บุรีรัมย์ - เกษตรกรบุรีรัมย์ค้างชำระหนี้ ธ.ก.ส.กว่า 300 ราย แห่เข้าร่วมโครงการไกล่เกลี่ยก่อนฟ้อง รวมมูลหนี้ร่วม 100 ล้านบาท เผยส่วนมากมีปัญหาใช้จ่ายเงินกู้ผิดวัตถุประสงค์ รายได้ไม่เพียงพอใช้จ่ายในครอบครัว และประสบภัยธรรมชาติ
วันนี้ (28 ส.ค.) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรจังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกับศาลจังหวัด จัดโครงการ “ร่วมมือ ร่วมใจ ไกล่เกลี่ย เพื่อคุณภาพชีวิตเกษตรกร เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษามหาราชินี” ที่หอประชุมศาลาประชาคม หลังศาลากลางจังหวัดบุรีรัมย์ โดยมีนายสมภาศ ทองหวาน ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นประธาน
โครงการไกล่เกลี่ยที่ทาง ธ.ก.ส.ร่วมกับศาลจังหวัดบุรีรัมย์จัดขึ้นในครั้งนี้ เพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบปัญหาภัยธรรมชาติ ภาวะเศรษฐกิจ มีรายได้ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายในครอบครัว และนำเงินกู้ไปใช้จ่ายผิดวัตถุประสงค์ จนไม่สามารถชำระหนี้ให้แก่ทางธนาคารได้ตามเงื่อนไขสัญญา
จากการเปิดโครงการไกล่เกลี่ยในครั้งนี้ได้มีเกษตรกรที่ค้างชำระหนี้รายละ 500,000 บาทขึ้นไป เป็นระยะเวลานานกว่า 3 ปี ที่เกรงจะถูกฟ้องร้องดำเนินคดี มาเข้าร่วมโครงการฯ ทั้งสิ้นกว่า 300 ราย รวมมูลหนี้ที่ค้างชำระร่วม 100 ล้านบาท จากที่ทั้งจังหวัดมีเกษตรกรขึ้นทะเบียนเป็นสมาชิกลูกค้า ธ.ก.ส.กว่า 110,000 ราย
ด้าน นายพงษ์บัณฑิต อรรถบท รองผู้อำนวยการฝ่ายกฎหมาย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร กล่าวว่า ที่ผ่านมา ทาง ธ.ก.ส.ได้ปล่อยสินเชื่อให้แก่เกษตรกรที่เป็นสมาชิกไปลงทุนประกอบอาชีพ และทำการเกษตร แต่ประสบกับภาวะทางเศรษฐกิจ มีรายได้ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายในครอบครัว และนำเงินกู้ไปใช้จ่ายผิดวัตถุประสงค์ จนไม่สามารถชำระหนี้ให้แก่ ธ.ก.ส.ได้ตามเงื่อนไขสัญญาจำนวนมาก
ดังนั้น เชื่อว่าโครงการไกล่เกลี่ยดังกล่าวจะสามารถลดปริมาณคดีที่จะขึ้นสู่ศาล อีกทั้งยังเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมศาล และยังจะได้รับสิทธิพิเศษในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย และไม่ต้องเป็นผู้ถูกแบล็กลิสต์จากทางธนาคารและสถาบันการเงินอื่น
นอกจากนั้น เกษตรกรที่ผ่านการไกล่เกลี่ย และชำระหนี้ได้ตรงตามกำหนด ทาง ธ.ก.ส. ยังได้รับพิจารณาให้เป็นลูกค้าที่ไม่มีหนี้เสีย และสามารถกู้ยืมเงินไปลงทุนได้ตามปกติอีกด้วย