แนะลงทุนบอนด์สั้นลดเสี่ยง คาดดอกเบี้ยไทยลดอีก

บลจ.แอสเซทพลัสคาด กนง.อาจลดดอกเบี้ยช่วงสิ้นปีท่ามกลางความเปราะบางของเศรษฐกิจโลก แนะพักเงินกองตราสารระยะสั้น ล่าสุดจัดอีก 3 กองชูผลตอบแทนสูงสุด 3.18% เปิดขายตั้งแต่ 6 สิงหาคมนี้

นางสาวฤดี ปติอารยกุล ผู้จัดการกองทุนอาวุโส กล่าวว่า แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของประเทศไทยหลังจากนี้คาดว่าในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) อาจมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงได้ภายในสิ้นปีนี้ ส่วนอัตราเงินเฟ้อในขณะนี้ยังคงอยู่ในกรอบเป้าหมายตามการประเมินของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)

ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากภาวะเศรษฐกิจโลกโดยรวมยังอ่อนแอจากความเปราะบางของเศรษฐกิจในสหรัฐฯ รวมถึงความล่าช้าจากการแก้ปัญหาหนี้สาธารณะของกลุ่มประเทศในแถบยุโรปได้กลับมาสร้างความกังวลต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงอีกครั้ง ซึ่งสะท้อนให้เห็นจากการปรับตัวลดลงของเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรไทย 1-9 Basis points กอปรกับหลายประเทศเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อตราสารหนี้ที่มีอายุคงเหลือมากขึ้น

ด้าาน นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการขายและการตลาด กล่าวว่า การเติบโตของเศรษฐกิจภายในประเทศยังมีศักยภาพท่ามกลางความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลก ในด้านการลงทุนยังคงแนะนำให้ลงทุนในตราสารระยะสั้น โดยในวันที่ 6 และ 8 สิงหาคมนี้บริษัทฯ จะ Rollover กองทุนตราสารหนี้ 3 กองทุนตราสารหนี้ ได้แก่ วันที่ 6 สิงหาคมบริษัทฯ จะ Rollover กองทุนเปิดแอสเซทพลัสทรัพย์มั่นคง 6M1 (SIF-6M1) ซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้ที่เปิดเสนอขายทุกรอบ 6 เดือนโดยประมาณ โดยในรอบการลงทุนนี้ กองทุนจะลงทุนตราสารหนี้ไทย อายุประมาณ 6 เดือน ผลตอบแทนประมาณ 3.10% ต่อปี

และกองทุนเปิดแอสเซทพลัสตราสารหนี้ทวีทรัพย์ 6 (ASP-TFIXED6) ซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้ที่เปิดเสนอขายเป็นรอบระยะเวลา โดยรอบการลงทุนนี้จะลงทุนในพันธบัตร และตราสารหนี้ไทย อายุประมาณ 3 เดือน ผลตอบแทนประมาณ 2.90% ต่อปี* ซึ่งเหมาะต่อผู้ต้องการลงทุนในระยะสั้นๆ

ส่วนวันที่ 8 สิงหาคมบริษัทฯ จะ Rollover กองทุนเปิดแอสเซทพลัสตราสารหนี้ทวีทรัพย์ 1 (ASP-TFIXED1) ซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้ที่เปิดเสนอขายเป็นรอบระยะเวลา โดยรอบการลงทุนนี้จะลงทุนในตราสารหนี้ไทยและต่างประเทศ อายุประมาณ 6 เดือน ผลตอบแทน 3.18% ต่อปี