายเจริญ(วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว)กล่าว...
และนั่นเป็นข่าวจากหน้า 4 หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันพฤหัสที่ 22 มี.ค. 55 ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ไปกล่าวในการประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาการท่องเที่ยว โดยรัฐบาลตั้งเป้าหลังเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 ไทยจะต้องมีปริมาณนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นจาก 19 ล้านคนในปัจจุบัน เพิ่มเป็น 30 ล้านคน
งานนี้หลังผมอ่านข่าวแล้วเล่นเอาหัวร่อมิได้ร่ำไห้มิออก เพราะขนาดมีโพยเธอยังอ่านผิดอ่านถูก แต่นี่เล่นจะไปถ่ายทำกรายการแบบเรียลลิตี้โชว์กันเลยทีเดียว ขณะที่เรื่องความรู้รอบตัวของนายกฯปูนั้นก็เป็นที่รับรู้กันว่าเธอมีมากน้อยแค่ไหน ทั้งหญ้าแพรก-หญ้าแฝก เรือดันน้ำ-เรือดำน้ำ หรือแม้กระทั่งเดือนพฤศจิกาคม ซึ่งถ้าเป็นจริงนายกฯปูบ้าจี้รับงาน คงมีเรื่องรั่วๆมาให้พูดกันอีกไม่หวาดไม่ไหว
อย่างไรก็ดีถ้าจำเป็นต้องให้เลือกระหว่างให้เจ๊ปูแดงเป็นนายกรัฐมนตรีกับเป็นพรีเซ็นเตอร์ท่องเที่ยวไทย
งานนี้ผมเลือกอย่างหลังสถานเดียว เพราะที่ผ่านมาผลงานเอาอยู่ของเธอพิสูจน์ชัดว่า ได้ทำประเทศชาติเสียหายไปมากจนเกินพอแล้ว
แต่...ถ้าจะให้มหัศจรรย์เมืองไทยจริงๆ เธอไม่ควรจะเป็นทั้งสองอย่างเป็นดีที่สุด