พัทลุง - ราคายางร่วง 3 วัน ลง 10 บาท/กก. ขาดทุน 1,000 ล้านบาททั่วภาคใต้ ชาวสวนยางหวั่นสิ้นปี 55 หนี้เสียท่วม ผวามีการฆ่าตัวตาย ระบุ รัฐบาลจะต้องช่วยเหลือด่วน จี้ อสย. เร่งเพิ่มพื้นที่ทำการรับซื้อยางทั่วภาคใต้
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.พัทลุง ว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมา การซื้อขายน้ำยางสดของสถาบันเกษตรกร ราคาน้ำยางสดอยู่ที่ 80 บาท/กก. ส่วนของของพ่อค้าเอกชนซื้อขาย 77 บาท/กก. ซึ่งขณะนี้ น้ำยางสดราคาได้ตกลงมามาก จากเดิม 84 และ 85 บาท/กก.
นายวัน เผือกนุช สมาชิกเครือข่ายชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย จำกัด (ชสยท.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 6-9 ส.ค.ที่ผ่านมา ราคายางพาราได้ตกลงมาประมาณ 10 บาท ทำให้พ่อค้าเอกชนในท้องถิ่นขาดทุน โดยภาพรวมทั่วภาคใต้ ประมาณ 1,000 ล้านบาท เฉพาะเมื่อวันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา ขาดทุนบางราย 4 ล้านบาท บางราย 3 ล้านบาท และรายขนาดเล็กประมาณ 2 ล้านบาท
“ภายในสิ้นปี 2555 จะเห็นเกิดภาวะหนี้เสียล้น จะมีผลกระทบต่อสถาบันการเงินอย่างเลี่ยงไม่พ้น และอาจจะได้เห็นพ่อค้าฆ่าตัวตายก็ได้ ทำไมราคายางพาราจึงเป็นเช่นนี้ ในขณะที่ราคาตลาดโลกไม่ตกต่ำถึงขนาดนี้ และน้ำมันดิบก็ราคายังอยู่ที่กว่า 90 เหรียญสหรัฐ เกิดอะไรขึ้นกับตลาดยางพารา ปัญหาสำคัญที่เห็นชัดขณะนี้รัฐบาลจะต้องช่วยเหลือพ่อค้าเอกชนอย่างเร่งด่วนแล้ว”
นายวัน ยังกล่าวอีกว่า ขณะนี้ ราคายางพาราของพ่อค้าเอกชนในท้องถิ่น ภาคใต้ตอนบนราคากลางเคลื่อนไหวอยู่ที่ 75 บาท/กก. ภาคใต้ตอนล่าง 77 บาท/กก. แต่สำหรับของสหกรณ์ สถาบันเกษตรกร น้ำยางสดราคาอยู่ที่ 92 บาท ยางแผ่นดิบ 96 บาท
“ตอนนี้เป็นสิ่งที่ดีมากที่รัฐบาลมีนโยบายให้รวมกลุ่มชาวสวนยางแล้วตั้งสถาบันเกษตรกร เพื่อเข้าสู่โครงการรักษาเสถียรภาพยาง มูลค่า 15,000 ล้านบาท ชาวสวนยางจะเกิดความเข้มแข็ง และจะได้ผลิตยางที่มีคุณภาพ รัฐบาลจะต้องดำเนินการโครงการอย่างต่อเนื่อง และประการสำคัญ องค์การสวนยาง (อสย.) จะต้องเพิ่มจุดรับซื้อขึ้นอีกจำนวนหลายแห่ง เพราะหลายพื้นที่ชาวสวนยางไม่มีสถานที่ขายน้ำยาง” นายวันระบุ